xs
xsm
sm
md
lg

ขนส่งรายเล็ก3แสนรายส่อเลิก พิษโควิด-จี้รัฐหามาตรการอุ้ม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้ประกอบการขนส่งประเภทเอสเอ็มอี 3 แสนราย อาจต้องเลิกกิจการ หลังโควิด-19 พ่นพิษ ทำเศรษฐกิจชะลอตัว งานหด 50% ยังไร้วี่แววกระเตื้อง หวังทีมเศรษฐกิจใหม่ สานต่อมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา หลัง"อุตตม"เตรียมช่วย แต่ต้องลาออกเสียก่อน

นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการรถขนส่งในประเทศที่เป็นรถรับจ้างสาธารณะ ไม่ประจำทางซึ่งเป็นรายขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ส่วนใหญ่เป็นของคนไทย ประมาณ 3 แสนราย ยังคงประสบปัญหามีงานขนส่งเฉลี่ยเพียง 40%-50% ซึ่งเป็นผลมาจากไวรัสโควิด-19 ที่ฉุดการเติบโตเศรษฐกิจ หากรัฐไม่หามาตรการกระตุ้น หรือดูแล ผู้ประกอบการเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะต้องปิดกิจการลง โดยก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการได้ไปยื่นข้อเสนอถึงนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อขอการช่วยเหลือ แต่ต่อมานายอุตตมได้ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องรอทีมศก.ชุดใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อความช่วยเหลือ

"ก่อนหน้านี้ขนส่งเอสเอ็มอี ไม่มีงานเลย 3-4 เดือน จากผลกระทบโควิด-19 ทางเราได้เข้าไปยื่นหนังสือกับนายอุตตม ให้ช่วยเหลือและนายอุตตม ได้หารือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) ที่จะหามาตรการเข้ามาดูแล แต่ล่าสุดก็ยังไม่ได้คืบหน้า เพราะนายอุตตมได้ลาออกเสียก่อน ก็คงจะต้องรอคนใหม่หรือทีมเศรษฐกิจใหม่มาแก้เร่งด่วน เพราะสิ่งที่กังวลคือช่วง ส.ค.-ต.ค. มาตรการยืดการชำระหนี้จะหมดลง ดอกเบี้ยจะกลับมาสู่ปกติ ผู้ประกอบการคงไม่มีความสามารถในการชำระหนี้โอกาสถูกยึดรถ และเลิกกิจการจะมีสูงมาก และยังส่งผลให้พนักงานขับรถบรรทุกตกงานกว่า 4 ล้านคน" นายทองอยู่ กล่าว

ปัจจุบันรถบรรทุกมีประมาณ1.4 ล้านคัน (6 ล้อขึ้นไป) ซึ่งรายใหญ่และกลาง ที่ผ่านมาถูกต่างชาติเข้ามาซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์)ไปเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือที่เป็นคนไทยที่เป็นรายย่อย และส่วนใหญ่เป็นการรับงานต่อจากรายใหญ่ซึ่งมาตรการที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐช่วยเหลือ อาทิ การปรับลดภาษีหัก ณ ที่จ่ายลง จาก 1% เหลือ 0.5% เพื่อคงการจ้างงานพนักงานขับรถไว้ การจัดตั้งกองทุนวงเงิน 2-3 หมื่นล้าน เพื่อช่วยเหลือด้านการเงิน รวมไปถึงระยะยาวรัฐควรพิจารณาช่วยเหลือในรูปแบบแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อเข้ามาช่วยดูแลระบบขนส่งของธุรกิจ เป็นต้น

นาย ยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานผู้ก่อตั้งสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกอาเซียน กล่าวว่าขณะนี้ธุรกิจภาคขนส่งรายใหญ่ของโลก ล้วนเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยหลังจากที่ไทยมีการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA)กับหลายประเทศ โดยเข้ามาใน 2 รูปแบบ ได้แก่ ซื้อบริษัทขนาดเล็กแล้วให้คนไทยบริหาร กับการเข้ามาซื้อบริษัทแล้วบริหารเองทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากภูมิศาสตร์ของไทย เป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งในภูมิภาคอาเซียนที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และยังเชื่อมโยงการขนส่งทางบกไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงอินเดีย

"ขนส่งรายใหญ่ของโลก10 รายล้วนมาดำเนินธุรกิจในไทยหมดแล้วเพราะเรามีภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียนและยังเชื่อมไปยังอินเดีย จีน ประกอบกับเรามีถนนที่ดีสุดในอาเซียน ธุรกิจขนส่งของไทยจริงๆเหลือแค่รายเล็กและเมื่อโควิด-19 มาครั้งนี้ขนส่งของไทยก็อาจจะเหลือน้อยลงไปอีก”นายยูกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น