xs
xsm
sm
md
lg

สละความสุขส่วนตัว “ในหลวง”ทรงแนะหนทางสู้โควิด-19 “บิ๊กตู่”ยันยังไม่เคอร์ฟิว 24 ชม.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-“ในหลวง” พระราชทานพระบรมราโชบายในการรับมือไวรัสโควิด-19 โรคมาได้ โรคก็ไปได้ โรคจะไม่ไป ถ้าเราไม่แก้ไขปัญหา บางทีก็ต้องสละในความสุขส่วนตัว พร้อมโปรดเกล้าฯ มอบถุงยังชีพให้ 1.7 แสนครัวเรือนรับมือโควิด-19 กรมสมเด็จพระเทพฯ โปรดเกล้าให้จัดตั้ง "กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ)" ศบค.เผยพบผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเหลือ 51 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย มีคนหนุ่มวัย 28 ปีดับด้วย ชี้ยังไว้ใจไม่ได้ แม้ยอดลด “บิ๊กตู่” ยันยังไม่มีเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ขอฟังข่าวสารจากรัฐบาล กพท.ขยายระยะเวลาห้ามเครื่องบินโดยสารเข้าไทยถึง 18 เม.ย.นี้ เผยยอดสะสมทั่วโลกทะลุ 1.27 ล้านราย อึ้ง! เสือในสวนสัตว์นิวยอร์กติดเชื้อเป็นเคสแรกในโลกจากมนุษย์สู่สัตว์

วานนี้ (6 เม.ย.) เวลา 10.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข น.พ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล

ในการนี้ พระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ความว่า มีอะไรที่จะมีส่วนช่วยเหลือ ที่จะแก้ปัญหา ก็ยินดี เพราะว่าก็เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งเรื่องโรคระบาดนี่ ก็ไม่ใช่ความผิดของใคร แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ เรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าเกิดมีความเข้าใจในปัญหา มีความเข้าใจ ไม่ใช่หมายความว่ายอมรับตามบุญตามกรรม แต่มีความเข้าใจในสถานการณ์ มีความเข้าใจในปัญหา และก็มีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็คือเข้าใจในปัญหานั่นเอง อันแรกก็เป็นอย่างนี้ อันที่ 2 ก็คือจากข้อที่ 1 ก็คือการมีการบริหารจัดการ มีแผนเผชิญเหตุ มีระบบในการปฏิบัติ แก้ไขให้ถูกจุด รู้ปัญหา แก้ไขให้ถูกจุดโดยมีการบริหารจัดการ แล้วก็ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องให้ประชาชนได้เข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะว่าการมีระบบ หรือแผนในการปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้ตามความเป็นจริง ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แก้ถูกจุด ก็จะลดปัญหาลงไป จะแก้ได้ในที่สุด ก็เชื่อแน่ว่าจะต้องแก้ไขและก็เอาชนะอันนี้ได้ เพราะว่าประเทศของเรานี่ก็นับว่าทำได้ดี ประเทศของเรานี่ น่าภูมิใจว่าทำได้ดี และก็ทุกคนก็ร่วมใจกัน ก็ดีกว่าที่อื่นอีกหลายที่ แต่บางทีก็ต้องเน้นเรื่องการทำงานมีระบบด้วยความเข้าใจ และการมีระเบียบวินัยในการแก้ไขปัญหา โดยมีเป้าหมายว่าเราจะต้องต่อสู้ให้โรคนี้สงบลงไปได้ในที่สุด เพราะว่าโรคมาได้ โรคก็ไปได้ โรคจะไม่ไปถ้าเราไม่แก้ไขปัญหา เราไม่แก้ไขให้ถูกจุด หรือเราไม่มีความขันติอดทนที่จะแก้ไข บางทีก็ต้องสละในความสุขส่วนตัวบ้าง หรือเสียสละในการกล้าที่จะสร้างนิสัยหรือสร้างวินัยในตัวเอง ที่จะแก้ไขเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม อันนี้เราก็ขอเป็นกำลังใจให้

มอบถุงยังชีพประชาชน 1.7 แสนครัวเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จิตอาสาพระราชทานเป็นผู้เชิญถุงพระราชทานไปมอบให้แก่ชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ จำนวน 642 ชุมชน กว่า 170,000 ครัวเรือน โดยเริ่มเชิญถุงพระราชทานไปมอบตั้งแต่ค่ำวันที่ 5 เม.ย.2563 เป็นวันแรก และภายในเดือนนี้จะทยอยเชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้กับราษฎรผู้เดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จนครบหมดทุกหลังคาเรือน

โปรดเกล้าฯ ตั้งกองทุนชัยพัฒนาสู้โควิด-19

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดตั้ง “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ)” เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ โดยบริจาคเงินสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา บัญชี “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ)” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสวนจิตรลดา บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 067-300487-3 โทร 02-447-8585-8 ต่อ 109 , 121 และ 259 ในวันและเวลาทำการจันทร์-ศุกร์ เงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยนำหลักฐานการโอนเงิน พร้อมเขียนชื่อ-ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ชัดเจนส่งมาที่ Email - givedonate@gmail.com Fax - 02-447-8574 หรือไปรษณีย์ มายังสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา 2012 ซอยอรุณอมรินทร์ 36 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700

ป่วยใหม่ 51 ราย ตายเพิ่มอีก 3

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า วันที่ 6 เม.ย.25 มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 51 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 25 ราย 2.ผู้ป่วยรายใหม่ 19 ราย และ 3.อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 7 ราย และแม้ผู้ป่วยรายใหม่จะลดลง แต่ยังไม่มั่นใจ ท่านต้องดูแลตัวเอง คนในครอบครัว เพราะตัวเลขมีขึ้นมีลง โดย 2-3 วันนี้ยังไม่เห็นภาพชัดนัก ยังมีความน่าเป็นห่วง เพราะระบบการรายงานยังมีการรอสอบสวนโรคอยู่ อย่าเพิ่งวางใจ โดยในส่วนกรุงเทพฯ พบว่า มีแนวโน้มลดลง ต่างจังหวัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากคนร่วมบ้าน นอกจากเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว ต้องเว้นระยะห่างคนในบ้านด้วย

ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ได้แก่ 1.ชายไทยอายุ 28 ปี เป็นพนักงานบริษัทในกรุงเทพฯ มีประวัติเพื่อนร่วมงานของภรรยาติดโควิด-19 2.ชายไทยอายุ 51 ปี ทำอาชีพส่วนตัว โดยมีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และอ้วน 3.หญิงไทยอายุ 59 ปี อาชีพค้าขาย มีโรคเบาหวาน ก่อนหน้านี้ ไปเล่นการพนันหลายแห่งในกรุงเทพฯ

สำหรับยอดรวม สรุปผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 2,220 ราย หายแล้ว 793 ราย เสียชีวิตรวม 26 ราย โดยกระจาย 66 จังหวัด พบว่า กรุงเทพฯ สูงสุด 1,051 ราย นนทบุรี 143 ราย ภูเก็ต 135 ราย สมุทรปราการ 103 ราย และ ชลบุรี 66 ราย เป็นต้น ส่วนจังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยมี 11 ราย คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และอ่างทอง

ศบค.ย้ำไม่มีเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ยืนยันไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามออกนอกเคหสถาน 24 ชั่วโมง อย่างที่มีข่าวลือออกไป หลังจากมีเอกสารของกระทรวงมหาดไทยออกมา ขอให้อย่าตีความหมายเกินจริง โดยเอกสารนั้น เป็นเอกสารที่ส่งไปทุกจังหวัด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเท่านั้น แต่หากตัวเลขไม่ลดลง ก็อาจต้องมีการปรับเพิ่มมาตรการตามสถานการณ์

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการส่งข้อความระบุว่าให้เตรียมพร้อม รัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.2563 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศใดๆ เป็นเพียง ข่าวปลอม ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร แต่ต้องเตรียมการ มีแผนล่วงหน้าในเชิงรุก ทุกอย่างคือแผน เมื่อถึงกำหนดเวลาที่จะปฏิบัติ คือ คำสั่ง เป็นข้อกำหนด ที่จะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ขณะนี้ถือว่า เป็นข่าวปลอม และขอให้ประชาชนรอฟังการประกาศจากทางการ จากรัฐบาลและจาก ศบค. รวมทั้งปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศแล้วอย่างเคร่งครัด

เปิดทางคนไทยกลับบ้านวันละ 200 คน

ส่วนคนไทยที่อยู่ต่างประเทศและต้องการกลับ น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการทราบจำนวนผู้ที่ต้องการกลับ มีจำนวนเท่าไร และจะมาเมื่อใด ขอให้ทุกท่านไปติดต่อที่สถานทูต สถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งทั่วโลกที่ท่านอยู่ หรือถ้าเป็นเด็กๆ ผู้ปกครองที่อยู่ที่ไทยช่วยแจ้งกลับไปที่ต้นทาง หรือประสานศูนย์ EOC ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ไม่ใช่ว่าถ้าต้องการกลับ กระบวนการจะเกิดขึ้นทันที ต้องมีการเตรียมพร้อม โดยสามารถรับกลับมาได้วันละ 200 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่ดูแลได้

ห้ามเครื่องบินโดยสารเข้าไทยถึง 18 เม.ย.

