xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตรอกระหน่ำทุกด้าน!

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์





เละตุ้มเป๊ะ สะเปะสะปะ นั่นคือสภาพของการตั้งรับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังเพิ่มจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศเพิ่มทุกวัน ระยะหลังมีเพิ่มแบบเป็นกลุ่ม เพราะการแพร่กระจายโดยพาหะไม่มีการเตือนล่วงหน้า กว่าจะรู้ก็สาย...

ก็ต้องเข้ารับการรักษาตามสภาพหนักหรือเบา ขึ้นอยู่กับวัย สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ ของผู้รับเชื้อด้วย ดูสภาพแล้วน่าห่วง จากเดิมมีไม่กี่ราย เพียงแค่เดือนกว่ามียอดมากกว่าร้อยราย และมีแนวโน้มว่าจะไปได้เรื่อยๆ โดยกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

ไม่ใช่เฉพาะคนไม่รู้ข้อมูลข่าวสาร คนดังในระดับต่างๆ ก็ติดเชื้อเพราะไม่ระวัง เมื่อพาหะเพ่นพ่านมีกิจกรรมเยอะ สังคมจัด ก็ทำให้คนอื่นๆ ต้องเดือดร้อนไปด้วย แต่คงไม่ถึงกับต้องตีโพยตีพาย ดรามาจัดเหมือนคนสติแตก สร้างราคาให้ตัวเอง

ดูสภาวะที่เป็นอยู่แล้ว ชาวบ้านคนติดตามข่าวสารก็บอกได้อย่างเดียวว่า “เหนื่อย” กับรัฐบาล ซึ่งกำลังเป็นตัวปัญหาหลัก และก็โบ้ยบ้ายไปด้วยผิวหน้าทนทานว่าอย่ามัวแต่โทษกัน ทุกฝ่ายกำลังทำงานแก้ปัญหาร่วมกัน ต้องให้กำลังใจ

แต่ไม่ยอมเอ่ยประโยคทอง “เพื่อให้พวกกูได้อยู่ต่อในอำนาจอีกนานๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายล้มเหลวอะไรทั้งนั้น ไงล่ะ!” ได้ยิน ได้ฟังชัดพอหรือยัง?

ขอย้ำอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ จำไม่ได้ “กระผมมีความมั่นใจในศักยภาพ ขีดความสามารถของวงการแพทย์และระบบสาธารณสุขของประเทศไทย แต่กระผมไม่เชื่อมั่นในความสามารถของผู้กุมอำนาจรัฐบาล” พูดย้ำซ้ำๆ จนกระผมก็อายนะ

ความสับสนอลหม่าน ไม่จัดลำดับความสำคัญ จนถูกมองว่าทำงานไม่เป็น ไม่มีสำนึกความเร่งด่วน ไม่สำนึกถึงสภาพของวิกฤต ทำให้ประเทศต้องอยู่ในสภาพน่าสมเพชดังเช่นทุกวันนี้! เพียงแค่เรื่องอัปยศด้านหน้ากากอนามัยขาดแคลนก็เต็มกลืน

ทุกวันนี้ยังไม่บอกว่าจะจัดการแก้ไขปัญหาอย่างไร จะให้โรงพยาบาล แพทย์ บุคลากรต่างๆ มีเครื่องมือ อุปกรณ์ใช้อย่างเพียงพอ รับศึกไวรัสระบาด โดยไม่ต้องตากหน้าขอบริจาคจากประชาชน ประจานความไร้ความสามารถของผู้นำรัฐบาล

บอกแล้วว่าวิกฤตระดับนี้เป็นการวัดขีดความสามารถของผู้นำประเทศ ที่ผ่านมา ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ท่านผู้นำสอบตกเกือบหมด ที่ได้มาก็คะแนนปริ่มน้ำ

แต่ก็อยู่มาได้นานกว่า 5 ปี จนเศรษฐกิจอยู่ในสภาพตายซาก คนจนทั้งแผ่นดิน ล้มเหลวเรื่องแก้ปัญหาสุขภาพ เช่น สารพิษเคมีเกษตร 3 ตัว ฝุ่นพิษ พีเอ็ม 2.5 แต่ยังมีหน้าประกาศว่าจะอยู่ต่ออีก โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ไม่สงสารประเทศ

ผ่านมาเกือบ 2 เดือน หลังจากมีคนป่วยด้วยไวรัสโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อรับสถานการณ์ แต่ตากหน้ามาตั้งกองทุนขอบริจาคจากประชาชน คนที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร เมื่อเศรษฐกิจตายซากอย่างนี้

