xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯแย้ม“เรือดำน้ำ”มีแผน2 “บิ๊กป้อม”ฉุนถูกโยงใบสั่ง กมธ.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กมธ.งบประมาณฯ 2564 นัดชี้ขาดซื้อเรือดำน้ำ 31 ส.ค. เรียก “ทัพเรือ” แจงเพิ่มวันนี้ “บิ๊กตู่” แอ่นอกเป็น รมว.กลาโหม โดดหนีไม่ได้ แย้มเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว หากสะดุดชั้น กมธ.สภาฯ "บิ๊กป้อม" ฉุนถูกโยง “ใบสั่ง” ยื้อโหวตซื้อเรือดำน้ำ

วานนี้ (27 ส.ค.) น.ส.วทันยา โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 (กมธ.งบฯ) เปิดเผยว่า ในการประชุม กมธ.งบฯ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ช่วงเวลา 21.00 น. ที่ประชุม กมธ.ได้พิจารณารายงานของอนุ กมธ.การฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ เสร็จสิ้น และเตรียมพิจารณารายงานของอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนเนื่องจากที่ประชุมใช้เวลาการพิจารณาทั้งวัน และเวลาล่วงเลยมามากแล้ว และเห็นว่าการพิจารณาดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นไม่ทันภายในเมื่อคืนวันที่ 26 ส.ค.จึงขอมติที่ประชุมให้เลื่อนการพิจารณารายงานของอนุ กมธ.ที่เหลือทั้งหมดรวมถึงรายงานของอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯไปพิจารณาพร้อมกันในวันที่ 31 ส.ค.นี้

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ก่อนปิดการประชุมมีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด ระหว่าง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากนายยุทธพงศ์ยังคงยืนยันจะให้พิจารณารายงานของอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ต่อ แต่นายชาดาเห็นว่า ได้ใช้เวลาประชุมจนดึก และคงไม่สามารถพิจารณาได้ทัน จนมีการปะทะคารมกัน ซึ่งนายชาดาได้ต่อว่านายยุทธพงศ์ว่า “คุณก็คิดว่าตัวคุณเก่งอยู่คนเดียว” จนทำให้เกิดปัญหา และขอมติเสียงข้างมากจากที่ประชุมให้เลื่อนการพิจารณาทั้งหมดไปในวันที่ 31 ส.ค.นี้

ขณะเดียวกันในวันนี้ (28 ส.ค.) กมธ.งบฯ ได้เชิญผู้แทนจากกองทัพเรือมาชี้แจงเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะมีการลงมติในวันที่ 31 ส.ค.นี้

รายงานข่าวจากกองทัพเรือแจ้งว่า กมธ.งบฯเพื่อให้เข้าชี้แจงเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำในวันที่ 28 ส.ค. ทั้งนี้กองทัพเรือได้เตรียมเอกสารรายละเอียดตามที่แถลงต่อสื่อมวลชนไว้เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา อาทิ สัญญาณการซื้อแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ระหว่างไทยกับจีน รวมทั้งความความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ และแผนยุทธศาสตร์ที่กองทัพเรือได้เตรียมการวางเอาไว้ชี้แจงต่อ กมธ.งบฯ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการพิจารณางบจัดซื้อเรือดำน้ำของ กมธ.งบฯ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีใบสั่งจากคนในรัฐบาลว่า เรื่องใบสั่ง นักการเมืองยุ่งกันมาตลอด การจัดซื้อเรือดำน้ำ ตนเป็น รมว.กลาโหม จะไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ แต่ได้ชี้แจงแล้วแล้วว่า ในขั้นตอนการพิจารณาของ กมธ.งบฯ ตนไม่ได้ไปสั่ง ไม่มีใครสั่ง ทราบว่าจะมีการพิจารณากันในวันที่ 28 ส.ค. และลงมติในวันที่ 31 ส.ค. ก็ต้องรอดูกันอีกที รัฐบาล และตนในฐานะเป็น รมว.กลาโหม ได้เตรียมที่จะแก้ไขปัญหา ขอให้เดินทีละขั้นตอน การทำงานเป็นขั้นตอนแบบนี้

“ผมเคยพูดไปแล้ว และไม่เคยบอกว่า ต้องซื้อ แต่ไปพาดหัวข่าวกันเอง ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ได้พูดถึงเหตุผลความจำเป็น และแหล่งที่มาของงบประมาณ ถ้าซื้อไม่ได้ จะต้องเจรจากับจีนอย่างไร ผมก็ได้เตรียมแผนงานของผมไว้อย่างนี้ ทั้งนี้ เป็นการอนุมัติมาล่วงหน้าแล้ว ขั้นตอนนี้อยู่ใน ระดับที่ 2 ที่ 3 อย่างที่ว่าในเรื่องความจำเป็น การต่อเรือไม่ได้ใช้เวลาสั้นๆ ต้องมีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ไว้ อะไรที่คุยไว้ จะผ่อนยืดระยะได้บ้างไหม ซึ่งตรงนี้ต้องคุยกัน มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำงานคนเดียว ฉะนั้น ทั้งหมดต้องรับผิดชอบด้วยกันอยู่แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ และเป็น รมว.กลาโหมด้วย ขอแต่เพียงความเข้าใจ ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ขัดแย้งกันอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี นายยุทธพงศ์ ออกมาเปิดเผยว่าอาจมีใบสั่งจากทางรัฐบาลให้เลื่อนการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ใน กมธ.งบฯว่า "ไม่มี ใบสั่งใบเสิ่ง ที่ไหนเล่า"

เมื่อถามย้ำว่า มี ส.ส.อ้างว่า มีใบสั่งจากทางรัฐบาลเข้าไป พล.อ.ประวิตรตอบสวนทันทีว่า "เอ้ย! ให้ใครล่ะ ใครบอก โธ่" เมื่อถามว่า ยังมั่นใจว่างบฯจัดซื้อเรือดำน้ำจะผ่านหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวเพียงว่า “ไม่รู้”

อีกด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงมติพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่กำลังจะพิจารณาใน กมธ.งบฯว่า มติดังกล่าวคือให้ กมธ.งบฯในสัดส่วนของพรรคไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทราบความคืบหน้าว่าเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มีการหารือในระดับหนึ่ง และมอบให้ กมธ.งบฯชุดใหญ่ ที่จะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงอีกครั้ง ตนคิดว่าอำนาจในการตัดสินใจ อยู่ที่ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่ เข้าใจว่าคงจะมีการสรุปด้วยเหตุผล ดังนั้น มติจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่


กำลังโหลดความคิดเห็น