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศวันที่ 6 เม.ย.2563 ห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2) หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ห้ามชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 4-6 เม.ย.2563 โดยครั้งนี้ กำหนดห้ามตั้งแต่วันที่ 7-18 เม.ย.2563 ส่วนผู้โดยสารที่ออกจากท่าอากาศต้นทางก่อนที่ประกาศนี้ใช้บังคับ จะต้องได้รับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

ดีเดย์กลับบ้านหลังเคอร์ฟิวจับหมด

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2563 ยังมีประชาชนที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดห้ามออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุผล เช่น อ้างว่าจะไปทำธุระ แต่พอถามละเอียด ไม่สามารถตอบได้ , ผู้ที่มาตั้งวงดื่มสุราในที่สาธารณะ , ลักลอบเล่นการพนัน , รวมกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ และเสพยาเสพติด จำนวน 1,057 คน และรวมกลุ่ม ชุมนุม หรือมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในเคหสถานจำนวน 83 คน ซึ่งได้จับกุมดำเนินคดี 810 ราย โดยมียอดดำเนินคดีตั้งแต่ 3-5 เม.ย.2563 รวม 1,186 ราย ทั้งนี้ จากนี้ไป จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพราะพ้นระยะเวลา 3 วันของการประกาศเคอร์ฟิวแล้ว

ยอดสะสมทั่วโลกทะลุ 1.27 ล้าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ล่าสุด มียอดสะสมอยู่ที่ 1.27 ล้านราย รักษาหายแล้ว 2.6 แสนราย เสียชีวิตเกือบ 7 หมื่นราย โดยประเทศที่มีผู้ป่วยแตะหลักแสนราย คือ สหรัฐฯ อิตาลี สเปน และเยอรมนี และพบผู้ติดเชื้อแล้วใน 176 ประเทศทั่วโลก เหลือเพียง 17 ประเทศที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

หลายจังหวัดเริ่มสั่งปิดห้ามเข้า-ออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 เม.ย.) หลายๆ จังหวัดได้เริ่มที่เพิ่มมาตรการเข้มงวดการเข้าออกจังหวัด โดยจังหวัดสงขลา ได้เริ่มมาตรการปิดจังหวัดเป็นวันแรก ห้ามบุคคลเดินทางข้ามเขตพื้นที่ จ.สงขลา ทั้งทางบก ทางน้ำ กำหนดต่อเนื่องถึงวันที่ 30 เม.ย.2563 ยกเว้นรถที่ได้รับอนุญาต เช่น รถพยาบาลและรถขนส่งสินค้า ขณะที่เกาะสมุย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ได้ออกประกาศเทศบาลนครเกาะสมุย ยกระดับห้ามบุคคลเดินทางเข้าออก เว้นแต่ผู้มีใบรับรองแพทย์ ส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ออกประกาศปิดเพิ่ม ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต อีก 1 พื้นที่ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประกาศปิดพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ตไปแล้ว

เสือในสหรัฐฯ ติดโควิด-19 เคสแรกในโลก

สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (Wildlife Conservation Society) ซึ่งเป็นผู้ดูแลสวนสัตว์บร็องซ์ ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ แถลงว่า เสือโคร่งมลายูเพศเมียวัย 4 ปีที่ชื่อ “นาเดีย” ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังมีอาการไอแห้งๆ และเบื่ออาหาร โดยยังมีเสือตัวอื่นอีก 3 ตัว และสิงโตอีก 3 ตัวที่มีอาการคล้ายกัน โดยพอล คาลล์ หัวหน้าสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์บร็องซ์ ระบุว่า ในกรณีของนาเดีย เป็นการติดเชื้อจากพนักงานสวนสัตว์ที่มีเชื้อโควิด-19 อยู่ในตัว แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งทางสวนสัตว์ยังไม่ทราบว่าเป็นพนักงานคนไหน และถือเป็นครั้งแรกในโลกที่พบว่าสัตว์ติดเชื้อจากมนุษย์


กำลังโหลดความคิดเห็น