ผู้จัดการรายวัน360- นายกฯ ให้นโยบายศูนย์โควิด-19 รับมือแพร่ระบาดระยะ 3 ลั่นพร้อมปิดเมืองหากรุนแรงเทียบอู่ฮั่น เตรียม รพ.ทหาร-โรงแรมบางแห่ง ตรียมยา ต้านไวรัสโควิด-19 จากญี่ปุ่น ให้ "สธ-กองทัพ" ซ้อมแผนเผชิญเหตุระบาดลุกลาม "อนุทิน" เจรจาจีนฉลุยนำเข้ายา-หน้ากาก-ชุดป้องกัน "อุตตม" กักตัวงดภารกิจ 14 วัน หลัง ตร. นำขบวนติดเชื้อโควิด-19 รองผู้ว่าฯ กทม. แจงสถานประกอบการ 8 ประเภทที่ต้องปิด 14 วัน ย้ำไม่มีแนวคิดปิดกทม. "เทวัญ" คุย มส. ถ่ายทอดสวดมนต์ "บทโพชฌังคปริตร" กราบทูลเชิญ "สมเด็จพระสังฆราช" เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี 25 มี.ค.นี้ สร้างขวัญ กำลังใจ ไล่โควิด ยุติธรรมสั่งปิดคุก-สถานพินิจฯ 14 วัน หลังพบญาติผู้ต้องขังที่มีความเสี่ยงเดินทางมาเยี่ยมนักโทษ สธ.เผยผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 35 ราย สะสม 212 ราย กพท.เล็งออกประกาศฉบับ 2 เพิ่มอีก 10 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้นเครื่องมาไทย
วานนี้ (18มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยม ให้นโยบายเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังยกระดับมาตรการการป้องกัน และการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นระดับที่ 3 พร้อมเปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมว่า ได้มาเยี่ยมศูนย์ฯ และให้แนวทางปฎิบัติการทำงานว่าควรจะต้องเป็นอย่างไร และผลการประชุมแต่ละวัน ควรจะนำอะไรบ้างมาแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง รวมทั้งให้ข่าวประชาสัมพันธ์ ไม่เช่นนั้นจะจัดหมวดหมู่ไม่ได้ ก็จะไปคนละทางสองทาง จนทำให้เกิดความสับสน
วันนี้สิ่งสำคัญที่ทุกคนอยากทราบคือ สถิติของแต่ละวัน ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ เพื่อให้เกิดข้อเปรียบเทียบว่า บ้านเราดูแลได้ดีมากน้อยเพียงใด และดูว่าต่างประเทศทำได้มากน้อยเพียงใด เราต้องนำมาร่วมพิจารณาเพื่อจะได้รู้ว่าเราอยู่ในระยะใด
"วันนี้เรากำลังทำงานในระดับที่ 3 ซึ่งคำว่า ระยะที่ 3 กับ ระดับ 3 นั้นแตกต่างกัน ระยะที่ 3 นั้นเป็นคำที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นผู้กำหนดเป็นการแพร่กระจายระหว่างคนที่ 2 คนที่ 3 และต่อๆไป แต่วันนี้ประเทศไทยเรายังอยู่ในขั้นตอนที่สามารถควบคุมได้พอสมควร แต่เมื่อใดที่ขั้นตอนถึงตรงนั้น ก็ต้องไปถึงระยะที่ 3 อย่างแน่นอน วันนี้ผมจึงได้ให้แนวทางเตรียมมาตรการใน ระดับที่ 4 สำหรับเตรียมการรองรับการยกระดับเป็น ระยะที่ 3 ส่วนมาตรการระดับที่ 3 ได้ออกเป็นมาตรการแล้ววานนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบ้าง"
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันนี้เรากำลังเตรียมการ ระยะที่ 3 ซึ่งมาตรการ ระดับที่ 4 ที่ได้สั่งการไป ให้มีการเตรียมการในเรื่องของสถานที่ ทั้งเตียง สถานที่ปัจจุบัน และสถานที่ต่อไปที่อาจจะใช้คือ โรงพยาบาลทหาร โรงพยาบาลเอกชน และ บางโรงพยาบาล แม้กระทั่งโรงแรมบางแห่ง ก็ต้องใช้เป็นสถานที่กักตัวเพิ่มเติมขึ้น เราต้องเตรียมการไว้ก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลายกระดับเป็นระยะที่ 3 มันจะยุ่งกันใหญ่ ถึงขั้นปิดประเทศกันในขณะนั้น
