xs
xsm
sm
md
lg

ไวรัสในประชาธิปไตย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



ไวรัสเป็นปรสิตอยู่ในร่างของสิ่งมีชีวิตอื่น (obligate intracellular parasite) ไม่สามารถเติบโตหรือแพร่พันธุ์นอกเซลล์อื่นได้ ไวรัสอาจถือได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ที่มีลักษณะของการเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงประการเดียวคือสามารถแพร่พันธุ์ หรือการถ่ายทอดสารพันธุกรรมของตนเองจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง

ไวรัสโคโรนากำลังเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และท้าทายพฤติกรรมของมนุษย์โฮโมเซเปียนส์ที่วิวัฒนาการบนโลกใบนี้จนขึ้นมาอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารได้ แม้สุดท้ายมันสมองของมนุษย์อาจจะเอาชนะไวรัสตัวนี้ได้ในที่สุด เมื่อสามารถคิดค้นวัคซีน แต่ในเวลาข้างหน้าก็อาจจะมีไวรัสตัวใหม่ขึ้นมาท้าทายวิวัฒนาการแพทย์ที่ก้าวล้ำของมนุษย์อีก

แท้จริงแล้วมนุษย์เผชิญกับไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ มาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว แต่ละสายพันธุ์ส่งผลต่ออวัยวะของเราแตกต่างกันออกไป อาจก่อให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ไข้เลือดออก หรือหวัดสายพันธุ์ต่างๆ ฯลฯ

แม้เรารู้ว่าสุดท้ายและมนุษย์จะชนะแน่ แต่ ณ เวลานี้ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกนานแค่ไหนเราจะเอาชนะไวรัสโคโรนาตัวนี้ และมนุษย์จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในฐานะสัตว์สังคมได้อีกหรือไม่ หรือหลังจากนี้มนุษย์จะต้องรักษาระยะห่างแบบต่างคนต่างอยู่ตลอดไป

ไวรัสที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ากลายเป็นสิ่งท้าทายความเข้มแข็งของมนุษย์ในฐานะผู้พิชิตโลกใบนี้ นั่นสะท้อนว่า สิ่งที่เราเชื่อว่ามนุษย์ดีที่สุดเหนือกว่าใคร สุดท้ายแล้วก็อาจต้องเผชิญกับภาวะที่ผันแปรจากสิ่งที่เราอาจจะมองไม่เห็นได้ มันชวนให้คิดว่า ในระบอบประชาธิปไตยที่เราคิดว่าเป็นระบอบที่ดีที่สุดนั้น จริงๆ แล้วมันดีที่สุดจริงหรือ หรือว่าสุดท้ายแล้วมันยังมีเชื้อไวรัสฝังอยู่ภายในจึงสะท้อนผลด้านลบของมันออกมา

ในสถานการณ์ไวรัสนี้ เราได้พิสูจน์ความสามารถของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ระบอบการปกครองที่เกิดขึ้นในนครรัฐกรีกโบราณช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลนั้นว่ามันมีความสมบูรณ์และดีที่สุดจริงๆ หรือ หลังจากมันได้เปลี่ยนจากประชาธิปไตยทางตรงมาเป็นประชาธิปไตยแบบตัวแทน

เราจะเห็นได้เลยว่า นักการเมืองที่เรามอบอำนาจให้เขานั้นมีประสิทธิภาพในการทำงานในภาวะวิกฤตที่ต้องการความรู้ไหม ลักษณะของการบริหารที่ต้องการความรู้นั้นมันสอดคล้องกับการจัดสรรตำแหน่งบริหารตามโควตาไหม เราได้นักการศึกษาที่เก่งมาบริหารงานกระทรวงศึกษาฯ ไหม เราได้นักการพาณิชย์ที่เก่งมาบริหารงานกระทรวงพาณิชย์ไหม เราได้นักบริหารองค์กรที่ประสบความสำเร็จในแต่ละด้านมาบริหารกระทรวงต่างๆ ไหม

เราจะเห็นได้ว่าระบอบประชาธิปไตยไม่สามารถสนองสิ่งเหล่านี้ได้เลย ยกตัวอย่างกระทรวงพาณิชย์ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีความรู้ในการพาณิชย์ไหม คำตอบคือ ไม่เลย แต่เขาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ได้โควตากระทรวงนี้ไป และเมื่อกระทรวงนี้เป็นกระทรวงสำคัญที่สุดที่พรรคได้โควตา คนที่ใหญ่ที่สุดในพรรคก็จะได้กระทรวงนี้ไปบริหารโดยไม่ต้องคำนึงถึงความสามารถเลย หรือกระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นกระทรวงสำคัญคุณณัฏฐพล ทีปสุวรรณ มีความสามารถประจักษ์ในด้านการศึกษาไหม คำตอบคือ เราไม่เคยได้ยินเกียรติประวัติของเขาในด้านนี้เลย

แต่การได้ตำแหน่งเหล่านี้เป็นผลของการจัดสรรโควตาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่เราเชื่อว่าเป็นการปกครองที่ดีที่สุด ทั้งที่จริงๆ แล้วในระบอบประชาธิปไตยเราไม่ได้เลือก “คนที่เก่งที่สุด” เข้ามาเป็นตัวแทนของเราในระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน แต่เราเลือก “คนที่เราชอบ” โดยไม่สนใจคุณสมบัติของเขา แล้วคนที่ชนะก็คือคนที่ได้รับเลือกด้วยเสียงมากที่สุด ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด

และด้วยอิทธิพลของคนที่มีเสียงมากที่สุดที่สามารถรวบรวมคนที่มีเสียงมากที่สุดคนอื่นมาเป็นพวกเชิดให้เป็นหัวหน้า เขาก็จะได้บริหารงานกระทรวงเพื่อปกครองประเทศของเรา

นั่นพอแสดงเหตุผลได้ไหมว่าระบอบประชาธิปไตยมันเป็นระบอบที่มีปัญหา สิ่งสำคัญที่เราเทิดทูนระบอบประชาธิปไตยก็คือ สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค แต่เราตั้งคำถามไหมว่า สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ที่เราได้รับนั้นมีความเท่าเทียมกันอยู่จริงไหม หรือมันเป็นสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ตามลำดับชั้น

ระบอบประชาธิปไตยยังแฝงมาด้วยทุนนิยมเสรี ที่ส่งเสริมการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกัน เพราะคนตัวเล็กกว่าไม่มีทางไปแข่งขันกับคนที่ตัวใหญ่กว่าได้ ไม่ต่างกับลูกคนจนที่ถ้าไม่เกิดมาอัจฉริยะเฉียบแหลมและมีความทะเยอทะยานบวกความพยายามอย่างเหลือล้นแล้วก็ยากที่จะแข่งกับลูกคนรวยในการแย่งชิงคณะดีๆ ในมหาวิทยาลัย เพราะลูกคนรวยผ่านการติวมากับยอดครูกวดวิชาอย่างเข้มข้น คนตัวเล็กในระบอบทุนนิยมเสรีก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นธรรมที่แท้จริงในระบอบทุนนิยม

เราศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย คนฝั่งหนึ่งเชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตยคืออำนาจของเราผู้เป็นประชาชนที่จะกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง แต่เคยถามบ้างไหมว่าเมื่อเราให้อำนาจใครเป็นตัวแทนแล้วเรากำหนดชะตากรรมของบ้านเมืองได้จริงไหม หรือบางครั้งเราก็พอใจกับระบอบประชาธิปไตยแค่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เราเรียกตัวเองว่านักประชาธิปไตย แต่ไม่สนใจว่า ผู้ได้อำนาจจากเราไปจะใช้อำนาจอย่างชอบธรรมหรือไม่ แล้วก้มหน้าก้มตาแต่คอยไปใช้สิทธิในรอบใหม่

ซึ่งสะท้อนว่า เราได้เพียงหีบห่อของระบอบประชาธิปไตย แต่เราไม่ได้เนื้อหาของประชาธิปไตย

แน่นอนเราไม่สามารถหาราชาปราชญ์มาปกครองเราแบบความคิดของเพลโตได้ เพราะมันมีดาบสองคม กษัตริย์หย่งเล่อ ของราชวงศ์หมิงนั้นไม่ได้เกิดบ่อยๆ ขณะเดียวกันก็มีด้านมืดของราชาปราชญ์อยู่ด้วย สี จิ้นผิงก็มีคนเดียว แน่นอนว่าถ้าเราได้ราชาปราชญ์มาปกครองก็เป็นเรื่องดี แต่ในสภาพความเป็นจริงคนที่มีอำนาจมากยิ่งจะหลงระเริงอย่างที่เขาบอกว่า อำนาจที่เบ็ดเสร็จย่อมทำให้เกิดการฉ้อฉลที่เบ็ดเสร็จ (absolute power corrupts absolutely) ดังนั้นก็ยิ่งเป็นทางที่เสี่ยงต่อหายนะเสียยิ่งกว่า

คำถามว่า ในภาวะวิกฤตนั้น เราเห็นศักยภาพของนักการเมือง แล้วมองเห็นว่า ระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนนั้นไม่ได้ตอบโจทย์ของผู้ปกครองที่มีความสามารถ และเรามองเห็นหรือไม่ว่า เมื่อระบอบประชาธิปไตยได้ชื่อว่า เป็นระบอบที่ดีที่สุดแล้ว เราจะออกจากข้อด้อยของมันที่เรามองเห็นอย่างไร หรือเราจะโทษว่า เพราะประชาชนไม่เลือกคนที่มีความรู้ความสามารถมาเอง แต่เราคิดไหมว่าต่อให้เขาเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถมาคนนั้นจะได้เข้ามาบริหารประเทศในครรลองที่มันเป็นอยู่ คำตอบคือ ไม่มีทาง ในหีบห่อประชาธิปไตยมันจึงเป็นปัญหาของมันอยู่ด้วย

การต่อสู้ของสองความคิดในสังคมไทย ระหว่างคนที่บูชาตัวบุคคลแบบไม่สนวิธีการกับการบูชาประชาธิปไตยที่หมายถึงการเลือกตั้งแต่ไม่สนการใช้อำนาจของคนที่ตัวเองเลือกมาปกครอง อาจจะต้องเป็นบททดสอบที่ยาวนานของสังคมไทยว่าความคิดไหนที่ถูกต้อง และยังไม่มีสูตรสำเร็จเหมือนกับที่ยังไม่มีวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนา

น่าคิดว่า ถ้าเปรียบระบอบประชาธิปไตยเหมือนกับสิ่งมีชีวิต อะไรคือกลไกที่บกพร่องในตัวมัน หรือมีไวรัสบางตัวที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพด้านลบจากภายในของมัน

แต่มนุษย์ก็ต้องทดสอบตัวเองในการท้าทายกับวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไป บางทีไวรัสมันอยู่ในจิตใจภายในของเรานั่นแหละที่ถ่ายทอดพฤติกรรมของเราออกมาจนส่งผลต่อคุณค่าด้านลบในระบอบประชาธิปไตย



ติดตามผู้เขียนได้ที่
https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น