แกนนำ นปช.ระทึก!! ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ปี 50 ย้อนผลอุทธรณ์สั่งจำคุก 4 ปี เผย “วีระ-เต้น-วิภูแถลง-เหวง” ขอให้การเป็นรับสารภาพในชั้นฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. จะมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บุกปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 หลังจากที่เลื่อนมาจากวันที่ 30 เม.ย. เนื่องจากติดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
โดยคดีดังกล่าวพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
โดยคดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วรวม 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ก.ค.62 ครั้งนั้นนายวีระกานต์ จำเลยที่ 4 ป่วย, ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ก.ย.62 แต่จำเลยที่ 4-7 ขอกลับคำให้การเดิมจากปฏิเสธสู้คดี เป็นขอรับสารภาพผิด ศาลอาญาจึงต้องส่งคำพิพากษากลับไปให้ศาลฎีกาพิจารณาใหม่, ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.พ.63 นายนพรุจ จำเลยที่ 1 ย้ายที่อยู่ไม่สามารถส่งหมายนัดได้ และครั้งที่ 4 จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 จำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน ยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3
ขณะที่ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.60 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า พวกจำเลยมีความผิดฐานเป็น ผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก เป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 จำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3
โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ย.62 ศาลได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เนื่องจากก่อนวันนัด นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยปฏิเสธความผิด ขอต่อสู้คดี โดยได้ยื่นคำให้การใหม่ เป็นให้การเป็นรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี ศาลอาญาจึงต้องส่งคำพิพากษาศาลฎีกาคืนให้ศาลฎีกาพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ยังคงยืนยันให้การปฏิเสธ เพราะยังมีหลักฐานสู้คดีเป็นใบรับรองแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. จะมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บุกปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 หลังจากที่เลื่อนมาจากวันที่ 30 เม.ย. เนื่องจากติดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
โดยคดีดังกล่าวพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
โดยคดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วรวม 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ก.ค.62 ครั้งนั้นนายวีระกานต์ จำเลยที่ 4 ป่วย, ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ก.ย.62 แต่จำเลยที่ 4-7 ขอกลับคำให้การเดิมจากปฏิเสธสู้คดี เป็นขอรับสารภาพผิด ศาลอาญาจึงต้องส่งคำพิพากษากลับไปให้ศาลฎีกาพิจารณาใหม่, ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.พ.63 นายนพรุจ จำเลยที่ 1 ย้ายที่อยู่ไม่สามารถส่งหมายนัดได้ และครั้งที่ 4 จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 จำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน ยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3
ขณะที่ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.60 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า พวกจำเลยมีความผิดฐานเป็น ผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก เป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 จำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3
โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ย.62 ศาลได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เนื่องจากก่อนวันนัด นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยปฏิเสธความผิด ขอต่อสู้คดี โดยได้ยื่นคำให้การใหม่ เป็นให้การเป็นรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี ศาลอาญาจึงต้องส่งคำพิพากษาศาลฎีกาคืนให้ศาลฎีกาพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ยังคงยืนยันให้การปฏิเสธ เพราะยังมีหลักฐานสู้คดีเป็นใบรับรองแพทย์