“อนุทิน” ตอบปม “หมอชาญชัย” ลั่น “กระทรวงหมอ” ไม่มีใครแกล้งกัน ด้าน “หมอชาญชัย” แถลงข่าวแจงข้อเท็จจริงทิ้งทวน ยันเงินบริจาคทุกสตางค์นำเข้ากองทุนพัฒนาโรงพยาบาลทั้งหมด ลั่นมีหลักฐานตรวจสอบได้ เผยปรึกษาทนายเตรียมฟ้องกลับ
จากกรณีที่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น มาปฏิบัติราชการกองบริหารการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า มีมูลตามข้อร้องเรียนกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และระเบียบของราชการเรื่องเรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า 5% เข้าบัญชีกองทุนพัฒนา รพ.ศูนย์ขอนแก่น และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงแต่งตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี รักษาการผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่นแทนนั้น
วานนี้ (4 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้หารือที่มาที่ไปกับ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขโดยตลอด และขอฟังข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และมอบนโยบายไปแล้วว่า การดำเนินการใดก็ตามให้ยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ หลักยุติธรรมเป็นที่ตั้ง จะดำเนินการเรื่องอะไร ให้ว่ากันไปตามหลักฐาน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เติบโตมาได้จนถึงตำแหน่งนี้ ล้วนมีสิ่งที่เรียกว่าวุฒิภาวะ และคงไม่มีใครอยากเอาอนาคตการงานมาเสี่ยง สำหรับตนในฐานะรัฐมนตรี ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ว่ากันไปตามกฎหมาย
“ปลัดกระทรวงฯ ท่านเหลืออายุราชการอีก 3-4 เดือน ท่านต้องการเกษียณแบบไม่มีรอยด่างพร้อย การตัดสินใจของท่าน ล้วนมีเหตุและผลรองรับ ต้องไปดูข้อเท็จจริงของเรื่องทั้งหมด ขอให้มั่นใจว่าคณะกรรมการจะทำงานอย่างโปร่งใส มีตรวจสอบหลายขั้นตอน ไม่ได้ใช้อารมณ์ตัดสิน แต่ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง” นายอนุทิน ระบ
วันเดียวกัน ที่ห้องแก่นเพชร รพ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย พร้อมตัวแทนฝ่ายบริหารฯได้แถลงข่าวชี้แจงการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลที่มาจากเงินบริจาคจากบริษัทห้างร้านและบุคคลผู้ใจบุญทั้งหลายเป็นไปด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ การลดหย่อนขอคืนภาษีได้มากถึง 2 เท่า เป็นแรงจูงใจให้คนนำเงินบริจาคกันทุกปี และไม่มีการโอนหรือเบิกถอนเงินจากบัญชีนี้ เข้าบัญชีส่วนตัวของ ผอ.อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจาก ครม.มีมติห้ามรับเงินผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากบริษัทยา สังเกตุได้ว่าเงินบริจาคของโรงพยาบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลายสิบล้านบาทในช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.2561 จึงเป็นที่เข้าใจว่ามีการปฏิบัติตามคำสั่งตามมติ ครม.ว่าไม่ให้มีการรับเงินบริจาค
“เงินกองทุนต่างๆ ที่ได้บริจาคในช่วงปี 2561 โดยเฉพาะเงินบริจาคของมูลนิธิก้าวคนละก้าว ที่มีนักร้องดัง ตูน บอดี้สแลม เป็นโต้โผ จำนวนกว่า 143 ล้านบาท ได้นำเข้ากองทุนเงินพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งถูกต้องตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มีหลักเกณฑ์การใช้เงินอย่างชัดเจน การเบิกจ่ายจะต้องผ่านมติของคณะกรรมการของโรงพยาบาล” นพ.ชาญชัย กล่าว
นพ.ชาญชัย กล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวหาฉ้อราษฎร์บังหลวงที่กล่าวหาตนนั้น เป็นข้อหาร้ายแรงที่ต้องให้ตนออกจากตำแหน่ง ผอ.รพ.ขอนแก่น และเป็นที่น่าสังเกตว่าการแต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการมาแทนตนนั้น ทำไมถึงไม่ตั้งรอง ผอ.หรือ ผอ.โรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในเขตเดียวกันมารักษาการแทน กลับตั้งบุคคลที่มาจากเขตสุขภาพที่ 6 จันทบุรีมานั่งแทนตน
“ตอนนี้ได้ปรึกษาทีมทนายความเตรียมข้อมูลดำเนินการฟ้องกลับผู้ที่ออกหนังสือคำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้คือท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นายสุขุม กาญจนพิมาย) ในความผิดมาตรา 157 ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าว