"คำว่าปิดประเทศ หรือปิดพื้นที่ หรือปิดจังหวัด แบบนั้นคือการปิดซีลนั้นคือคำว่า ปิด สิ่งที่ทำในปัจจุบันผมไม่ได้เรียกว่าปิด ผมเรียกว่าเป็นมาตรการเข้มข้น เป็นมาตการสกัดกั้นคนเข้า ออก มีการตรวจตรา ท่าเรือต่างๆ เป็นมาตรการ ระดับที่ 3 อยู่แล้ว บางครั้งก็อาจจะใช้คำพูดเลยไปนิด และถึงแม้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีอำนาจอะไรก็ตาม แต่อำนาจเพิ่งให้ไป เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) แต่ก็ยังต้องรายงานมายังศูนย์ฯก่อน เรื่องนี้ผมไม่ว่ากัน ว่าใครผิดใครถูก ถือว่าวันนี้เขาได้ทำมาตรการที่เข้มงวดขึ้นมาแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องดี เป็นตัวอย่างให้จังหวัดอื่นๆ แต่ถ้าใช้คำว่า ปิดประเทศ มันวุ่นวายไปหมด หรือ ปิดจังหวัด ถ้าปิดจังหวัดจริง คนก็เข้า-ออกไม่ได้ รถยนต์ต่างๆ ก็เข้าไม่ได้ ก็จะเหมือนกับอู่ฮั่น ที่เคยทำ ที่ปิดเมือง เราคงยังไม่ต้องการขนาดนั้น ทั้งคนทั้งรถ เครื่องบินเข้า-ออกไม่ได้ แล้วจะอยู่กันไหวหรือ ถ้าสถานการณ์ยังไม่รุนแรงขนาดนั้น แต่ถ้าถึงขนาดนั้นจริง ผมก็ต้องปิดอย่างที่ว่า แล้วอาหารการกินจะอยู่กินกันอย่างไร ก็ต้องเตรียมมาตรการกันอีก ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย " นายกฯ กล่าว
ส่วนกรณีมาเลเซียประกาศปิดประเทศ ทำให้คนไทยในมาเลเซียเดินทางกลับประเทศ ก็ต้องผ่านการคัดกรองทั้งหมด ได้สั่งด่านตรวจที่มีศุลกากร ตม. และทุกกองกำลังตรวจสอบอยู่แล้ว ให้ตรวจแยก คัดกรองเหมือนกับสนามบิน และจุดตรวจถาวร ส่วนที่เล็ดลอดมาทางชายแดน ช่องทางธรรมชาติ ทหารต้องควบคุมเข้าระบบคัดกรองให้หมดเช่นกัน
สำหรับมาตรการปิดพื้นที่เสี่ยงในกทม.และปริมณฑล เป็นการชั่วคราว 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ก็กำลังติดตามอยู่ เพราะเป็นประกาศออกไปแล้ว โดยมีคณะกรรมการควบคุมในระดับจังหวัด และกทม.อยู่แล้ว ตรวจหมด และได้ตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอไปแล้ว ประชาชนเข้าไปแจ้งได้ ส่วนการทำความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ เจ้าของ ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเอง โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปตรวจให้
เมื่อถามว่ากรณีที่กลุ่มแรงงานต่างด้าว มารวมตัวกันเพื่อขอต่อใบอนุญาต ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นายกฯ กล่าวว่า เรามีระบบบริการผ่านทางออนไลน์ ที่กำลังดำเนินการและมีมาตรการอยู่ ขณะนี้ได้มีการขยายเวลาให้แล้ว
"อนุทิน" เจรจาจีนฉลุยนำเข้ายารักษาไวรัส
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีที่ สธ.เจรจาขอให้สถานทูตจีนประสานผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ เพื่อจัดซื้อมาใช้ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนอนุมัติในหลักการแล้ว อยู่ในขั้นตอนการยืนยัน โดยเฉพาะยาฟาวิลาเวียร์ ซึ่งทีมแพทย์ระบุว่าเพื่อความอุ่นใจเราต้องการ 50,000 เม็ด แต่ตอนนี้มีแล้ว 80,000 เม็ด แต่กำลังจะซื้อเข้ามาอีก 1.2 แสนเม็ด เพื่อให้มีสต็อกประมาณ 2 แสนเม็ด เพียงพอที่จะให้การรักษาผู้ป่วยในประเทศไทย
ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะหน้ากาก N95 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงชุดป้องกันตัวส่วนบุคคล (PPE) ซึ่งยังเป็นกังวลอยู่นั้น ก็มีการเจรจาเรียบร้อย โดยจะมีการขายส่งผ่านมาที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทย ขณะเดียวกันก็ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบพัฒนาคุณภาพของชุดป้องกันตัวที่ผลิตในประเทศไทย ว่ามีคุณภาพเทียบเท่า PPE หากทำเร็ว ก็จะทำให้มีอุปกรณ์เพียงพอสำหรับแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด รวมถึงการจัดหากรมธรรม์ที่ครอบคลุมเพื่อให้คนเหล่านี้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร ตอนนี้เราเสริมฐานให้เต็ม
สั่งตรียมยาต้านไวรัสโควิด-19 จากญี่ปุ่น
