เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ภาคีสมาชิกราชบัณฑิตยสภา
ช่วงนี้ผู้คนบางส่วนต้องการ “เสรีภาพ” ที่จะออกจากการถูกรัฐกักตัว กีดกัน ไม่ให้ชุมนุมสมาคม ปิดสถานศึกษา ปิดกิจการ บังคับให้ใส่หน้ากาก และรักษาระยะห่าง ผู้คนที่ต้องการเสรีภาพเหล่านี้ กล่าวไปในทำนองว่า “เสรีภาพนั้นย่อมสำคัญกว่าสุขภาพ” หรือ ถ้าต้องเลือกเพียงหนึ่งเดียวแล้ว ขอ “เลือก” เสรีภาพมากกว่าสุขภาพ
ในเรื่องนี้ ผู้ใหญ่บางท่านก็พูดกลับไปทำนองว่าขอเราคนไทย ช่วงนี้ “ต้องเอาสุขภาพมาแลกกับเสรีภาพ”
ถ้าถามผมว่าคิดอย่างไร? ผมว่ามันไม่ใช่เป็นการ “แลก” สุขภาพ-ชีวิต กับเสรีภาพ แต่เป็นการ “เลือก” ว่า เฉพาะในช่วงนี้เราต้อง “เลือก” ให้น้ำหนักกับ “สุขภาพ” แต่เราก็ไม่ได้แลก “สุขภาพ” กับ “เสรีภาพ” เราต้องการทั้งสองอย่าง เราจะไม่ยอมแลกอย่างหนึ่งกับอีกอย่างหนึ่ง เสรีภาพนั้น ยังไงก็ยังเป็นของเรา แต่ในสถานการณ์วิกฤตเรายอมที่จะลด “เสรีภาพ” เพื่อจะได้มาเข้มงวดเรื่อง “สุขภาพ” และ รักษาชีวิตมากขึ้น กล่าวเช่นนี้ไม่ผิดหลักแน่นอน เรานั้นยึดถือทั้งหลักการ-อุดมการ และยึดถือชีวิตและผลลัพธ์ในเชิงปฏิบัติ ด้วย !
ยิ่งกว่านั้น อย่าลืม เสรีภาพ เป็น”สิทธิ “ ดังนั้นมันต้องไปคู่กับ “หน้าที่” เสมอ สิทธินั้นไม่ใช่เพียงเรียกร้องเอามันจากรัฐบาล แต่พึงตระหนักว่า เราทุกคนมี” หน้าที่” ที่จะทำ เพื่อให้ปวงชนพ้นจากโรคระบาด จะได้กลับไปชื่นชมเสรีภาพได้อย่างเดิม เสรีนิยมนั้นสอนว่าสิทธินั้น ได้มาจากรัฐบาลเพียงส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง สำคัญไม่แพ้กัน คือได้มาจากที่ทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพื่อให้คนอื่นๆ รวมทั้งตนเองจะได้อยู่อย่างมีเสรีภาพในสังคม