ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกฯ เผยครม.เคาะต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน คงข้อกำหนด-เคอร์ฟิวเวลาเดิม สัปดาห์นี้ชัดผ่อนปรนมาตรการใดบ้าง วางไว้ 4 ระยะ ขู่พบแพร่ระบาดซ้ำสั่งปิดทันที ประเมินทุก 14 วัน พร้อมคง 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์ ตามเดิม "อัศวิน" จ่อคลายล็อกดาวน์ 8 กิจการ ศบค. เผยยอดผู้ป่วยใหม่ลดต่ำสิบ 2 วันติด เหลือ 7 ราย เสียชีวิต 2 ราย
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมครม.ว่า วันนี้รัฐบาลไม่ได้ทำแต่เรื่องโควิด-19 อย่างเดียว จำเป็นต้องดูแลเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างๆของประเทศประเทศไปด้วย ใช้งบประมาณปกติของงบฯปี 63 และเตรียมแผนการใช้งบฯปี 64 เพื่อให้สอดคล้อง ในการใช้เงินกู้ในการเยียวสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน คือตั้งแต่ 1 พ.ค. ส่วนข้อกำหนดต่างๆ ยังคงสภาพเดิม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกส่วนจะมีมาตรการผ่อนคลายปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีคณะกรรมการศึกษาทำรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้ ว่ามีกิจกรรมใดที่ควรจะผ่อนปรนบ้างในตอนนี้ และระยะต่อไป
การผ่อนปรนมาตรการต่างๆ แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1-2-3-4 ซึ่งแต่ละระยะ จะห่างกัน 14 วัน เพื่อประเมินว่า หลังผ่อนปรนไปแล้วมีการแพร่ระบาดอีกหรือไม่ ซึ่งเราได้แบ่งไว้เป็น สีขาว สีเขียว สีเหลือง และสีแดง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ และที่เตรียมกู้ไว้ ทั้งหมดมีแผนงานใช้จ่ายโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยขอให้แยกแยะออกจากกันว่า อะไรคือผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 อะไรคือมาตรการปกติ ซึ่งหน่วยงานของรัฐจำเป็นต้องดูแลพื้นฐานก็ต้องดูแลการใช้จ่ายดังกล่าว
สำหรับการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน มาตรการการจำกัดการเข้า-ออกในราชอาณาจักร ทางบก น้ำ และอากาศ ครม.ก็มีมติให้ขยายไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.เช่นกัน ส่วนการประกาศเคอร์ฟิว ก็ยังคงเวลาเดิมคือ ระหว่างช่วงเวลา 22.00 -04.00 น. การงด หรือการชะลอข้ามพื้นที่จังหวัด ก็ยังคงมีอยู่
ในส่วนการเมือง ขออนุญาตไม่ตอบในช่วงนี้ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ อีกเรื่องหนึ่ง คือ ตนได้รับฟังความคิดเห็นจากธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ ที่ตนพูดไปแล้ว 20 ราย ซึ่งวันนี้ได้ทยอยส่งมาแล้ว ไม่เห็นมีใครจะมาให้เงินรัฐบาลเลย
ปัญหาอีกเรื่อง คือเรื่องของเฟกนิวส์ ก็ได้เน้นย้ำให้ทุกกระทรวง ติดตามกรณีที่มีการแพร่คำพูดที่บิดเบือนต่างๆ จากข้อเท็จจริงไป ตรงนี้ต้องใช้กฎหมายเข้าไปดูแล คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับหมิ่นประมาท แต่วันนี้อย่าลืมมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีข้อกำหนดอยู่แล้วในเรื่องนี้ ค่อนข้างจะแรงกว่ากฎหมายปกติ ฉะนั้น ขอทุกคนระมัดระวังด้วย
ครม.ไม่เลื่อน 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม. ระบุว่า ในวาระพิจารณาเรื่องวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนพ.ค. หลังจากที่ประชุมศบค.ได้เสนอให้เลื่อนวันหยุด ทั้ง 4 วันในเดือนพ.ค. ประกอบด้วย วันแรงงาน 1 พ.ค. วันฉัตรมงคลวันที่ 4 พ.ค. วันวิสาขบูชาวันที่ 6 พ.ค. และวันพืชมงคล วันที่ 11 พ.ค. ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้มีวันหยุดนั้น ปรากฏว่าที่ประชุมครม. มีความเห็นตรงกันข้าม โดยมีมติว่า ให้มีวันหยุดทั้ง 4 วันเหมือนเดิม เพียงแต่มีเงื่อนไขว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความเข้มงวดในมาตรการต่าง ๆ ทั้งเรื่องสาธารณสุข เรื่องการคมนาคม การรักษาความปลอดภัย
กทม.จ่อคลายล็อกดาวน์ 8 กิจการ 1 พ.ค.นี้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า กทม.เตรียมผ่อนปรน คลายล็อกดาวน์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่จะสิ้นสุดลง ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยเสนอแนวทางผ่อนปรน 8 ประเภทสถานที่ให้สามารถเปิดได้ คือ
