ผู้จัดการรายวัน 360 - “เครือซีพี” เข้าซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในไทยและมาเลเซีย ภายใต้ชื่อกลุ่ม “เทสโก้เอเชีย” มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 10,576 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 338,445 ล้านบาท บนสมมติฐานกิจการไม่มีหนี้สินและเงินสด แต่มูลค่าสิ่งตอบแทนอาจเปลี่ยนแปลงได้ คาดเสร็จสิ้นดีลสิ้นปี63 ผู้บริหาร “ซีพีเอฟ” เผยวัตถุประสงค์ต้องการต่อยอดช่องทางการขายสินค้าของทั้ง 2 ประเทศและปรับรูปแบบของการค้าเนื้อสัตว์ให้ผ่านช่องทางที่ทันสมัยสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น
การประมูลซื้อกิจการ เทสโก้โลตัส ในประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ถึงบทสรุปเรียบร้อยแล้วเมื่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้คว้าดีลนี้ไปครอง โดยเครือซีพีได้จัดตั้ง บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทโฮลดิ้ง) ผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่จะเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายครั้งนี้ โดยบริษัทโฮลดิ้งดังกล่าวจะถือหุ้นโดยเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง 40%, บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) 40% และ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ถือหุ้น 20%
โดย รายงานข่าวจาก CPALL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นหรือผลประโยชน์การลงทุน (economic interest) ในสัดส่วนไม่เกิน 40% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ (ก.) บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (เทสโก้ประเทศไทย) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในประเทศไทย และ (ข.) Tesco Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. (เทสโก้ประเทศมาเลเซีย) ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco ในประเทศมาเลเซีย
การลงทุนดังกล่าวของบริษัทจะเป็นการลงทุนโดยอ้อมผ่านนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน ได้แก่ บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทโฮลดิ้ง) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยเงินลงทุนของบริษัทในบริษัทโฮลดิ้งเพื่อธุรกรรมการลงทุนในกลุ่มเทสโก้เอเชียมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 95,981 ล้านบาท
ขณะที่บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ บริษัท ซีพี เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทั้งหมด ลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นหรือผลประโยชน์การลงทุน (economic interest) ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ (ก.) เทสโก้ประเทศไทย และ (ข.) เทสโก้ประเทศมาเลเซีย
การลงทุนดังกล่าวของบริษัทจะเป็นการลงทุนโดยอ้อมผ่านนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน ได้แก่ บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทโฮลดิ้ง) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยเงินลงทุนของ CPM ในบริษัทโฮลดิ้งเพื่อธุรกรรมการลงทุนในกลุ่มเทสโก้เอเชียมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 47,991 ล้านบาท
ส่วนหุ้นอีก 40% ในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จะถือโดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟสนใจเข้าร่วมลงทุนในเทสโก้เอเซีย เพราะเป็นการต่อยอด Value Chain ของช่องทางการขายสินค้าของบริษัททั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย และมีแนวทางในการปรับรูปแบบของการค้าเนื้อสัตว์ให้ผ่านช่องทางที่ทันสมัยสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น การเข้าร่วมลงทุนครั้งนี้ทำให้ยอดขายทั้งของเทสโก้และซีพีเอฟเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ รายการลงทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่กำหนดไว้สำเร็จครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการได้รับมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ Tesco UK สำหรับการขายหุ้นในกลุ่มเทสโก้เอเชีย สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าอนุญาตให้ทำรายการ (หากต้องมีการขออนุญาต) และได้รับอนุญาตจาก Ministry of Domestic Trade and Consumers Affairs of Malaysia ทำรายการในประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่าการเข้าทำรายการน่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 63 นี้
สำหรับ Tesco Lotus ในประเทศไทย มีร้านค้าในรูปแบบต่างๆ ประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เกต 214 สาขา, ตลาดโลตัส 179 สาขา และ Tesco Express 1,574 สาขา และให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า 191 สาขา (ข้อมูล สิ้นเดือน ส.ค. 62)
ขณะที่ Tesco ในประเทศมาเลเซีย มีไฮเปอร์มาร์เกต 46 สาขา, ซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวน 13 สาขา และร้านค้าขนาดเล็ก 9 สาขา และให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า 56 สาขา(ข้อมูล สิ้นเดือน ส.ค. 62)