แต่คนดังในรัฐบาลประกาศจะจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น เห็นหุ้นสำคัญกว่าชีวิตของประชาชน ไม่สำเหนียก สำนึกว่า ถ้าการระบาดมีคนตายเป็นเบือ หุ้นของตระกูลไหนจะอยู่รอดได้ การท่องเที่ยว จีดีพี สารพัดที่อยากจะห่วงนั้น จะมีอะไรเหลือ

เป็นความสุดยอดของความสิ้นคิดจริงๆ และไม่มีคนรัฐบาลแย้ง อาจเป็นเพราะเกรงใจพวกเดียวกัน หรือเห็นว่ากลุ่มธุรกิจเจ้าสัวมีโอกาสล่มสลายเพราะไวรัสตัวนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเศรษฐกิจในยุโรป สหรัฐฯ กำลังเห็นเค้าลางของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

จะว่าไม่ฉลาด คิดไม่เป็น ก็ไม่น่าใช่ เพราะมีคนชี้แนะ แสดงความเห็นผ่านสื่อต่างๆ ทุกวัน คงเป็นเพราะเหตุหลายประการ เช่น ความดื้อรั้น ถือดี ไม่ฟังใคร เชื่อมั่นในตัวเองสูง อีโก้จัดจ้าน ทั้งๆ ที่เห็นแล้วว่าสถานการณ์ในต่างประเทศเป็นอย่างไร

ความผิดพลาด ผิดจังหวะในการตัดสินใจ ทำให้เกิดวิกฤตเกินกว่าที่ควรจะเป็น หรือเป็นเพราะปัญหาหลักคือ “ขาดความกล้าหาญในการตัดสินใจทำความดีเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน” ที่ผ่านมา มีแต่โครงการ การตัดสินใจอวยเจ้าสัว

เคยปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องอวยเจ้าสัวหลายครั้ง แต่ฟังน้ำเสียงไม่หนักแน่น ฉาดฉาน เป็นเพียงแค่อ้อมๆ แอ้มๆ คงเป็นเพราะชาวบ้านก็เห็นว่าอะไรเป็นอะไร

กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา พฤติกรรมมันฟ้องชัด! หลักฐานที่ชัดยิ่งกว่าชัดคือ ถ้ากลุ่มผู้มีอำนาจใจซื่อ มือสะอาด ทำงานด้วยเจตนาดีต่อผลประโยชน์ของประชาชนบ้านเมืองคงไม่อยู่ในสภาพที่น่าอนาถ รวยกระจุก โกงกระจุก จนกระจายอย่างนี้!

จากนี้ไปก็คงเห็นมาตรการเข้ม ปิดนั่นปิดนี่ เพื่อหวังคุมสถานการณ์ แต่ปัญหาพื้นฐานคงยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะการขาดแคลนหน้ากากอนามัยยังสาหัส แม้จะได้เชือดอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นแพะบูชายัญไปแล้ว แต่ตัวโกงและพวกยังอยู่ดี

ล่าสุดก็เห็นประชาชนไปซื้ออาหาร สิ่งของจำเป็นไปใช้ จะว่ากักตุนคงไม่ถูกต้องนัก เอาเป็นว่าเขาอาจต้องอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปไหน ถ้าการระบาดหนัก ดังนั้น ต้องมีข้าวปลาอาหารไว้กินระยะหนึ่ง อาจจะเป็นเดือนๆ ถ้ายังเอาไม่อยู่

จะไปโทษชาวบ้านก็ไม่ได้ เพราะได้เห็นความไม่เอาอ่าวของกระบวนการตัดสินใจและทิศทางการแก้ปัญหาของภาครัฐ วงการแพทย์ โรงพยาบาลก็เหนื่อยสาหัส ยิ่งมาโดนความไร้ประสิทธิภาพของภาคการเมืองด้วยแล้ว ยิ่งแทบหมดใจ

สภาวะวิกฤตทุกด้านที่เป็นอยู่ บอกได้ว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เคยประสบ และยังไม่จบ ด้านเศรษฐกิจจะถดถอย ใครจะอยู่ใครจะไปอยู่ที่ความแข็งแกร่งของพื้นฐานและทรัพยากรที่มีอยู่ ถ้าปัจจัยพร้อม แต่ผู้นำไม่เอาไหน ก็ไม่ช่วยอะไรได้มากนัก

ประชาชนต้องช่วยตัวเอง สนับสนุนเอาใจช่วยแพทย์ บุคลากรนักสู้ให้ชนะ ฝ่ายการเมืองกุมอำนาจนะเรอะ ไล่ก็ไม่ไป ยังหน้าด้านขอมีส่วนร่วมเป็นฮีโร่อีกด้วย!
กำลังโหลดความคิดเห็น