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการมอบนโยบายของนายกฯ ต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ covid19 นายกฯ ได้สั่งการให้มีการเตรียมพร้อมรับมือ หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยให้มีการเตรียมยา เฟวิพิลาเวียร์ ( ยาต้านไวรัสโคโรน่า หรือ covid-19จากญี่ปุ่น) ไว้ให้พร้อมรองรับกับจำนวนผู้ป่วย ในระยะ 3 และให้จัดตั้งโรงพยาบาลเฉพาะโรคในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยให้สธ. และกองทัพ รวมถึงภาคเอกชน ปรับโรงพยาบาลขนาดกลาง ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรคให้เร็วที่สุด โดยในวันนี้ (วันที่19 มี.ค.) กองทัพ และสธ. จะได้มีการประชุม ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อให้พร้อมรองรับกับการแพร่ระบาด ที่กระทรวงกลาโหม และ ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ นายกฯ จะเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จากเดิมที่จัดที่ ตึกภักดีบดินทร์ ทั้งนี้ เพื่อปรับรูปแบบห้องประชุมให้ได้มาตราฐานตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข คือจะต้องนั่งห่างกัน 1 เมตรขึ้นไป
"อุตตม" กักตัว 14 วันหลังตร.นำขบวนติดเชื้อ
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้ทราบข่าวตำรวจในรถนำขบวนนายอุตตมได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจคนดังกล่าวมาทำงานเมื่อวันพุธที่11 มีค. วันเดียวแล้วหยุดไปเพิ่งทราบตอนหลังว่าได้รับเชื้อจึงได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนทางด้านนายอุตตมก็เพิ่งทราบจึงได้ไปตรวจอยู่ระหว่างการรอผล และได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที 14 วัน โดยจะทำงานที่บ้านผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนต์
นอกจากนั้นทางนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข โดยได้ประสานงานไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้เข้ามาตรวจสอบตามระเบียบ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่พ่นยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้นั้งในรถตู้คันเดียวกับนายอุตตม แต่เป็นชุดติดตามรักษาความปลอดภัยนั้งในรถนำ
ขุนคลังย้ำตร.นำไม่ได้นั่งรถคันเดียวกัน
ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้โพสต์ชี้แจงว่า จากที่มีข่าวผมอาจติดเชื้อโควิด -19 หรือไม่ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า มีจุดเริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่งซึ่งปฏิบัติหน้าที่รถนำ (เป็นรถคนละคันกับที่ผมนั่ง) ซึ่งได้ปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 11 มี.ค.เพียงวันเดียว จากนั้นก็ไม่ได้เข้าปฏิบัติงานอีกเลย ต่อมาภายหลังทีมงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากผลตรวจเลือดพบว่าติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ขอย้ำว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในรถคันเดียวกับผมเวลาเดินทางตามที่ปรากฏในข่าว แต่เขาปฏิบัติหน้าที่ในรถนำ
อย่างไรก็ตาม ตัวผมหลังจากที่ทราบเรื่อง ก็ได้เข้าตรวจที่โรงพยาบาล และปฏิบัติตามแนวทางการกักตัวเองทันที โดยทำงานจากบ้านผ่าน
สำหรับผลการตรวจของผมจะทราบภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากตรวจ ซึ่งหมายความว่ายังไม่รู้ว่าผมติดเชื้อหรือไม่ และขอยืนยันว่าผมและบุคคลใกล้ชิดทุกคน ได้ปฏิบัติตามแนวทางสาธารณสุขหลังจากทราบเรื่องทันที
แจงสถานประกอบการ 8 ประเภทที่ต้องปิด14 วัน
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า มาตรการขณะนี้ ไม่ใช่การปิดเมือง หรือปิดประเทศ แต่เป็นมาตรการสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าประเทศให้ยากขึ้น เพื่อชะลอการระบาดในประเทศ มีมาตรการคัดกรองบุคคลที่จะกลับเข้าประเทศไทย หรือต่างชาติที่เข้าประเทศไทย ที่เข้มข้น
อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆเหล่านี้ ย่อมมีผลกระทบต่อประชาชนแน่นอน ตรงนี้อยากขอโทษประชาชนอย่างมาก ที่ความสะดวกความสบายที่เคยได้รับอาจได้รับน้อยลง แต่เป็นระยะหนึ่งเท่านั้น จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนการเดินทางต่างๆ ยังใช้ชีวิตปกติ เช่นเดิม
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกสธ. กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ระยะ 2 ก็จริง แต่พบสัญญาณบางอย่าง ที่มีความเสี่ยงที่จะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลให้ความสำคัญ จึงมีมาตรการ 6 ด้าน ออกมา
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ประเภทของสถานที่ ที่ปิดชั่วคราวใน กทม. จะมี 8 ประเภท ได้แก่ 1 .สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 2. สถานประกอบกิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร ซาวน่า 3. โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร 4. ฟิตเนส 5. สถานประกอบกิจการคล้ายสถานบริการ 6. สนามมวย 7. สนามกีฬา และ 8.สนามม้า
สำหรับประเภทที่ 5 นั้น สถานบริการ ในส่วนของกทม. ที่ขึ้นทะเบียนไว้ มี 1,712 แห่งใน 50 เขต โดยสถานบริการที่ต้องปิด และหลายคนยังสงสัยว่า รูปแบบเป็นอย่างไรนั้น หมายถึง ที่มีการจำหน่ายอาหาร สุรา มีการแสดงดนตรี เต้นรำ การแสดงโชว์ คาราโอเกะ หรือที่เรียกว่า นั่งดริ้ง สถานที่เหล่านี้ ปิด แต่ร้านอาหารทั่วๆไป ไม่ได้ปิด ยังขายได้ตามปกติ
ส่วนสนามกีฬานั้น หากเป็นที่โล่งแจ้ง คนวิ่งออกกำลังกายไม่เบียดเสียดกัน ยังดำเนินการได้ แต่หากเป็นสนามกีฬาที่ปิด ซึ่งมีโอกาสที่ผู้ออกกำลังกายจะใกล้ชิดและสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น สนามฟุตซอล สนามแบดมินตัน โรงยิม จะปิดชั่วคราว 14 วัน และระหว่างที่ปิด จะมีเจ้าหน้าที่เขตไปตรวจสอบ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคให้ถูกสุขอนามัย ส่วนร้านอาหารในถนนข้าวสาร มีการจัดโต๊ะในระยะห่างกัน ไม่เข้าเกณฑ์ที่จะต้องปิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กทม.มีโอกาสจะปิดเมือง หรือมีแนวความคิดที่จะปิด หรือไม่ พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า เราไม่มีความคิดที่จะปิดกทม. หรือ ปิดเมืองไม่ให้คนข้างนอกเข้ามาแต่อย่างใด ทางกทม.มีแนวคิดแค่ จะเพิ่มความเข้มงวดไม่ให้มีการแพร่ระบาด และเข้มงวดการรักษาความสะอาด ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจ จะป้องกันตัวเอง ไม่เอาโรคไปติดคนอื่น
สวดมนต์ไล่โควิด 25 มี.ค.นี้
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวคิดของ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้ทุกวัดทั่วราชอาณาจักร และวัดไทยในต่างประเทศ เจริญพระพุทธมนต์บท "โพชฌังคปริตร" เพื่อเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจในช่วงสถานการณ์ประเทศเกิดวิกฤตว่า ซึ่งตนจะนำเรียนให้มหาเถรสมาคม (มส.) ได้รับทราบในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อให้ทุกวัดได้สวดมนต์บทนี้ ในช่วงหลังจากทำวัตรเย็นทุกวัน
