นายกฯสั่งดำเนินคดี “แกนนำม็อบ” ที่มีคดีติดตัว-อยู่ระหว่างประกัน แต่ยังออกมาชุมนุม ด้าน “โฆษก สตช.” ปัดข่าว ตชด.เตรียมที่คุมตัว “ม็อบปลดแอก” แจงแค่จัดสถานที่ตามปกติ ไร้นัยดำเนินคดี
วานนี้ (30 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 6/2563 และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2563 โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผู้บริหาร สตช.ให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช.เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกฯกำชับเรื่องสถานการณ์การชุมนุมเพื่อแสดงออกทางการเมืองในช่วงนี้ โดยให้ตำรวจดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่มีหมายจับค้างเก่า มีคดีติดตัว หรือได้รับการประกันตัวออกมา แล้วกลับมายุยงปลุกปั่นให้การชุมนุมไม่เป็นไปตามกฎหมาย กลับมากระทำผิดซ้ำด้วยการจัดการชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อรองรับผู้ชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอกนั้น พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ได้มีการตรวจสอบไปยัง ตชด.แล้วพบว่า เป็นการสั่งการภายในของหน่วยเพื่อตรวจสอบ และจัดการสถานที่ตามปกติ ไม่มีนัยใดๆ และไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม
พท.จี้นายกฯคุยม็อบด้วยตัวเอง
อีกด้าน ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเยาวชน และการป้องกันการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ โดยได้สอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาชี้แจงแทนว่า การชุมนุมของนิสิตนักศึกษาได้ขยายวงกว้างอย่างน้อย 41 จังหวัดแล้ว ตนมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะมีการคุมคามข่มขู่ ปิดกั้น และยังมีกลุ่มแฝงเร้นเป็นผู้ร่วมชุมนุม มีการยกป้ายแทรกป้ายสี มีการจัดเวทีย่อยๆ โดยมีเนื้อหาที่ต่างไปจาก 3 ข้อเรียกร้อง โดยมีข้อความที่เปราะบาง ละเอียดอ่อน จึงอยากถามเหตุการณ์คุมคามที่มีผู้แปลกปลอมจัดเวทีที่ไม่ใช่ผู้ชุมนุมปกติ รัฐบาลมีแนวทางในการยับยั้ง การคุมคามการปะทะกับผู้ชุมนุมอย่างไร รวมถึงกรณีรายงานวิทยุสั่งการเตรียมการของ ตชด. ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อสนับสนุนอาคารใช้เป็นกองร้อยควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย มีการจัดเตรียมกำลังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ แล้วยังมีการเตรียมสถานที่เพื่อควบคุมกลุ่มผู้ชุมนม 100 คน พร้อมทั้งระบุด้วยว่า เตรียมการอาคารรองรับควบคุมแกนนำ โดยเฉพาะอีก 5 คนด้วย ถือเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อสลายการผู้ชุมนุมหรือไม่
“ตามข้อเรียกร้อง 2 ใน 3 ข้อ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วให้มีการยุบสภา นายกฯ มีนโยบายอย่างไร จะเชิญกลุ่มนักศึกษาไปพูดคุยที่ทำเนียบฯ หรือเดินไปหาเข้าม็อบหรือไม่ เพราะเขายินดีที่จะคุยกันนายกฯโดยตรง ถ้านายกฯไม่มีสัญญาประชาคมเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ก่อนวันที่ 2 ส.ค.นี้ กลุ่มนักศึกษาจะเริ่มชุมนุมใหญ่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีกลุ่มไม่หวังดี จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า ลูกหลานเราจะถูกทำลายจากอันตรายจากคนไม่หวังดี” นพ.ชลน่าน กล่าว
รบ.พร้อมรับฟังข้อเสนอม็อบ
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ กล่าวตอบว่า รัฐบาลห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความปลอดภัยของผู้ชุมนุม การดูแลผู้ชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกการชุมนุม ลดผลกระทบให้กับผู้ใช้เส้นทางจราจร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ต้องมีความอดทนในการชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ ดูแลความปลอดภัย และการดำเนินการตามกฎหมาย การชุมนุมต้องไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนเอกสารวิทยุสั่งการของฝ่ายความมั่นคงนั้น ไม่ใช่การเตรียมการสลายการชุมุนม และไม่ใช่นโยบายของนายกฯด้วย แต่การดูแลความเรียบร้อยจำเป็นต้องมีแผนเตรียมกำลังพลให้พร้อมเท่านั้น ยืนยันว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญรับฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มนิสิตนักศึกษา โดยจะนำข้อเรียกร้องไปพิจารณาต่อไป โดยล่าสุดสภาฯได้ตั้งกมธ.วิสามัญรับฟังข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาขึ้นมา ทราบว่า จะมีการประชุมในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เป็นนัดแรก เพื่อรับฟังข้อเสนอไปเสนอมายังรัฐบาล โดยรัฐบาลยินดีรับฟัง ซึ่งรัฐบาลคิดว่า นิสิตนักศึกษาเป็นกำลังสำคัญของชาติ เรายินดีรับฟังทุกช่องทาง
ห่วงปัญหาม็อบชนม็อบ
ขณะที่ นายสุทิน คลังเแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องการชุมนุม ซึ่งมีท่าทีว่าจะขยายตัวขึ้น รัฐได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะทราบวาจะมีผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งออกมา ในทำนองสนับสนุนรัฐบาล และต่อต้านผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งตนต้องฝากนายกฯ และฝากทุกๆคน ว่าวันนี้คนไทยทุกๆคน ต้องคิดให้มาก ลักษณะอย่างนี้เป็นโมเดลที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต เมื่อมีผู้ชุมนุมฝ่ายหนึ่งแล้ว รัฐบาลก็มักจะเอาผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งมา ถือว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาม็อบอีกวิธีของรัฐบาล ซึ่งนิยมใช้ในอดีต แล้วสุดท้ายก็จบลงโดยไม่ดีสักครั้ง เหมือนกับที่มีการยึดอำนาจเมื่อปี 49 หรือปี 57
“อาชีวะฯ”ว๊ากหยุดก้าวล่วงฯ
วันเดียวกันมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายจุดทั้งสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล โดยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน กทม. กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ พร้อมด้วยเครือข่าย และประชาชน ได้นัดรวมตัวทำกิจกรรมเพื่อแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์ โดยภายในกิจกรรมได้มีการร้องเพลงปลุกใจ เปล่งเสียงทรงพระเจริญ พร้อมชูป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ และชูป้ายที่มีข้อความ อาทิ หยุดก้าวล่วง หยุดคุกคามสถาบัน เป็นต้น โดยได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว ประกอบด้วยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายทศพล มนูญญรัตน์ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจที่จงรักภักดี ตอนหนึ่งว่า กลุ่มทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ จะเคลื่อนไหวโดยดำเนินกิจกรรมให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเจตนาที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการต่อต้าน ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจที่จงรักภักดี
นอกจากนี้ยังมี กลุ่มรักแผ่นดินเกิด นำโดยนายบัญชา บุญพยุง ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคล, กลุ่มบุคคล และนักการเมือง ที่มีส่วนเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองในห้วงที่ผ่านมา ในข้อหายุยง ปลุกปั่น บิดเบือนสร้างความแตกแยกในประเทศ ที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยมี พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.สำราญราษฎร์ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วย
บุกทำเนียบฯล้างจานไล่รัฐบาล
ขณะที่ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.อาทิตยา พรพรม และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรม "ลูกหลานนักศึกษาล้างจาน : ล้างอยุติธรรม : ล้างบางรัฐบาลเผด็จการ" ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์ ของการขับไล่รัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล รื้อฟื้นคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และขอให้รัฐบาลตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวน ที่เกี่ยวข้องว่า บกพร่องในหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ โดยได้ทำกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ ล้างจาน 3 ใบ ที่มีข้อความโจมตีรัฐบาล กรณีคดีของนายวรยุทธ, งบประมาณจัดซื้ออาวุธ และการไม่มีเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤตโควิด-19 และนำจานใบที่ 4 มี ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ มาล้าง โดยตัวแทนกลุ่มตะโกนว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากตัว พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อล้างไม่ออกก็ต้องทุบทิ้ง จากนั้นได้มีการนำค้อนมาทุบจานใบดังกล่าวต่อหน้าสื่อมวลชน
ทางด้าน กลุ่มแนวร่วมนวชีวิน และ กลุ่มฝั่งธนแต่เราจะไม่ทน พร้อมด้วยนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ร่วมจัดกิจกรรม “Hamtaro Oak Oak Run” ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันก่อนที่ทางแกนนำจะปราศรัย มีการนำบ้านกระดาษกงเต็กและเงินกระดาษมาฉีก เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านระบอบเผด็จการ จากนั้นวิ่งรอบอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ประกอบเพลงแฮมทาโร่ เวอร์ชั่นยุบสภา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักเรียน นักศึกษา และประชาชน เดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก.
