xs
xsm
sm
md
lg

สั่งฟ้องผู้ฝ่าผืนเคอร์ฟิว 3 วันทำผิดรวม 623 ราย ขอให้ลงโทษสถานหนัก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360- รองโฆษกอัยการ เผย 3 วัน สั่งฟ้องผู้กระทำผิด ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 623 ราย กว่า 400 คดี ตามนโยบายสั่งคดีเฉียบขาด รวดเร็ว ขอศาลลงโทษสถานหนัก ไม่รอลงอาญา เพื่อหยุดการเเพร่ระบาดโควิด-19

วานนี้ (7 เม.ย.)นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยสถิติ ผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 3-6 เม.ย. 63 ว่า ขณะนี้ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้กำชับให้สำนักงานอัยการทั่วประเทศ นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการรวบรวม และประมวลผลภาพ รวมทั้งประเทศ ในการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จนถึงวันที่ 6 เม.ย. ปรากฏผลดังนี้

1. ทั้งประเทศมีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งสิ้น 438 คดี จำเลยที่กระทำความผิด และถูกดำเนินคดี 623 ราย

2. ทุกคดีพนักงานอัยการได้มีคำขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก ซึ่งศาลได้ใช้ดุลพินิจ ลงโทษจำเลยตามคำขอของพนักงานอัยการ เช่น คดีที่อัยการฟ้องต่อศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ลงโทษผู้จำคุก 2-4 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ (ข้อหามั่วสุม) และ คดีที่ศาลแขวงจังหวัดอุบลราชธานี ให้จำคุก 15 วัน แต่เปลี่ยนโทษเป็นกักขังแทน 15 วัน เป็นต้น

3. ประเภทคดีที่มีการฝ่าฝืนมากที่สุด ได้แก่ การออกนอกเคหสถาน โดยช่วงอายุที่กระทำความผิดมากที่สุด คือ อายุ 20-35 ปี รองลงมาคืออายุ 35-55 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่สธ. ให้ระมัดระวังในการแพร่เชื้อ

จังหวัดที่มีสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูง เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี และเชียงใหม่ ยังเป็นจังหวัดที่มีจำนวนสถิติคดี และจำนวนผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สูงด้วยเช่นกัน ซึ่งอัยการสูงสุด กำชับให้พนักงานอัยการทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็ว และเฉียบขาดต่อไป จึงอยากเตือนประชาชนให้เคารพกฎหมาย เพราะเจ้าพนักงานจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเด็ดขาดในทุกข้อหาความผิด และจะขอให้ศาลลงโทษสถานหนักในทุกข้อหาเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น