xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ในฝันแบบนี้ชอบกันมั้ย? “สุพัฒนพงษ์” รมว.คลัง เปิดทาง “สุริยะ” ฮุบพลังงาน จัด “สันติ” สลับไปนั่งอุตสาหกรรม **“เพนกวิน” นั่งกินชีสเค้ก กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ! ทำให้เชื่อม็อบมีนักการเมือง-ต่างชาติหนุนหลัง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข่าวปนคน คนปนข่าว







**ครม.ในฝันแบบนี้ชอบกันมั้ย? สุพัฒนพงษ์ รมว.คลัง ดัน นฤมล ประกบเป็น รมช.คลัง เปิดทาง สุริยะ ฮุบพลังงาน จัด สันติ พร้อมมาก สลับไปนั่งอุตสาหกรรมแทน

ขณะที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เร่งตั้ง รมว.คลัง แทน “ปรีดี ดาวฉาย” ที่ลาออกไป โดยบอกว่าจะรอเวลาที่เหมาะสม แต่ก็มีความเคลื่อนไหวเป็นรายงานข่าวออกมาจาก “พรรคพลังประชารัฐ” โดยแกนนำกลุ่มก๊วนภายในตกลงกันจะเสนอให้ลุงๆ พิจารณา “ปรับ ครม.ใหม่” อีกรอบ โดยเห็นว่า “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ซึ่งปัจจุบันเป็นรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ให้เปลี่ยนมาเป็น รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง ด้วยเหตุผลที่ว่า ในเวลานี้ยากที่จะทาบทามคนนอกคนอื่นที่เหมาะสมมานั่งในตำแหน่งนี้แทน “ปรีดี” ได้ หากปล่อยไว้เนิ่นนานรัฐบาลจะบริหารงานลำบาก โดยเฉพาะการดูแลปัญหาเศรษฐกิจ และการฟื้นฟูผลกระทบจากวิกฤตโควิด ที่ไม่มีเจ้าภาพ

ว่ากันว่า แผนการนี้ หาก “สุพัฒนพงษ์” ตอบรับก็จะเกิดการขยับในคณะรัฐมนตรีเพื่อจัดสรรตำแหน่งใหม่ โอกาสที่พลังประชารัฐ อาจจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยเพิ่มอีก 1 ที่นั่ง ก็มีสูง เพราะเมื่อ “สุพัฒนพงษ์” ลุกไปนั่ง รมว.คลัง ตำแหน่ง รมว.พลังงาน ก็จะว่างลง กลุ่มก๊วนในพลังประชารัฐ ซึ่งแน่นอนว่า กลุ่ม “สองมิตร” ของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน” ย่อมจะทั้งผลักทั้งดัน หมายมั่นให้ “สุริยะ” จาก รมว.อุตสาหกรรม มานั่ง รมว.พลังงาน แทน สุพัฒนพงษ์

ฟังว่า หลังจากที่ “สุริยะ” กินแห้ว รมว.พลังงาน มาสองครั้ง ทั้งๆ ที่มี “สัญญาใจ” กับลุงๆ ก็ตาม ที่นาทีสุดท้ายก็วืดทุกครั้ง... ครั้งนี้กลุ่มสองมิตร และ พันธมิตรพลิกตำรามาอย่างดี โดยจะยื่นข้อเสนอที่เชื่อว่า ลุงๆ จะปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ “สุริยะ” ฮุบพลังงานได้สำเร็จเสียที !!

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ขณะที่ เมื่อ “สุริยะ” ตะกายดาวได้พลังงาน โควตา รมว.อุตสาหกรรม ที่ว่าลงก็เตรียมจะให้ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ที่แม้จะออกตัวแรงว่า “พร้อมมาก” ที่จะขึ้นเป็น “ขุนคลัง” เสนอตัวให้ลุงตู่เลือก บรรดาแกนนำพลังประชารัฐ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แทน “สุริยะ”
พร้อมๆ กับดัน “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” คนที่เคลมโปรไฟล์ และพรีเซนต์ว่าเป็นหัวหน้า “ทีมเศรษฐกิจ” ของพลังประชารัฐ จาก รมช.แรงงาน กลับมาเป็น รมช.คลัง แทนที่ตำแหน่งของ “สันติ” ตามที่เธอใฝ่ฝัน

การจัดสรรผลประโยชน์ในตำแหน่งที่ว่ามา เห็นว่าแต่ละกลุ่มแต่ละก๊วนในพรรคพลังประชารัฐ ล้วนยินดีปรีดา เพราะ “Win-Win” ด้วยกันทุกฝ่าย แต่ก็ขึ้นอยู่กับ “ลุงป้อมและลุงตู่” จะเออออ โอเค ด้วยหรือไม่ ?

งานนี้ หากทั้งสองลุงเห็นดีเห็นงาม การปรับ ครม.เป็นไปตามโผที่แพลมออกมานี้ ย่อมต้องมองกันว่า “ลุงตู่” ศิโรราบให้กับการเมือง 100% ตำแหน่งรัฐมนตรีก็เป็นเพียง “สมบัติผลัดกันชม” ของนักการเมือง ส่วน ครม.“New normal” ของนายกฯ ที่เคยๆ ว่าไว้ ก็จะเป็นแค่ลมปากที่ล่องลอยไปตามสายลมเท่านั้น ในแง่ของประชาชนก็คงต้องถามกันละว่า “ครม.ในฝัน” แบบนี้ชอบกันมั้ย ?



นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ - สันติ พร้อมพัฒน์
**เพนกวิน นั่งกินชีสเค้ก กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ! ทำให้คนเชื่อภาพมันฟ้องว่าม็อบมีนักการเมือง-ต่างชาติหนุนหลัง

ขณะที่ม็อบจ่อชุมชุม 19 ก.ย.นี้ ก็มีประเด็นน่าสนใจยิ่ง จากผลสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ล่าสุด ซึ่งได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “หยุดแกนนำม็อบ” พบว่า โดยภาพรวมคนไทยเกือบทั้งประเทศเป็นส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 92.2 ระบุ ความเครียดว่า ม็อบต่างๆ จะซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ ในขณะที่เพียงร้อยละ 7.8 บอกว่าไม่เครียด
แล้วเมื่อดูลึกลงไปก็พบว่า คนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.1 เชื่อว่า ม็อบต่างๆ มีขบวนการ “นักการเมืองและต่างชาติ” หนุนอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ ร้อยละ 14.9 เชื่อว่า ไม่มี
ว่าโดยเฉพาะ ภาพลักษณ์ของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” แกนนำม็อบคนสำคัญที่ปรากฏภาพเคยนั่งร่วมวงสนทนา พร้อมรับประทาน “ชีสเค้ก” กับ เจ้าหน้าที่รัฐของต่างชาติ คนส่วนใหญ่เห็นว่า สร้างความเสื่อมเสียต่อตัวเองและประเทศชาติ ร้อยละ 85.2 ในขณะที่ร้อยละ 14.8 ระบุ ไม่เสื่อมเสีย
ประเด็นต่อเนื่องกันนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.1 ระบุว่า ภาพลักษณ์ของ “เพนกวิน”, “ไมค์ ระยอง” แกนนำม็อบ ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ทำงานให้ใครบางคน ฝ่ายการเมืองเบื้องหลัง หรือทำงานให้ต่างชาติผู้หนุนอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ ร้อยละ 36.9 ระบุ ทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ

พริษฐ์ ชิวารักษ์ นั่งกินชีสเค้ก กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 75.1 เชื่อว่า มีขบวนการต่างชาติจริง ที่จ้องทำลายเสาหลักของประเทศไทยให้อ่อนแอ สั่นคลอน ไร้ระเบียบ จลาจล ควบคุมไม่ได้ เพื่ออ้างเข้ามาจัดระเบียบใหม่ หวังกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศไทย โดยมีนักการเมืองไทย และแกนนำม็อบร่วมมือกับต่างชาติ ในขณะที่ ร้อยละ 24.9 ไม่เชื่อว่ามี
ตามผลโพลนี้ชี้ให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวของ “เพนกวินและเพื่อนๆ” แกนนำม็อบบางคน ยากจะปฏิเสธ หรือ ห้ามไม่ให้คนคิดไม่ได้ว่า มีต่างชาติได้เข้ามาวาง “หมากเกมป่วนการเมือง” และพยายามจะสั่นคลอนสถาบันของชาติ โดยบ่มเพาะ “เพนกวิน” หรือ แกนนำคนอื่นๆ เอาไว้เนิ่นนานแล้ว รอจนจังหวะเวลาที่เหมาะสม ค่อยผลักดันคนเหล่านี้ ที่เปรียบเหมือน “หมาก” ออกมาเคลื่อนไหว ให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ
ความชวนเชื่อนอกจาก “ภาพกินชิสเค้กมันฟ้อง” หากดูจากเส้นทางความเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของ “เพนกวิน” ก็อดจะเป็นห่วงไม่ได้ว่า ลองถ้าแกนนำม็อบ และกลุ่มนักการเมืองไทยมีภาพลักษณ์ตกเป็นหุ่นเชิดของต่างชาติ ตามผลโพลที่ออกมา ก็ยากที่จะสลัดหลุดภาพลักษณ์ดังกล่าวได้
ว่าด้วยภาพดังกล่าวนี้เป็นเรื่องราวหลังจาก “เพนกวิน” สร้างชื่อจากการเป็นนักเรียนมัธยม ที่ลุกขึ้นถาม “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ขณะปาฐกถาเนื่องในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2558 จนถูก รปภ.หิ้วตัวออกจากงาน ก่อนจะถูกส่งตัวไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อทำการซักถามประวัติ ก่อนปล่อยตัว
จากนั้นอีกเกือบ 1 ปี ต่อมา วันที่ 2 มิถุนายน 2559 “นายกลิน ที. เดวีส์” เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ขณะนั้นและภริยา ก็เป็นเจ้าภาพ จัดวงสนทนากับเยาวชนผู้นำด้านกิจกรรมเคลื่อนไหวรณรงค์ โดยเชิญ “เพนกวิน” หรือ พริษฐ์ เข้าร่วมด้วย
นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 4 ปี “เพนกวิน” เติบโตจากเด็กมัธยม กลายเป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลายเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของม็อบกลุ่มประชาชนปลดแอกฯ ที่กำลังเขย่าการเมืองไทยอยู่ ณ เวลานี้
และจากภาพดังกล่าวนี้ เมื่อ 3-4 วันก่อน สหรัฐฯ โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถึงกับออกแถลงการณ์ว่า ภาพที่แชร์กันว่อนเน็ตของ “เพนกวินและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ” มีวัตถุประสงค์เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยเป็นภาพถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อน
เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ พบปะกับคนไทยในหลากหลายภาคส่วนเป็นประจำ มิใช่เพียงแต่นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลในรัฐบาล กองทัพ ภาคธุรกิจ และผู้นำในภาคส่วนอื่นๆ ด้วย การพบปะเช่นนี้ มิได้แสดงถึงการสนับสนุนมุมมองหนึ่งมุมมองใด
งานนี้ก็นานาจิตตัง ว่าจะเชื่อโพล จะเชื่อสหรัฐฯก็ว่ากันไป




กำลังโหลดความคิดเห็น