วานนี้ (30 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 6/2563 และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2563 โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผู้บริหาร สตช.ให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช.เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกฯกำชับเรื่องสถานการณ์การชุมนุมเพื่อแสดงออกทางการเมืองในช่วงนี้ โดยให้ตำรวจดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่มีหมายจับค้างเก่า มีคดีติดตัว หรือได้รับการประกันตัวออกมา แล้วกลับมายุยงปลุกปั่นให้การชุมนุมไม่เป็นไปตามกฎหมาย กลับมากระทำผิดซ้ำด้วยการจัดการชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อรองรับผู้ชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอกนั้น พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ได้มีการตรวจสอบไปยัง ตชด.แล้วพบว่า เป็นการสั่งการภายในของหน่วยเพื่อตรวจสอบ และจัดการสถานที่ตามปกติ ไม่มีนัยใดๆ และไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม
พท.จี้นายกฯคุยม็อบด้วยตัวเอง
อีกด้าน ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเยาวชน และการป้องกันการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ โดยได้สอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาชี้แจงแทนว่า การชุมนุมของนิสิตนักศึกษาได้ขยายวงกว้างอย่างน้อย 41 จังหวัดแล้ว ตนมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะมีการคุมคามข่มขู่ ปิดกั้น และยังมีกลุ่มแฝงเร้นเป็นผู้ร่วมชุมนุม มีการยกป้ายแทรกป้ายสี มีการจัดเวทีย่อยๆ โดยมีเนื้อหาที่ต่างไปจาก 3 ข้อเรียกร้อง โดยมีข้อความที่เปราะบาง ละเอียดอ่อน จึงอยากถามเหตุการณ์คุมคามที่มีผู้แปลกปลอมจัดเวทีที่ไม่ใช่ผู้ชุมนุมปกติ รัฐบาลมีแนวทางในการยับยั้ง การคุมคามการปะทะกับผู้ชุมนุมอย่างไร รวมถึงกรณีรายงานวิทยุสั่งการเตรียมการของ ตชด. ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อสนับสนุนอาคารใช้เป็นกองร้อยควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย มีการจัดเตรียมกำลังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ แล้วยังมีการเตรียมสถานที่เพื่อควบคุมกลุ่มผู้ชุมนม 100 คน พร้อมทั้งระบุด้วยว่า เตรียมการอาคารรองรับควบคุมแกนนำ โดยเฉพาะอีก 5 คนด้วย ถือเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อสลายการผู้ชุมนุมหรือไม่
“ตามข้อเรียกร้อง 2 ใน 3 ข้อ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วให้มีการยุบสภา นายกฯ มีนโยบายอย่างไร จะเชิญกลุ่มนักศึกษาไปพูดคุยที่ทำเนียบฯ หรือเดินไปหาเข้าม็อบหรือไม่ เพราะเขายินดีที่จะคุยกันนายกฯโดยตรง ถ้านายกฯไม่มีสัญญาประชาคมเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ก่อนวันที่ 2 ส.ค.นี้ กลุ่มนักศึกษาจะเริ่มชุมนุมใหญ่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีกลุ่มไม่หวังดี จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า ลูกหลานเราจะถูกทำลายจากอันตรายจากคนไม่หวังดี” นพ.ชลน่าน กล่าว
รบ.พร้อมรับฟังข้อเสนอม็อบ
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ กล่าวตอบว่า รัฐบาลห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความปลอดภัยของผู้ชุมนุม การดูแลผู้ชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกการชุมนุม ลดผลกระทบให้กับผู้ใช้เส้นทางจราจร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ต้องมีความอดทนในการชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ ดูแลความปลอดภัย และการดำเนินการตามกฎหมาย การชุมนุมต้องไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนเอกสารวิทยุสั่งการของฝ่ายความมั่นคงนั้น ไม่ใช่การเตรียมการสลายการชุมุนม และไม่ใช่นโยบายของนายกฯด้วย แต่การดูแลความเรียบร้อยจำเป็นต้องมีแผนเตรียมกำลังพลให้พร้อมเท่านั้น ยืนยันว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญรับฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มนิสิตนักศึกษา โดยจะนำข้อเรียกร้องไปพิจารณาต่อไป โดยล่าสุดสภาฯได้ตั้งกมธ.วิสามัญรับฟังข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาขึ้นมา ทราบว่า จะมีการประชุมในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เป็นนัดแรก เพื่อรับฟังข้อเสนอไปเสนอมายังรัฐบาล โดยรัฐบาลยินดีรับฟัง ซึ่งรัฐบาลคิดว่า นิสิตนักศึกษาเป็นกำลังสำคัญของชาติ เรายินดีรับฟังทุกช่องทาง
ห่วงปัญหาม็อบชนม็อบ
