xs
xsm
sm
md
lg

โพลพอใจแจกเงิน-ลดค่าไฟ ให้เครดิต"ทีมลุงตู่"ทั้งคณะ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ซูเปอร์โพล เผยประชาชนพอใจมาตรการแจกเงินช่วงโควิด-19 ที่สุด ลดค่าไฟรองมา และต้องการให้ขยายต่อ ส่วนมากมองเป็นผลงานทีม ครม. ควรรักษาทีมนี้ไว้ เป็นห่วงความขัดแย้งทางการเมืองหลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจเรื่องสามัคคีปรองดอง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,097 ตัวอย่าง ระหว่าง 18-23 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มาตรการของรัฐบาลช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนพอใจ 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 หรือร้อยละ 83.5 ระบุมาตรการแจกเงิน รองลงมาคือ ร้อยละ 80.9 ลดค่าไฟ อันดับ 3 ร้อยละ 63.1 ลดราคาน้ำมัน อันดับ 4 ร้อยละ 34.9 ลดราคาสินค้า และ อันดับ 5 ร้อยละ 33.9 ลดค่าน้ำประปา

แต่เมื่อถามถึงความต้องการต่อมาตรการให้รัฐบาลขยายเวลาช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมอีก พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 77.9 ระบุ ลดค่าไฟ รองลงมาคือ ร้อยละ 72.2 ระบุแจกเงิน ร้อยละ 66.5 ระบุ ลดราคาน้ำมัน ร้อยละ 40.7 ระบุ ลดราคาสินค้า และ ร้อยละ 38.2 ระบุ ลดค่าน้ำประปา

เมื่อถามถึงความพอใจของประชาชนต่อมาตรการต่างๆ เป็นผลงานของทีมครม. ทั้งคณะ หรือเป็นผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 93.3 ระบุ เป็นผลงานของทีมครม.ทั้งคณะ ที่ช่วยแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่เพียงร้อยละ 6.7 ระบุเป็นผลงานของพล.อ.ประยุทธ์

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงการตัดสินใจของประชาชน ถ้าสมมติประชาชนเป็นนายกฯ ว่าจะรักษาทีมครม.นี้ไว้ หรือจะไม่รักษาทีมนี้ไว้ หลังโควิด-19 พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 จะรักษาทีมครม.นี้ไว้ ในขณะที่ร้อยละ 5.2 จะไม่รักษาทีมครม.นี้

ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ ระดับความขัดแย้งรุนแรงทางการเมือง หลังโควิด-19 พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 74.5 ระบุ ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ ร้อยละ 25.5 ระบุค่อนข้างน้อย ถึงไม่รุนแรงเลย และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 59.8 ระบุ รัฐบาลไม่สำเร็จในเรื่องความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ เพราะคนในรัฐบาลเองมีแค่ไม่กี่คน ยังไม่สามารถสามัคคีปรองดองกันได้เลย มีการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี ในช่วงเวลาชาวบ้านกำลังทุกข์จากโควิด-19 ซึ่งไม่เป็นตัวอย่างที่ดีของความสามัคคีปรองดอง ในขณะที่ ร้อยละ 40.2 ระบุ สำเร็จ เพราะรัฐบาลทำงานมาต่อเนื่อง

New Normalเที่ยวที่ปลอดเชื้อ

ด้านสวนดุสิตโพล สำรวจพฤติกรรม New Normalของประชาชนที่ต้องปรับเปลี่ยน ยุคโควิด-19 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,064 คน ระหว่างวันที่ 18-22 พ.ค.63 สรุปผลได้ ดังนี้

"10 พฤติกรรม New Normal"ของประชาชนที่ต้องปรับเปลี่ยนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อันดับ 1 การท่องเที่ยว 71.05% เลือกเที่ยวเฉพาะสถานที่ที่มั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค การเลือกพาหนะเดินทาง ฯลฯ อันดับ 2 ชอปปิ้ง เดินห้างสรรพสินค้า 61.18% ต้องระมัดระวังตัว ไปเมื่อจำเป็น ลดจำนวนครั้งที่ไป มีสิ่งป้องกัน พกเจลล้างมือ ฯลฯ อันดับ 3 การเดินทาง 59.68% ป้องกันตัวเองเมื่อใช้รถสาธารณะ ตื่นเช้ากว่าเดิม พกเจลแอลกอฮอล์ เดินทางเมื่อจำเป็น ฯลฯ อันดับ 4 ปาร์ตี้ สังสรรค์ 59.40% ลดการปาร์ตี้ สังสรรค์ ไปเฉพาะเท่าที่จำเป็น ระมัดระวังตัวมากขึ้น ฯลฯ อันดับ 5 การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโควิด-19 56.39% ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปในที่แออัด สุ่มเสี่ยง ฯลฯ

อันดับ 6 การซื้อของกินของใช้ 47.27% เน้นเรื่องความสะอาด ปลอดภัย เลือกของที่มีประโยชน์ ราคาไม่แพง ฯลฯ อันดับ 7 การทำบุญ บริจาค 46.43% เลือกสถานที่ที่สะอาด ไม่แออัด ไปในวาระสำคัญหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น ใช้วิธีการโอนเงิน ฯลฯ อันดับ 8 การดูแลสุขภาพตัวเอง 45.39% เอาใจใส่สุขภาพ ออกกำลังกาย กินอาหารเสริม วิตามิน ปรึกษาแพทย์ ฯลฯ อันดับ 9 การเลือกอาหารการกิน 45.11% เลือกอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ภาชนะปิดมิดชิด ทำทานเอง ฯลฯ อันดับ 10 การประกอบอาชีพ/การหารายได้ 42.39% สู้งาน ขยัน อดทน ไม่เลือกงาน เน้นความปลอดภัย ไม่เสี่ยงโรค ฯลฯ



กำลังโหลดความคิดเห็น