ผู้จัดการรายวัน 360 -ศาลแขวงปทุมวัน พิพากษาจำคุก 15 วัน หนุ่มควักเป้า-ป้ายน้ำลายทั่วลิฟต์ สถานีรถไฟฟ้า BTS สนามกีฬาฯ แต่โทษจำคุกให้เปลี่ยนเป็นกักขัง แพทย์ยันไม่ป่วยทางจิต หรือ ติดเชื้อโควิด-19
วานนี้(24 มี.ค.)พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด ในโซลเชียลมีเดีย พร้อมระบุข้อความ "เกิดขึ้นที่ BTS สถานีสนามกีฬาฯ" โดยพบว่า ชายคนหนึ่งได้เข้ามาในลิฟต์ก่อนที่จะนำมือไปป้ายน้ำลายตามตำแหน่งต่างๆ ในลิฟต์จนทั่ว รวมทั้งควักเป้า และป้ายไปยังปุ่มกดต่างๆ นั้น
ขณะเดียวกัน เวลา 11.30 น. พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำตัวผู้ต้องหา ฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน ในความผิดฐาน กระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนทรัพย์หรือแกล้งทำให้ของโสโครก เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ตาม ป.อาญา มาตรา 389 ประกอบกับผลการตรวจสอบร่างกายและการวินิจฉัยโรคของแพทย์ พบว่าผู้ต้องหา ไม่ได้มีอาการป่วยทางจิตและไม่ได้ติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่อย่างใด
โดยศาลแขวงปทุมวัน ได้มีคำพิพากษาให้ จำคุก 15 วัน โทษจำคุกเปลี่ยนเป็นกักขัง ณ สถานกักขังกลาง จังหวัดปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนประชาสัมพันธ์ประชาชน ถึงการป้องกันตนเอง จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยใช้หลักการป้องกันโรคคิดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน ไม่ไปที่ชุมชนหรือแออัด ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เว้นระยะห่างในการพูดคุย การนำแนวทาง Social Distancing มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ " เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ
วานนี้(24 มี.ค.)พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด ในโซลเชียลมีเดีย พร้อมระบุข้อความ "เกิดขึ้นที่ BTS สถานีสนามกีฬาฯ" โดยพบว่า ชายคนหนึ่งได้เข้ามาในลิฟต์ก่อนที่จะนำมือไปป้ายน้ำลายตามตำแหน่งต่างๆ ในลิฟต์จนทั่ว รวมทั้งควักเป้า และป้ายไปยังปุ่มกดต่างๆ นั้น
ขณะเดียวกัน เวลา 11.30 น. พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำตัวผู้ต้องหา ฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน ในความผิดฐาน กระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนทรัพย์หรือแกล้งทำให้ของโสโครก เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ตาม ป.อาญา มาตรา 389 ประกอบกับผลการตรวจสอบร่างกายและการวินิจฉัยโรคของแพทย์ พบว่าผู้ต้องหา ไม่ได้มีอาการป่วยทางจิตและไม่ได้ติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่อย่างใด
โดยศาลแขวงปทุมวัน ได้มีคำพิพากษาให้ จำคุก 15 วัน โทษจำคุกเปลี่ยนเป็นกักขัง ณ สถานกักขังกลาง จังหวัดปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนประชาสัมพันธ์ประชาชน ถึงการป้องกันตนเอง จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยใช้หลักการป้องกันโรคคิดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน ไม่ไปที่ชุมชนหรือแออัด ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เว้นระยะห่างในการพูดคุย การนำแนวทาง Social Distancing มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ " เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ
