xs
xsm
sm
md
lg

ยอดป่วยเกินพัน-แพทย์ติดเชื้อเพิ่ม3 “อนุทิน”ขออภัยหมอ-ยันสื่อสารพลาด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายกฯ ถกครั้งแรกหลังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เห็นชอบใช้ชื่อ “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตัวย่อ “ศบค.” ตั้ง “หมอทวีศิลป์” โฆษก วาง 6 แนวทางทำงาน ระดมทีมแพย์-เวชภัณฑ์ ลดข้อจำกัดนำเข้า-ภาษี ด้าน สธ.แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเพิ่ม 111 ราย บุคลากรการแพทย์ติดเชื้อเพิ่ม 3 ยอดสะสม 1,045 ราย “อนุทิน”แจงดรามา ไม่ได้ตำหนิแพทย์ เตรียมมาตรการป้องกันความเสี่ยงไว้ให้แล้ว

วานนี้ (26 มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมครั้งแรก หลังประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.จนถึงวันที่ 30 เม.ย.

โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ใช้ชื่อ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และตัวย่อ “ศบค.” พร้อมแต่งตั้ง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เป็นโฆษก ศบค.

วาง 6 แนวทางการทำงาน

ต่อมาเวลา 13.00 น. นพ.ทวีศิลป์ แถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุม นายกฯได้แจ้งถึงสาระสำคัญการแพร่ระบาดสถานการณ์โควิด-19 ดำเนินมาถึงจุดที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อระดมทุกสรรพกำลัง หยุดยั้งการแพร่ระบาด และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยนายกฯ ให้แนวทางการทำงาน 6 ข้อ คือ 1.ให้ผู้รับผิดชอบงานแต่ละด้านเสนอแผน และแนวทางปฏิบัติโดยละเอียด, 2.ให้บูรณาการจัดระบบความร่วมมือดึงทุกภาคส่วนในสังคม, 3.ติดตามผลกระทบจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่เกิดกับประชาชนทุกกลุ่ม และเสนอแนวทางแก้เยียวยา, 4.ให้ความเชื่อมั่นระบบการแพทย์ต่อประชาชน พร้อมระดมสรรพกำลัง ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากรัฐและเอกชน ซึ่งวันนี้ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องเวชภัณฑ์ สถานพยาบาล ที่ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการ, 5.เน้นสื่อสารในยามวิกฤต ประสานผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสื่อมวลชน เพื่อให้ความรู้กับประชาชน และ 6.เรื่องงบประมาณขอให้ทุกส่วนราชการ ปรับแผนโครงการ เพื่อเน้นเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ในทีประชุมไม่ได้พิจารณาออกข้อกำหนดเพิ่มเติมแต่อย่างใด รวมถึงเรื่องการจำกัดประชาชนออกจากที่พักอาศัยในเวลาที่กำหนด หรือเคอร์ฟิว ยังไม่ได้มีการหารือในที่ประชุม แต่แนวทางต่างๆ มีการเสนอมาหลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกจากมาตรการเบาไปหาหนัก

“ท่านนายกฯให้แนวทางการประชุมของ ศบค.ว่า ให้มีประชุม ศบค.ทุกวันใช้เวลาวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้การทำงานกระชับ และกลับไปปฏิบัติภารกิจ อย่างไรก็ตามสำคัญที่สุด นายกฯ ห่วงใยสุขภาพประชาชนทุกคน แต่ประชาชนต้องให้ความร่วมมือตามข้อปฏิบัติต่างๆ ช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคม จะทำให้โรคระบาดยุติโดยเร็ว ถ้าประชาชนร่วมมือก็ไม่ต้องใช้กฎอะไรมาบังคับเลย” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ

ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย-รวม 1,045 ราย

อีกด้าน ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายกลับบ้านเพิ่มขึ้น 13 ราย และ พบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อเพิ่มอีก 111 ราย รวมเป็น 1,045 ราย แยกเป็นกลุ่มได้ดังนี้ 1. กลุ่มสัมผัสเกี่ยวข้องผู้ป่วยก่อนหน้า 29 ราย แยกเป็น กลุ่มสนามมวย 6 ราย กลุ่มสถานบันเทิง 3 ราย สัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อ 19 ราย และ ร่วมพิธีทางศาสนา ที่มาเลเซีย 1 ราย, 2. กลุ่มผู้ป่วยใหม่ 19 ราย แยกเป็น เดินทางจากต่างประเทศ เป็นชาวต่างชาติ 1 ราย และชาวไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 5 ราย ทำงานในที่แออัด ใกล้ชิดชาวต่างชาติ 9 ราย และ บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย (บุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อสะสม 9 ราย) และ 3. กลุ่มรอสอบเพิ่มเติม 63 รายได้รับผลแล็บยืนยันพบเชื้อ แต่ยังอยู่ระหว่างสอบสวนโรค ผู้ป่วยอาการหนัก ปัจจุบัน 4 ราย ทุกรายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

“สรุปรวม ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 1,045 ราย รับการรักษาจนหายกลับบ้านแล้ว 88 ราย และรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 953 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก 4 ราย และ เสียชีวิตรวม 4 ราย” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

“อนุทิน”ขออภัยแพทย์-ยันไม่เจตนา

อีกด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 3.23 นาที ถึงกรณีกระแสข่าวตำหนิบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงสังคมออนไลน์ โดยมีสาระสำคัญในการขออภัยบุคลากรทางการแพทย์ ที่อาจสื่อสารผิดพลาดจากการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และอาจเกิดจากความกดดัน จนมีปัญหาในการสื่อสารในช่วงนี้ พร้อมรับปากจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

“เพื่อนๆ พี่น้องข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขที่รักและเคารพทุกท่าน วันนี้ ผมได้มีการสื่อสาร ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ออกไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจกับเพื่อนร่วมงานทุกคนในกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะแพทย์ พยาบาล และผู้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย ผมต้องขออภัย เป็นอย่างยิ่ง แต่ยืนยันว่าผมไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี หรือเจตนาที่จะตำหนิใครเลย มีแต่ความชื่นชม มีความศรัทธาและเคารพ ในสิ่งที่ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติอยู่ ซึ่งเป็นภารกิจที่ใหญ่หลวงมาก” นายอนุทิน กล่าว

โดยก่อนหน้านั้น นายอนุทินได้กล่าวชี้แจงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่มีมาตรการคุ้มครอง หรือลดความเสี่ยงให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโควิด-19 ว่า ได้เจรจากับสถานทูตจีน ขอการสนับสนุนหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 มาให้บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งขอรับบริจาค และขอซื้อราคาพิเศษ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ และยังมีกรมธรรม์ประกันภัยจากโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีก 1.2 แสนกรมธรรม์ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น