ผู้จัดการรายวัน360 - "จุรินทร์" ต้อนรับ "วิชัย" กลับกระทรวง บอกภูมิใจที่มุ่งมั่น ทุ่มเทเสียสละ และอดทนต่อการพิสูจน์ความจริง ขณะที่เจ้าตัวขอบคุณนายกฯ ให้ความเป็นธรรม ท่ามกลางข้อกังขา "อัจฉริยะ" ทั้งที่เพิ่งไปแจ้งความ บก.ปคบ. ดำเนินคดี "จุรินทร์-วิชัย" ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยเอกชนส่งออกหน้ากากอนามัย ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
วานนี้ (20พ.ค.) นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเข้าคารวะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หลังกลับมารับหน้าที่ในตำแหน่งเดิมว่า ขอขอบคุณนายกฯ ที่สั่งการให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม จากที่ให้ไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาระยะหนึ่ง หลังจากได้ผ่านการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว ทำให้ข้าราชการมั่นใจการบริหารงานและการบัญชาการของนายกฯ ข้าราชการมีขวัญกำลังใจ ซึ่งไม่เพียงแค่ตนเอง แต่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการพลเรือนอื่นที่จับตาดูอยู่ ก็มีความเชื่อมั่น เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีข้อสงสัย ไม่มีมูล ก็ได้รับการพิจารณาคืนความเป็นธรรมให้
"วันที่ 19 พ.ค.63 เป็นวันที่ผมถูกส่งตัวกลับมาทำงาน ผมมีความสุข มีความภาคภูมิใจที่สุด ชีวิตที่ทุ่มเทการทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติได้ส่งผลให้ผมกลับมาทำงานยังตำแหน่งเดิม ถือว่าได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และทำในสิ่งที่ดีมาตลอด และจากนี้ไปจะใช้ระยะเวลาที่เหลือในการทำงานตามนโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป"
นายวิชัย กล่าวว่า คำสั่งนายกฯ ในการคืนตำแหน่งที่ระบุว่า มีข้อบกพร่องบางส่วน แต่ไม่ถึงขนาดเป็นความผิดวินัยนั้น ยอมรับว่าการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยในตอนนั้นมีระยะเวลาแค่ 15 วัน จะให้สมบูรณ์แบบ 100% หรือพูดว่าไม่บกพร่องเลยเป็นไปไม่ได้ และยังเป็นเหตุการณ์เร่งด่วน แต่ทีมงานได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจมีข้อบกพร่องบ้าง ก็ต้องขออภัย แต่ไม่มีเจตนาทุจริต หรือทำให้ไม่โปร่งใส แล้วยิ่งเรื่องที่เร่งด่วนด้วย ต้องทำให้สมบูรณ์แบบด้วย คงเป็นไปได้ยากมาก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอต้อนรับนายวิชัยกลับสู่กระทรวงพาณิชย์ และภูมิใจที่มีข้าราชการที่มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละและอดทนต่อการพิสูจน์ความจริง หวังว่าท่านอธิบดีวิชัยจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการทุกคน และในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ขอแสดงความยินดีด้วยใจจริง และขอเป็นกำลังใจให้ตลอด 4 เดือนที่เหลืออยู่และตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ได้มีการตั้งข้อสังเกต การกลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายในครั้งนี้ ท่ามกลางข้อกังขาของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.วีระพล อุปชิต รอง สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ ที่กองบังคับการปราบปรามการ กระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวิชัย โภชนกิจ อดีตอธิบดีกรม การค้าภายในและพวก ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ อ้างว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 63 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดในประเทศไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้แถลงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทย สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. 63 ก็ได้ออกประกาศคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยสินค้า และบริการ เรื่อง การควบคุมส่งออกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือให้เป็นสินค้าควบคุม จึงหมายความว่าไม่มีสินค้าอยู่จริง ทำให้ต้องออกประกาศควบคุม
โดยช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการ ส่งออกหน้ากากอนามัยของบริษัทเอกชน แต่กลับอนุญาตให้บริษัทเอกชนส่งออกหน้ากากอนามัย ทั้งที่ในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยตนได้นำหลักฐานเป็นราชกิจจาฯ แต่ละฉบับมาประกอบการแจ้งความ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายวิชัย โภชนกิจ และพวก ในครั้งนี้ด้วย จากนั้น จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
วานนี้ (20พ.ค.) นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเข้าคารวะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หลังกลับมารับหน้าที่ในตำแหน่งเดิมว่า ขอขอบคุณนายกฯ ที่สั่งการให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม จากที่ให้ไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาระยะหนึ่ง หลังจากได้ผ่านการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว ทำให้ข้าราชการมั่นใจการบริหารงานและการบัญชาการของนายกฯ ข้าราชการมีขวัญกำลังใจ ซึ่งไม่เพียงแค่ตนเอง แต่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการพลเรือนอื่นที่จับตาดูอยู่ ก็มีความเชื่อมั่น เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีข้อสงสัย ไม่มีมูล ก็ได้รับการพิจารณาคืนความเป็นธรรมให้
"วันที่ 19 พ.ค.63 เป็นวันที่ผมถูกส่งตัวกลับมาทำงาน ผมมีความสุข มีความภาคภูมิใจที่สุด ชีวิตที่ทุ่มเทการทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติได้ส่งผลให้ผมกลับมาทำงานยังตำแหน่งเดิม ถือว่าได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และทำในสิ่งที่ดีมาตลอด และจากนี้ไปจะใช้ระยะเวลาที่เหลือในการทำงานตามนโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป"
นายวิชัย กล่าวว่า คำสั่งนายกฯ ในการคืนตำแหน่งที่ระบุว่า มีข้อบกพร่องบางส่วน แต่ไม่ถึงขนาดเป็นความผิดวินัยนั้น ยอมรับว่าการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยในตอนนั้นมีระยะเวลาแค่ 15 วัน จะให้สมบูรณ์แบบ 100% หรือพูดว่าไม่บกพร่องเลยเป็นไปไม่ได้ และยังเป็นเหตุการณ์เร่งด่วน แต่ทีมงานได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจมีข้อบกพร่องบ้าง ก็ต้องขออภัย แต่ไม่มีเจตนาทุจริต หรือทำให้ไม่โปร่งใส แล้วยิ่งเรื่องที่เร่งด่วนด้วย ต้องทำให้สมบูรณ์แบบด้วย คงเป็นไปได้ยากมาก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอต้อนรับนายวิชัยกลับสู่กระทรวงพาณิชย์ และภูมิใจที่มีข้าราชการที่มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละและอดทนต่อการพิสูจน์ความจริง หวังว่าท่านอธิบดีวิชัยจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการทุกคน และในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ขอแสดงความยินดีด้วยใจจริง และขอเป็นกำลังใจให้ตลอด 4 เดือนที่เหลืออยู่และตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ได้มีการตั้งข้อสังเกต การกลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายในครั้งนี้ ท่ามกลางข้อกังขาของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.วีระพล อุปชิต รอง สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ ที่กองบังคับการปราบปรามการ กระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวิชัย โภชนกิจ อดีตอธิบดีกรม การค้าภายในและพวก ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ อ้างว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 63 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดในประเทศไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้แถลงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทย สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. 63 ก็ได้ออกประกาศคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยสินค้า และบริการ เรื่อง การควบคุมส่งออกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือให้เป็นสินค้าควบคุม จึงหมายความว่าไม่มีสินค้าอยู่จริง ทำให้ต้องออกประกาศควบคุม
โดยช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการ ส่งออกหน้ากากอนามัยของบริษัทเอกชน แต่กลับอนุญาตให้บริษัทเอกชนส่งออกหน้ากากอนามัย ทั้งที่ในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยตนได้นำหลักฐานเป็นราชกิจจาฯ แต่ละฉบับมาประกอบการแจ้งความ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายวิชัย โภชนกิจ และพวก ในครั้งนี้ด้วย จากนั้น จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบต่อไป