"คลัง" แนะคน 4 กลุ่มตรวจสอบและแก้ไข ไม่ต้องไปร้องทุกข์เยียวยา 5,000 บาท เพราะก.คลังแก้ไขให้แล้ว หลังยืดเวลาเพิ่มที่ 3 แบงก์ ตั้งแต่วันที่ 18-29 พ.ค.นี้ ระบุประชาชนที่ไม่เคยลงทะเบียน รัฐจะหาทางเยียยาที่เหมาะสม
นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในระหว่างวันที่ 18-29 พ.ค. 63 โดยขอแนะนำว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดโอกาสในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผู้ที่ประสงค์จะร้องเรียนใน 4 กลุ่ม ต่อไปนี้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้องเรียนด้วยตนเอง เนื่องจาก ก.คลังได้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยแล้ว และเป็นการดำเนินการให้กับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มาร้องเรียนเท่านั้น ประกอบด้วย
1. กลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิ แต่ชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อและนามสกุลที่ลงทะเบียนไว้ ทำให้ ก.คลังไม่สามารถโอนเงินให้ได้ ประมาณ 1 ล้านราย ในส่วนของกลุ่มนี้ ผู้ลงทะเบียนได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และกำหนดจะโอนเงินเยียวยา ในวันอังคารที่ 19 พ.ค.63 จำนวน 5.9 แสนราย ส่วนที่ยังคงเหลืออีก 4.3 แสนรายนั้น ให้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์ ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่ง ก.คลัง จะมีการตรวจสอบ และโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์
2. กลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้องจำนวน 1.7 ล้านราย ก.คลัง อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการเยียวยาที่เหมาะสม
3. กลุ่มที่ได้รับแจ้งเมื่อวัที่ 14 พ.ค.63 ว่าไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากมีชื่อปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นหัวหน้าครัวเรือนแล้ว ก.คลัง ได้ตรวจสอบคัดกรองกับฐานข้อมูลชุดล่าสุดของ ก.เกษตรและสหกรณ์เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินเยียวยาในวันพุธที่ 20 พ.ค.63 โดยสามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน .com ปุ่มสีเทา “ตรวจสอบสถานะ”
4. กลุ่มที่ยังไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ขณะนี้ไม่สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมให้ได้ เนื่องจากได้ปิดรับการลงทะเบียนสำหรับมาตรการนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.63 ดังนั้น ขอให้ติดตามมาตรการเยียวยาอื่นของรัฐที่จะออกมาเพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับประชาชนในต่างจังหวัด สามารถร้องเรียนการช่วยเหลือเยียวยาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ได้ ที่ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยทุกจังหวัดอีกช่องทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะสรุปมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยคาดว่าจะมีการเสนอแนวทางในการใช้งบประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่ม คนพิการ คนชรา คนไร้บ้าน เด็กแรกเกิด และผู้ได้รับผลกระทบฉุกเฉินด้วยการแจกเงินคนละ 1,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งมีคนที่เข้าข่ายประมาณ 13-14 ล้านคน และหากเห็นชอบจะเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อในวันที่ 29 พ.ค.นี้ โดยจะเริ่มแจกเงินได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป
นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในระหว่างวันที่ 18-29 พ.ค. 63 โดยขอแนะนำว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดโอกาสในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผู้ที่ประสงค์จะร้องเรียนใน 4 กลุ่ม ต่อไปนี้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้องเรียนด้วยตนเอง เนื่องจาก ก.คลังได้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยแล้ว และเป็นการดำเนินการให้กับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มาร้องเรียนเท่านั้น ประกอบด้วย
1. กลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิ แต่ชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อและนามสกุลที่ลงทะเบียนไว้ ทำให้ ก.คลังไม่สามารถโอนเงินให้ได้ ประมาณ 1 ล้านราย ในส่วนของกลุ่มนี้ ผู้ลงทะเบียนได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และกำหนดจะโอนเงินเยียวยา ในวันอังคารที่ 19 พ.ค.63 จำนวน 5.9 แสนราย ส่วนที่ยังคงเหลืออีก 4.3 แสนรายนั้น ให้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์ ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่ง ก.คลัง จะมีการตรวจสอบ และโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์
2. กลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้องจำนวน 1.7 ล้านราย ก.คลัง อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการเยียวยาที่เหมาะสม
3. กลุ่มที่ได้รับแจ้งเมื่อวัที่ 14 พ.ค.63 ว่าไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากมีชื่อปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นหัวหน้าครัวเรือนแล้ว ก.คลัง ได้ตรวจสอบคัดกรองกับฐานข้อมูลชุดล่าสุดของ ก.เกษตรและสหกรณ์เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินเยียวยาในวันพุธที่ 20 พ.ค.63 โดยสามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน .com ปุ่มสีเทา “ตรวจสอบสถานะ”
4. กลุ่มที่ยังไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ขณะนี้ไม่สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมให้ได้ เนื่องจากได้ปิดรับการลงทะเบียนสำหรับมาตรการนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.63 ดังนั้น ขอให้ติดตามมาตรการเยียวยาอื่นของรัฐที่จะออกมาเพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับประชาชนในต่างจังหวัด สามารถร้องเรียนการช่วยเหลือเยียวยาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ได้ ที่ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยทุกจังหวัดอีกช่องทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะสรุปมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยคาดว่าจะมีการเสนอแนวทางในการใช้งบประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่ม คนพิการ คนชรา คนไร้บ้าน เด็กแรกเกิด และผู้ได้รับผลกระทบฉุกเฉินด้วยการแจกเงินคนละ 1,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งมีคนที่เข้าข่ายประมาณ 13-14 ล้านคน และหากเห็นชอบจะเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อในวันที่ 29 พ.ค.นี้ โดยจะเริ่มแจกเงินได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป
