วันที่ 1 พ.ค.63 ครบรอบ 1 ปีแห่งการครองคู่ขวัญ วันราชาภิเษกสมรส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นดั่งพระมิ่งขวัญ เสริมรักสร้างแผ่นดินไทยให้งดงาม อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขภายใต้ร่มพระบารมีราชจักรีวงศ์
วันแห่งประวัติศาสตร์ ที่ปวงพสกนิกรชาวไทยได้ชุ่มฉ่ำในหัวใจ เริ่มขึ้นในเวลาเย็นของ วันที่ 1 พ.ค.62 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้อง ว.ป.ร. พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงเข้าพิธีราชาภิเษกสมรส กับ พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระยศในขณะนั้น พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระอัครมเหสี เป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศ ฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
การนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระยศในขณะนั้น ทรงลงพระนามาภิไธยในฐานะทรงเป็นสักขีพยาน และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ลงนามในสมุดจดทะเบียนราชาภิเษกสมรส ในฐานะสักขีพยาน ในวาระศุภมงคลนี้ด้วย
ข่าวดีในวันนั้น ประดุจดั่งน้ำทิพย์ชะโลมหัวใจปวงพสกนิกรชาวไทยทั่วหล้า ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ หากแต่ความสุขของแผ่นดินมีเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เมื่อ วันที่ 4 พ.ค. ปีเดียวกันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ตามราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ตามราชประเพณีสืบมา
ตลอดระยะเวลา1ปีแห่งการครองคู่เป็นพระมิ่งขวัญแห่งแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งมั่นพระราชปณิธาน ที่จะ“สืบสาน รักษา ต่อยอด”แนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อทรงแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน ทั้งสองพระองค์ทรงผสานพลังรัก ทรงเป็นพระคู่ขวัญ คู่พระบารมี เสริมพลังรักแห่งแผ่นดินให้มีความร่มเย็น ทรงถักทอร้อยรักแผ่นดินไทยให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังรักที่มีต่อปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ผ่านโครงการในพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจ ต่างๆ นานัปการ ดังเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นความรักที่หามิได้
นับเป็นบุญบารมีของปวงพสกนิกรชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างหากที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสในการถวายความจงรักภักดีในพลังรักอันยิ่งใหญ่ของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์
เนื่องในโอกาสมหามงคล วันราชาภิเษกสมรส วันที่ 1 พ.ค. ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงเป็นพระมิ่งขวัญคู่พระบารมีของปวงพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
วันแห่งประวัติศาสตร์ ที่ปวงพสกนิกรชาวไทยได้ชุ่มฉ่ำในหัวใจ เริ่มขึ้นในเวลาเย็นของ วันที่ 1 พ.ค.62 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้อง ว.ป.ร. พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงเข้าพิธีราชาภิเษกสมรส กับ พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระยศในขณะนั้น พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระอัครมเหสี เป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศ ฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
การนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระยศในขณะนั้น ทรงลงพระนามาภิไธยในฐานะทรงเป็นสักขีพยาน และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ลงนามในสมุดจดทะเบียนราชาภิเษกสมรส ในฐานะสักขีพยาน ในวาระศุภมงคลนี้ด้วย
ข่าวดีในวันนั้น ประดุจดั่งน้ำทิพย์ชะโลมหัวใจปวงพสกนิกรชาวไทยทั่วหล้า ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ หากแต่ความสุขของแผ่นดินมีเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เมื่อ วันที่ 4 พ.ค. ปีเดียวกันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ตามราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ตามราชประเพณีสืบมา
ตลอดระยะเวลา1ปีแห่งการครองคู่เป็นพระมิ่งขวัญแห่งแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งมั่นพระราชปณิธาน ที่จะ“สืบสาน รักษา ต่อยอด”แนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อทรงแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน ทั้งสองพระองค์ทรงผสานพลังรัก ทรงเป็นพระคู่ขวัญ คู่พระบารมี เสริมพลังรักแห่งแผ่นดินให้มีความร่มเย็น ทรงถักทอร้อยรักแผ่นดินไทยให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังรักที่มีต่อปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ผ่านโครงการในพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจ ต่างๆ นานัปการ ดังเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นความรักที่หามิได้
นับเป็นบุญบารมีของปวงพสกนิกรชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างหากที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสในการถวายความจงรักภักดีในพลังรักอันยิ่งใหญ่ของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์
เนื่องในโอกาสมหามงคล วันราชาภิเษกสมรส วันที่ 1 พ.ค. ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงเป็นพระมิ่งขวัญคู่พระบารมีของปวงพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