ขณะที่ นายสุทิน คลังเแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องการชุมนุม ซึ่งมีท่าทีว่าจะขยายตัวขึ้น รัฐได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะทราบวาจะมีผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งออกมา ในทำนองสนับสนุนรัฐบาล และต่อต้านผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งตนต้องฝากนายกฯ และฝากทุกๆคน ว่าวันนี้คนไทยทุกๆคน ต้องคิดให้มาก ลักษณะอย่างนี้เป็นโมเดลที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต เมื่อมีผู้ชุมนุมฝ่ายหนึ่งแล้ว รัฐบาลก็มักจะเอาผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งมา ถือว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาม็อบอีกวิธีของรัฐบาล ซึ่งนิยมใช้ในอดีต แล้วสุดท้ายก็จบลงโดยไม่ดีสักครั้ง เหมือนกับที่มีการยึดอำนาจเมื่อปี 49 หรือปี 57
“อาชีวะฯ”ว๊ากหยุดก้าวล่วงฯ
วันเดียวกันมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายจุดทั้งสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล โดยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน กทม. กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ พร้อมด้วยเครือข่าย และประชาชน ได้นัดรวมตัวทำกิจกรรมเพื่อแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์ โดยภายในกิจกรรมได้มีการร้องเพลงปลุกใจ เปล่งเสียงทรงพระเจริญ พร้อมชูป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ และชูป้ายที่มีข้อความ อาทิ หยุดก้าวล่วง หยุดคุกคามสถาบัน เป็นต้น โดยได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว ประกอบด้วยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายทศพล มนูญญรัตน์ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจที่จงรักภักดี ตอนหนึ่งว่า กลุ่มทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ จะเคลื่อนไหวโดยดำเนินกิจกรรมให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเจตนาที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการต่อต้าน ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจที่จงรักภักดี
นอกจากนี้ยังมี กลุ่มรักแผ่นดินเกิด นำโดยนายบัญชา บุญพยุง ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคล, กลุ่มบุคคล และนักการเมือง ที่มีส่วนเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองในห้วงที่ผ่านมา ในข้อหายุยง ปลุกปั่น บิดเบือนสร้างความแตกแยกในประเทศ ที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยมี พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.สำราญราษฎร์ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วย
บุกทำเนียบฯล้างจานไล่รัฐบาล
ขณะที่ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.อาทิตยา พรพรม และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรม "ลูกหลานนักศึกษาล้างจาน : ล้างอยุติธรรม : ล้างบางรัฐบาลเผด็จการ" ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์ ของการขับไล่รัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล รื้อฟื้นคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และขอให้รัฐบาลตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวน ที่เกี่ยวข้องว่า บกพร่องในหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ โดยได้ทำกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ ล้างจาน 3 ใบ ที่มีข้อความโจมตีรัฐบาล กรณีคดีของนายวรยุทธ, งบประมาณจัดซื้ออาวุธ และการไม่มีเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤตโควิด-19 และนำจานใบที่ 4 มี ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ มาล้าง โดยตัวแทนกลุ่มตะโกนว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากตัว พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อล้างไม่ออกก็ต้องทุบทิ้ง จากนั้นได้มีการนำค้อนมาทุบจานใบดังกล่าวต่อหน้าสื่อมวลชน
ทางด้าน กลุ่มแนวร่วมนวชีวิน และ กลุ่มฝั่งธนแต่เราจะไม่ทน พร้อมด้วยนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ร่วมจัดกิจกรรม “Hamtaro Oak Oak Run” ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันก่อนที่ทางแกนนำจะปราศรัย มีการนำบ้านกระดาษกงเต็กและเงินกระดาษมาฉีก เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านระบอบเผด็จการ จากนั้นวิ่งรอบอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ประกอบเพลงแฮมทาโร่ เวอร์ชั่นยุบสภา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักเรียน นักศึกษา และประชาชน เดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก.