"ศรีสุวรรณ"เผยชาวบ้านโวยป่าไม้บุรีรัมย์ ปล่อยให้นายทุนโรงโม่หิน ตัดถนนผ่านป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาอังคาร เตรียมร้องรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ และป.ป.ช.
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า มีชาวบ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนมายังสมาคมฯ ขอให้ตรวจสอบเนื่องจากมีกลุ่มนายทุนโรงโม่หิน อดีตกำนันในพื้นที่ได้ทำการสร้างถนนตัดผ่าเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าเขาอังคาร) จากเขตพื้นที่ ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ - ต.ถนนหัก อ.นางรอง - ต.สะเดา อ.นางรอง ระยะทางประมาณ 5 กม. ความกว้างประมาณ 7-10 เมตร เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งหิน จากแหล่งสัมปทานไปจำหน่ายในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านจริง โดยแกนนำชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าถนนสายดังกล่าว เพิ่งก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณต้นปี 2563 ที่ผ่านมา โดยที่ชาวบ้านไม่มีใครทราบว่า ใครเป็นผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริงในการอนุญาต และถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่ ซึ่งถนนดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นอันมาก มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อก่อสร้างถนน และในอนาคตจะทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าได้โดยง่าย เนื่องจากมีการสัญจรที่สะดวก และไม่สามารถควบคุมได้ อีกทั้งถนนดังกล่าวมีการถมดินเป็นคันหนา ทำให้ตัดขวางทางไหลของน้ำตามธรรมชาติ ส่งผลทำให้พื้นที่ป่าด้านล่างของถนน และพื้นที่ทางการเกษตรรอบชายป่าเสื่อมโทม น้ำจากภูเขาไม่สามารถไหลเข้าสู่พื้นที่ทางการเกษตร อ่างเก็บน้ำ หรือที่นาข้าวของชาวบ้านได้
นอกจากนั้น เมื่อมีการก่อสร้างถนนเสร็จได้มีรถบรรทุกหินขนาดใหญ่ วิ่งสัญจรเข้ามาขนถ่ายหินเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดเสียงดัง เกิดมลภาวะฝุ่นละอองฟุ้งตลอดทั้งวัน รบกวนวิถีชีวิตของสัตว์ป่า และผู้คนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เข้าไปตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จริง และแจ้งให้ประชาชนทราบ แต่จนบัดนี้เรื่องก็เงียบหาย ไม่มีหน่วยงานใดออกมาชี้แจง หรือแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
พื้นที่ดังกล่าวส่วนหนึ่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เคยมอบหนังสือกำหนดให้เป็นพื้นที่โครงการป่าชุมชนแล้ว คือป่าชุมชนตำบลถนนหัก ป่าชุมชนตำบลสะเดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาอังคาร จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า โดยที่มีผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ (2) ผู้อํานวยการสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 8 (นครราชสีมา) เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาอังคาร จ.บุรีรัมย์ และมีอํานาจปฏิบัติการตาม ม.25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507
ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น หน่วยงานทั้งสอง ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งสมาคมฯ จะนำความนี้ไปร้องเรียนต่อ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติฯ และ ป.ป.ช.ต่อไป
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า มีชาวบ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนมายังสมาคมฯ ขอให้ตรวจสอบเนื่องจากมีกลุ่มนายทุนโรงโม่หิน อดีตกำนันในพื้นที่ได้ทำการสร้างถนนตัดผ่าเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าเขาอังคาร) จากเขตพื้นที่ ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ - ต.ถนนหัก อ.นางรอง - ต.สะเดา อ.นางรอง ระยะทางประมาณ 5 กม. ความกว้างประมาณ 7-10 เมตร เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งหิน จากแหล่งสัมปทานไปจำหน่ายในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านจริง โดยแกนนำชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าถนนสายดังกล่าว เพิ่งก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณต้นปี 2563 ที่ผ่านมา โดยที่ชาวบ้านไม่มีใครทราบว่า ใครเป็นผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริงในการอนุญาต และถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่ ซึ่งถนนดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นอันมาก มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อก่อสร้างถนน และในอนาคตจะทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าได้โดยง่าย เนื่องจากมีการสัญจรที่สะดวก และไม่สามารถควบคุมได้ อีกทั้งถนนดังกล่าวมีการถมดินเป็นคันหนา ทำให้ตัดขวางทางไหลของน้ำตามธรรมชาติ ส่งผลทำให้พื้นที่ป่าด้านล่างของถนน และพื้นที่ทางการเกษตรรอบชายป่าเสื่อมโทม น้ำจากภูเขาไม่สามารถไหลเข้าสู่พื้นที่ทางการเกษตร อ่างเก็บน้ำ หรือที่นาข้าวของชาวบ้านได้
นอกจากนั้น เมื่อมีการก่อสร้างถนนเสร็จได้มีรถบรรทุกหินขนาดใหญ่ วิ่งสัญจรเข้ามาขนถ่ายหินเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดเสียงดัง เกิดมลภาวะฝุ่นละอองฟุ้งตลอดทั้งวัน รบกวนวิถีชีวิตของสัตว์ป่า และผู้คนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เข้าไปตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จริง และแจ้งให้ประชาชนทราบ แต่จนบัดนี้เรื่องก็เงียบหาย ไม่มีหน่วยงานใดออกมาชี้แจง หรือแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
พื้นที่ดังกล่าวส่วนหนึ่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เคยมอบหนังสือกำหนดให้เป็นพื้นที่โครงการป่าชุมชนแล้ว คือป่าชุมชนตำบลถนนหัก ป่าชุมชนตำบลสะเดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาอังคาร จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า โดยที่มีผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ (2) ผู้อํานวยการสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 8 (นครราชสีมา) เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาอังคาร จ.บุรีรัมย์ และมีอํานาจปฏิบัติการตาม ม.25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507
ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น หน่วยงานทั้งสอง ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งสมาคมฯ จะนำความนี้ไปร้องเรียนต่อ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติฯ และ ป.ป.ช.ต่อไป