จากกรณีที่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น มาปฏิบัติราชการกองบริหารการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า มีมูลตามข้อร้องเรียนกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และระเบียบของราชการเรื่องเรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า 5% เข้าบัญชีกองทุนพัฒนา รพ.ศูนย์ขอนแก่น และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงแต่งตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี รักษาการผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่นแทนนั้น
วานนี้ (4 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้หารือที่มาที่ไปกับ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขโดยตลอด และขอฟังข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และมอบนโยบายไปแล้วว่า การดำเนินการใดก็ตามให้ยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ หลักยุติธรรมเป็นที่ตั้ง จะดำเนินการเรื่องอะไร ให้ว่ากันไปตามหลักฐาน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เติบโตมาได้จนถึงตำแหน่งนี้ ล้วนมีสิ่งที่เรียกว่าวุฒิภาวะ และคงไม่มีใครอยากเอาอนาคตการงานมาเสี่ยง สำหรับตนในฐานะรัฐมนตรี ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ว่ากันไปตามกฎหมาย
“ปลัดกระทรวงฯ ท่านเหลืออายุราชการอีก 3-4 เดือน ท่านต้องการเกษียณแบบไม่มีรอยด่างพร้อย การตัดสินใจของท่าน ล้วนมีเหตุและผลรองรับ ต้องไปดูข้อเท็จจริงของเรื่องทั้งหมด ขอให้มั่นใจว่าคณะกรรมการจะทำงานอย่างโปร่งใส มีตรวจสอบหลายขั้นตอน ไม่ได้ใช้อารมณ์ตัดสิน แต่ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง” นายอนุทิน ระบ
วันเดียวกัน ที่ห้องแก่นเพชร รพ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย พร้อมตัวแทนฝ่ายบริหารฯได้แถลงข่าวชี้แจงการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลที่มาจากเงินบริจาคจากบริษัทห้างร้านและบุคคลผู้ใจบุญทั้งหลายเป็นไปด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ การลดหย่อนขอคืนภาษีได้มากถึง 2 เท่า เป็นแรงจูงใจให้คนนำเงินบริจาคกันทุกปี และไม่มีการโอนหรือเบิกถอนเงินจากบัญชีนี้ เข้าบัญชีส่วนตัวของ ผอ.อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจาก ครม.มีมติห้ามรับเงินผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากบริษัทยา สังเกตุได้ว่าเงินบริจาคของโรงพยาบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลายสิบล้านบาทในช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.2561 จึงเป็นที่เข้าใจว่ามีการปฏิบัติตามคำสั่งตามมติ ครม.ว่าไม่ให้มีการรับเงินบริจาค
“เงินกองทุนต่างๆ ที่ได้บริจาคในช่วงปี 2561 โดยเฉพาะเงินบริจาคของมูลนิธิก้าวคนละก้าว ที่มีนักร้องดัง ตูน บอดี้สแลม เป็นโต้โผ จำนวนกว่า 143 ล้านบาท ได้นำเข้ากองทุนเงินพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งถูกต้องตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มีหลักเกณฑ์การใช้เงินอย่างชัดเจน การเบิกจ่ายจะต้องผ่านมติของคณะกรรมการของโรงพยาบาล” นพ.ชาญชัย กล่าว
นพ.ชาญชัย กล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวหาฉ้อราษฎร์บังหลวงที่กล่าวหาตนนั้น เป็นข้อหาร้ายแรงที่ต้องให้ตนออกจากตำแหน่ง ผอ.รพ.ขอนแก่น และเป็นที่น่าสังเกตว่าการแต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการมาแทนตนนั้น ทำไมถึงไม่ตั้งรอง ผอ.หรือ ผอ.โรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในเขตเดียวกันมารักษาการแทน กลับตั้งบุคคลที่มาจากเขตสุขภาพที่ 6 จันทบุรีมานั่งแทนตน
“ตอนนี้ได้ปรึกษาทีมทนายความเตรียมข้อมูลดำเนินการฟ้องกลับผู้ที่ออกหนังสือคำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้คือท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นายสุขุม กาญจนพิมาย) ในความผิดมาตรา 157 ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าว