ทั้งนี้จ่ากการหารือกันภายในแล้ว มส.เห็นด้วยที่จะให้มีการสวด แต่ในการสวดนั้น พระที่นั่งสวดจะสวดในพระอุโบสถที่วัดใช้ พระ 9 รูป และจะนั่งห่างกัน 1 เมตร ตามมาตราฐานกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีประชาชนเข้าไปฟัง แต่จะใช้วิธีถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เพื่อให้ประชาชนที่บ้านร่วมรับฟังและมีโอกาสสวดพร้อมกันกับพระ โดยจะเริ่มต้นวันแรก ในวันที่ 25 มี.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. จะเป็นการนำสวดโดยคณะสงฆ์ โดยพิจารณาวัดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) สวดพร้อมกันในวันนั้น คือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ซึ่งขณะนี้กำลังทำหนังสือเรียนเชิญสมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธาน วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร รวมถึงวัดในจังหวัดหลัก เพื่อเสริมให้กำลังใจกับประชาชนทุกคนรอดพ้นจากภัยอันตราย และในวันดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดยัดเยียด จะขอความร่วมมือประชาชน ให้อยู่นอกอุโบสถ โดยเว้นระยะห่างไม่ให้เกิดแออัด และจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 11 (NBT)ช่อง 9 (MCOT)
นายเทวัญ กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนได้หาคือกับนายกฯ ในที่ประชุมครม.แล้ว นายกฯ บอกว่าดี เพราะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมกับให้ข้อแนะนำให้เฝ้าระวัง โดยให้ประชาชนฟังอยู่ที่บ้าน จะได้ไม่มีความเสียงเรื่องติดเชื้อ
ยุติธรรมสั่งปิดคุก-สถานพินิจฯ 14 วัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งให้ กรมราชทัณฑ์ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมคุมประพฤติ งดให้ญาติผู้ต้องขังเข้าเยี่ยมเพื่อป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งพบว่ามีญาติผู้ต้องขังบางรายมีผลเป็นบวกและไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่ง โดยเป็นการเยี่ยมที่มีกระจกกั้นและพูดคุยผ่านโทรศัพท์เท่านั้น ขณะเดียวกันได้เฝ้าระวังเจ้าหน้าที่ธุรการของเรือนจำดังกล่าวทั้ง 2 ราย แม้เบื้องต้นแพทย์ระบุไม่น่าจะติดเชื้อ แต่กรมราชทัณฑ์ยังให้กักตัวเองกว่า 10 วันแล้ว
พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 ราย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 35 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มสัมผัสกับผู้ป่วยเก่าหรือสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 29 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 13 ราย สถานบันเทิง 4 ราย ย่านทองหล่อ และสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 12 ราย และ 2.กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย แบ่งเป็น กลับจากต่างประเทศ 1 ราย คือกลับจากกัมพูชา ทำงานใกล้ชิดต่างชาติ 4 ราย เป็นพนักงานต้อนรับ บริกร และนิติบุคคลคอนโดมิเนียม และรอผลการสอบสวนโรค 1 ราย
นอกจากนี้ ยังมีรักษาหายเพิ่ม 1 ราย สรุปมีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 212 ราย กลับบ้านได้แล้ว 42 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 169 ราย โดยมีอาการหนัก 3 ราย
กพท.ประกาศเพิ่ม10ประเทศ"กลุ่มเสี่ยง"
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เตรียมลงนามในประกาศ เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 2 โดยประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ทันที 48 ชั่วโมง หรือ 2 วันข้างหน้า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด
โดยประกาศ กพท.ดังกล่าวจะเพิ่มประเทศกลุ่มเสี่ยงอีก 10 ประเทศ ประกอบด้วย สเปน , ฝรั่งเศส , เยอรมนี , สวิสเซอร์แลนด์ , อังกฤษ, ญี่ปุ่น, นอร์เวย์ ,สวีเดน, เดนมาร์ก และ สหรัฐฯ หากประกาศออกมาจะทำให้มีประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องปฎิบัติตามข้อกำหนดของประกาศ กพท.รวมทั้งสิ้น 14 ประเทศ + 2 เขตบริหารพิเศษ (เดิมเกาหลี จีน มาเก๊า ฮ่องกง อิตาลี และอิหร่าน)