1. ร้านอาหาร นั่งทานที่ร้านได้ จัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร และห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
2. ตลาด และตลาดนัด ให้ขายสินค้าได้ทุกประเภท
3. สถานที่ออกกำลังกาย เป็นประเภทที่มีระยะห่างกัน รวมถึงศูนย์กีฬาและศูนย์เยาวชนกทม. ไม่อนุญาตกีฬาประเภททีม เช่น ฟุตบอล ซอฟต์บอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล กีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน
4. สวนสาธารณะ ให้เข้าใช้ออกกำลังกาย แต่ห้ามจับกลุ่มสังสรรค์
5. ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น และต้องหยุดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม. ให้จองคิวเข้ารับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอในร้าน ช่างใส่หน้ากาก และ Face Shield ด้วย
6. ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ นำสัตว์เข้าร้านได้ 1 คน ต่อ 1 ตัว เท่านั้น และหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม.
7. โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล
8. สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อม
ทั้งนี้ ทั้ง 8 ประเภทสถานที่ จะต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ให้มีการวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนเข้า และจัดระยะห่างระหว่างบุคคล 1.5-2 เมตร หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการนี้ก็จะสั่งปิดทันที
โดยกทม.ได้เสนอมาตรการดังกล่าวนี้ต่อรัฐบาลแล้ว และจะนำเข้าประชุมใน คณะกรรมการโรคติดต่อกทม.ในวันนี้ (29 เม.ย.) เพื่อเตรียมออกมาตรการหลังจากวันที่ 30 เม.ย. ต่อไป
ศบค.พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ลดเหลือ 7 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย รักษาหายเพิ่ม 43 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 2,938 ราย หายกลับบ้าน 2,652 ราย เสียชีวิตรวม 54 ราย ยังรักษาใน รพ. 232 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น คือ 1. ผู้ป่วยชายไทยอายุ 52 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว สัมผัสผู้ป่วยยืนยันจากการไปสัมมนา และ 2. ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 63 ปี อาชีพค้าขาย เป็นเจ้าของร้านอาหาร ทำหน้าที่รับเงิน มีภาวะอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัว
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมครม.ว่า วันนี้รัฐบาลไม่ได้ทำแต่เรื่องโควิด-19 อย่างเดียว จำเป็นต้องดูแลเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างๆของประเทศประเทศไปด้วย ใช้งบประมาณปกติของงบฯปี 63 และเตรียมแผนการใช้งบฯปี 64 เพื่อให้สอดคล้อง ในการใช้เงินกู้ในการเยียวสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน คือตั้งแต่ 1 พ.ค. ส่วนข้อกำหนดต่างๆ ยังคงสภาพเดิม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกส่วนจะมีมาตรการผ่อนคลายปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีคณะกรรมการศึกษาทำรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้ ว่ามีกิจกรรมใดที่ควรจะผ่อนปรนบ้างในตอนนี้ และระยะต่อไป
การผ่อนปรนมาตรการต่างๆ แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1-2-3-4 ซึ่งแต่ละระยะ จะห่างกัน 14 วัน เพื่อประเมินว่า หลังผ่อนปรนไปแล้วมีการแพร่ระบาดอีกหรือไม่ ซึ่งเราได้แบ่งไว้เป็น สีขาว สีเขียว สีเหลือง และสีแดง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ และที่เตรียมกู้ไว้ ทั้งหมดมีแผนงานใช้จ่ายโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยขอให้แยกแยะออกจากกันว่า อะไรคือผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 อะไรคือมาตรการปกติ ซึ่งหน่วยงานของรัฐจำเป็นต้องดูแลพื้นฐานก็ต้องดูแลการใช้จ่ายดังกล่าว
สำหรับการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน มาตรการการจำกัดการเข้า-ออกในราชอาณาจักร ทางบก น้ำ และอากาศ ครม.ก็มีมติให้ขยายไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.เช่นกัน ส่วนการประกาศเคอร์ฟิว ก็ยังคงเวลาเดิมคือ ระหว่างช่วงเวลา 22.00 -04.00 น. การงด หรือการชะลอข้ามพื้นที่จังหวัด ก็ยังคงมีอยู่
ในส่วนการเมือง ขออนุญาตไม่ตอบในช่วงนี้ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ อีกเรื่องหนึ่ง คือ ตนได้รับฟังความคิดเห็นจากธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ ที่ตนพูดไปแล้ว 20 ราย ซึ่งวันนี้ได้ทยอยส่งมาแล้ว ไม่เห็นมีใครจะมาให้เงินรัฐบาลเลย
ปัญหาอีกเรื่อง คือเรื่องของเฟกนิวส์ ก็ได้เน้นย้ำให้ทุกกระทรวง ติดตามกรณีที่มีการแพร่คำพูดที่บิดเบือนต่างๆ จากข้อเท็จจริงไป ตรงนี้ต้องใช้กฎหมายเข้าไปดูแล คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับหมิ่นประมาท แต่วันนี้อย่าลืมมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีข้อกำหนดอยู่แล้วในเรื่องนี้ ค่อนข้างจะแรงกว่ากฎหมายปกติ ฉะนั้น ขอทุกคนระมัดระวังด้วย
ครม.ไม่เลื่อน 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม. ระบุว่า ในวาระพิจารณาเรื่องวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนพ.ค. หลังจากที่ประชุมศบค.ได้เสนอให้เลื่อนวันหยุด ทั้ง 4 วันในเดือนพ.ค. ประกอบด้วย วันแรงงาน 1 พ.ค. วันฉัตรมงคลวันที่ 4 พ.ค. วันวิสาขบูชาวันที่ 6 พ.ค. และวันพืชมงคล วันที่ 11 พ.ค. ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้มีวันหยุดนั้น ปรากฏว่าที่ประชุมครม. มีความเห็นตรงกันข้าม โดยมีมติว่า ให้มีวันหยุดทั้ง 4 วันเหมือนเดิม เพียงแต่มีเงื่อนไขว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความเข้มงวดในมาตรการต่าง ๆ ทั้งเรื่องสาธารณสุข เรื่องการคมนาคม การรักษาความปลอดภัย
กทม.จ่อคลายล็อกดาวน์ 8 กิจการ 1 พ.ค.นี้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า กทม.เตรียมผ่อนปรน คลายล็อกดาวน์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่จะสิ้นสุดลง ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยเสนอแนวทางผ่อนปรน 8 ประเภทสถานที่ให้สามารถเปิดได้ คือ
1. ร้านอาหาร นั่งทานที่ร้านได้ จัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร และห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
2. ตลาด และตลาดนัด ให้ขายสินค้าได้ทุกประเภท
3. สถานที่ออกกำลังกาย เป็นประเภทที่มีระยะห่างกัน รวมถึงศูนย์กีฬาและศูนย์เยาวชนกทม. ไม่อนุญาตกีฬาประเภททีม เช่น ฟุตบอล ซอฟต์บอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล กีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน
4. สวนสาธารณะ ให้เข้าใช้ออกกำลังกาย แต่ห้ามจับกลุ่มสังสรรค์
5. ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น และต้องหยุดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม. ให้จองคิวเข้ารับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอในร้าน ช่างใส่หน้ากาก และ Face Shield ด้วย
6. ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ นำสัตว์เข้าร้านได้ 1 คน ต่อ 1 ตัว เท่านั้น และหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม.
7. โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล
8. สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อม
ทั้งนี้ ทั้ง 8 ประเภทสถานที่ จะต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ให้มีการวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนเข้า และจัดระยะห่างระหว่างบุคคล 1.5-2 เมตร หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการนี้ก็จะสั่งปิดทันที
โดยกทม.ได้เสนอมาตรการดังกล่าวนี้ต่อรัฐบาลแล้ว และจะนำเข้าประชุมใน คณะกรรมการโรคติดต่อกทม.ในวันนี้ (29 เม.ย.) เพื่อเตรียมออกมาตรการหลังจากวันที่ 30 เม.ย. ต่อไป
ศบค.พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ลดเหลือ 7 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย รักษาหายเพิ่ม 43 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 2,938 ราย หายกลับบ้าน 2,652 ราย เสียชีวิตรวม 54 ราย ยังรักษาใน รพ. 232 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น คือ 1. ผู้ป่วยชายไทยอายุ 52 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว สัมผัสผู้ป่วยยืนยันจากการไปสัมมนา และ 2. ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 63 ปี อาชีพค้าขาย เป็นเจ้าของร้านอาหาร ทำหน้าที่รับเงิน มีภาวะอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัว