xs
xsm
sm
md
lg

มติ DSI เห็นแย้งอัยการ บี้อุทธรณ์คดี”โอ๊ค”ฟอกเงิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน360- “ดีเอสไอ” ชงความเห็นแย้งคำสั่งไม่อุทธรณ์ “โอ๊ค” ฟอกเงินกรุงไทย ถึงอัยการแล้ว “หมอระวี”จี้ อัยการยื่นอุทธรณ์คดี เพราะมีหน้าที่รักษาประโยชน์ของชาติ อย่าทำภาพลักษณ์เสีย หวั่นคนจะมองว่ารัฐบาลซูเอี๋ยทักษิณ

วานนี้ (26เม.ย.) โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่ออกสารข่าวชี้แจงว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนคดีอาญาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับคดีการทุจริตรายการปล่อยเงินกู้กลุ่มกฤษดามหานครของธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน เป็นคดีพิเศษ ที่ 25/2560 และต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย (นายพานทองแท้ ชินวัตร) ซึ่งพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่อุทธรณ์ และส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษฯ ม. 34 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 145 ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณากลั่นกรองเรื่องดังกล่าว เพื่อเสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้วนั้น

บัดนี้ การพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว โดยเห็นว่าเมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน ความเห็นของพนักงานอัยการ และคำพิพากษาของศาล ทั้งที่พิพากษายกฟ้อง และที่ทำความเห็นแย้งไว้ท้ายคำพิพากษา ประกอบกับความเห็นของพนักงานอัยการ ที่เห็นควรไม่อุทธรณ์คำพิพากษาแล้ว

เห็นว่ายังมีประเด็นสำคัญแห่งคดีที่ควรต้องนำสู่การพิจารณาของศาลสูงเพื่อวินิจฉัย อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีความเห็นให้ส่งอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไป และส่งความเห็นพร้อมสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว เมื่อวันที่ 24 เม.ย.63

ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว ว่า ขอชื่นชมในการตัดสินใจของดีเอสไอ เป็นอย่างมากที่ยืนหยัดไปในแนวทางที่รักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง และทางพรรคขอเรียกร้องให้อัยการคดีพิเศษ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลตามที่ดีเอสไอ ส่งความเห็นกลับมา เพราะคดีนี้ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น 2 ท่าน มีความเห็นต่างกันผู้พิพากษาเจ้าของคดีเห็นว่า ควรจำคุกนายพานทองแท้ แต่ผู้พิพากษาอีกท่าน เห็นควรให้ยกฟ้อง ซึ่งตามระเบียบของศาลต้องตัดสินในแนวทางที่เป็นผลประโยชน์ต่อจำเลยมากที่สุด ทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นยกฟ้อง

เมื่อรายละเอียดของคดีเป็นแบบนี้จริงๆ แล้วอัยการคดีพิเศษควรจะต้องยื่นอุทธรณ์ไป เพื่อให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้ตัดสินใหม่ การตัดสินใจไม่อุทธรณ์ของอัยการคดีพิเศษในครั้งนี้ ด้วยเหตุผลที่กล่าวอ้างฟังไม่ขึ้น

“คดีนี้เป็นคดีของลูกชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจไม่อุทธรณ์ของอัยการคดีพิเศษในครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยของประชาชนเป็นจำนวนมากว่า เกิดอะไรขึ้นกับอัยการ อัยการยังมีจุดยืนเป็นทนายของแผ่นดินที่เป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของชาติอยู่หรือไม่ ทำให้สูญเสียภาพลักษณ์ที่ดีของอัยการไปมาก เพราะเคยมีตัวอย่างคดีคดีเลี่ยงหุ้นชินคอร์ปฯ ของนางพจมาน ชินวัตร ที่ในปี 2554 ในช่วง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อัยการตัดสินใจไม่ยื่นฎีกาคดี ทำให้จบคดีลงโดยไม่มีการยื่นฎีกา ซึ่งเป็นที่คาใจของประชาชนเป็นจำนวนมากจนถึงทุกวันนี้ในจุดยืนของอัยการชุดนั้น” นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้อัยการคดีพิเศษ เขียนคำอุทธรณ์คดีนี้อย่างละเอียดและรัดกุมบนจุดยืนที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ถึงที่สุด เพราะมีประชาชนจำนวนมากเคยเล่าลือกันมากว่า ในคดีบางคดีอัยการเขียนคำอุทธรณ์ – คำฎีกา แบบไม่สู้เต็มที่ ทำให้จำเลยหลุดคดี และหวังว่าคดีนี้จะไม่เดินซ้ำรอยประวัติศาสตร์คดีของ นางพจมาน ซึ่งถ้าทางอัยการคดีพิเศษไม่ยื่นอุทธรณ์คดีนี้ นอกจากอัยการจะตกเป็นจำเลยของสังคมแล้ว จะส่งผลไปถึงรัฐบาลด้วยที่จะต้อง มีคนออกมาตั้งคำถามว่า รัฐบาลซูเอี๋ยกับ ดร.ทักษิณ หรือไม่ จึงขอให้อัยการคดีพิเศษตัดสินใจบนจุดยืนเพื่อชาติเพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น