"พิธา" นั่งประธาน ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ชั่วคราว ประกาศนำ 55 ส.ส.ร่วม "พรรคก้าวไกล" ยันยึดมั่นอุดมการณ์เดิม ผลักดันนโยบายก้าวหน้าเพื่อประชาชน แต่บอกปัด "ธนาธร-ปิยบุตร"ไม่ยุ่งเกี่ยว ส่วนเรื่องเงิน เน้นระดมทุนเอสเอ็มอี ลั่นไม่กลัวเจอคดีใหม่ "สนธิรัตน์" ยินดีกับการตั้งพรรคใหม่ ขอให้เดินตามกรอบรัฐธรรมนูญ
วานนี้ (8 มี.ค.) ที่ศูนย์ประสานงานอดีตพรรคอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี เขตบางแค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แกนนำอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นำ 55 ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ด้วยกัน คือพรรคก้าวไกล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ในการที่จะไปสมัครเข้าพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อสานต่ออุดมการณ์ ภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ โดยจะยังคงยืนอยู่ข้างประชาชน ยืนหยัดต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และผลักดันวาระนโยบายที่ก้าวหน้าต่อไป
นายพิธา กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติเลือกให้ตนเป็นประธาน ส.ส.ชั่วคราวในระหว่างนี้ รวมถึงแต่งตั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ให้เป็นโฆษกชั่วคราว ทั้งนี้ ยืนยัน ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีในส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าอุดมการณ์ของพรรคใหม่ จะไม่เปลี่ยน แต่ก็ต้องเป็นตัวของเราเอง และการตัดสินใจของพวกเราเอง
เมื่อถามถึงสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายใต้การนำของผู้นำคนใหม่ นายพิธา กล่าวว่า การบริหารจัดการ เราต้องยอมรับว่า ใน 1 ปีที่ผ่านมา เราทำงานแข็งขัน รวดเร็ว ก็อาจจะมีการสื่อสารทั้งภายใน ภายนอก ที่น้อยเกินไป ฉะนั้นในเรื่องของกลยุทธ์ นโยบาย อุดมการณ์ เราก็จะไปยังเป้าหมายเดิม เพราะมันเป็นเป้าหมายร่วมของทุกคน แต่สิ่งสำคัญถ้าเรามีความฝัน แต่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็ต้องมาวางแผนกันเป็นรายไตรมาส รายเดือน รายวัน ว่าการบริหารจัดการภายในเรื่องของโครงสร้างพรรค กระบวนการทำงาน การเชื่อมกรรมาธิการเข้ามาสู่ฝ่ายนโบาย เป็นสิ่งที่จะต้องทำใหม่
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่า ส.ส.ทั้ง 55 คน จะย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกลทั้งหมด นายพิธา กล่าวว่า ตนมั่นใจ การที่ทุกคนมายืนอยู่ข้างหลังตนเป็นกำแพงชั้นแรก ทำให้ตนมีความมั่นใจ แล้วก็มีความตื่นเต้นในการทำงาน กำแพงชั้นที่ 2 ก็คือประชาชน ที่ทั้งเลือกและไม่ได้เลือกเรามา ประเทศไทยช่วงนี้มีแต่ความท้าทาย ที่จะเป็นนิยามของทศวรรษ ศตวรรษนี้เลยทีเดียว ฉะนั้นผู้แทนที่เฝ้ามองเขาอยู่ เราคงมองเป็นทิศทางเดียวกันว่าควรจะสามัคคีกัน แล้วก็สามารถที่จะทำงานให้สมกับเงินภาษีที่ประชาชนได้เลือกมา
ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายภายในพรรคนั้น นายพิธา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเราจะเป็นพรรคที่เล็กลง แต่เร็วขึ้น ก็จะเน้นเรื่องการระดมทุนกับประชาชน อาจจะเริ่มกับบริษัทขนาดเอสเอ็มอี และการขายสินค้า ก็เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า ในอดีตที่ผ่านมา การระดมทุน การสมัครสมาชิก การขายสินค้าออนไลน์ ก็สามารถทำให้พรรคอยู่ได้
เมื่อถามถึงความกังวล ที่จะถูกดำเนินคดีต่างๆ หลังย้ายไปอยู่พรรคใหม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวล ตราบใดที่ตนยังมีเพื่อนส.ส.ยืนอยู่ข้างหลัง เราได้ถอดบทเรียน และพร้อมที่จะทำงานต่อไปข้างหน้า ที่ควรถามกลับคือ บรรยากาศการเมืองในการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ประชาชนโดยเฉพาะนิสิต นักศึกษา ร้องขออยู่ไม่ใช่หรือ พวกตนมีความตั้งใจดีในการตั้งใจมาช่วยเหลือประเทศ มาเปลี่ยนประเทศ ทำให้ดีกว่ารุ่นที่พวกตนเกิดมา และส่งต่อไปให้รุ่นลูกของตน ความตั้งใจก็เรียบง่าย มีอยู่เท่านี้ แต่การทำงานก็จะต้องระมัดระวัง และตั้งใจที่จะลงรายละเอียดมากขึ้น
ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า เราถูกตั้งคำถามในเรื่องนี้เยอะ ตนคิดว่าคำถามทำนองนี้ สะท้อนสถานการณ์การเมืองไทยที่ผิดปกติอย่างชัดเจน เรายังไม่ทันได้ย้ายไปอยู่พรรคใหม่อย่างเป็นทางการ ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย แต่ทั้งสังคมไทยคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า พรรคน่าจะถูกยุบอีก จะโดนคดีอีก นั่นเป็นข้อชัดเจนว่า คดีความทั้งหมดของอดีตพรรคอนาคตใหม่ หรือในอนาคต เหล่านี้มีแรงจูงใจทางการเมืองทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า แม้ในทางนิตินัยจะไม่เกี่ยวข้องกับคณะอนาคตใหม่ แต่เมื่อรับอุดมการณ์มาเหมือนกันจะอธิบายกับสังคมอย่างไรในเรื่องความไม่เกี่ยวข้องกัน นายพิธา กล่าวว่า พวกเราไม่ได้รับนโยบายมา เราทำนโยบายมาด้วยกัน ทุกคนอยู่กันมา 1-2 ปี มันเป็นส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเหมือนดีเอ็นเอ ของพวกเราไม่ได้มีการรับอะไรมา
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวแสดงความยินดี ที่นายพิธา ได้เปิดตัวนำ ส.ส.อดีตพรรคความหวังใหม่ ไปสังกัดพรรคก้าวไกล และขอให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และอยากเห็นการทำการเมืองที่อดทน และเดินอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้
เมื่อถามว่า นอกจากพรรคก้าวไกล และยังมีการจัดตั้งพรรคใหม่ขึ้นอีกในช่วงนี้ อย่างพรรคเสมอภาค ของ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และ พรรคกล้า ของนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นต้น ได้ส่งสัญญาณทางการเมืองอย่างไร หรือ มีนัยยะใดที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีนัยยะถึงขนาดนั้น แต่เนื่องจากทางการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำให้การเกิดพรรคการเมืองที่มีความหลากหลาย โดยทั้ง 3 พรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ก็มีที่มาแตกต่างกัน แต่ทั้งหมด ก็มีอุดมการณ์ทางการเมืองในการจัดตั้ง จึงไม่ใช่เป็นตัวชี้ของสถานการณ์การเมือง แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงโอกาสทางการเมือง
วานนี้ (8 มี.ค.) ที่ศูนย์ประสานงานอดีตพรรคอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี เขตบางแค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แกนนำอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นำ 55 ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ด้วยกัน คือพรรคก้าวไกล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ในการที่จะไปสมัครเข้าพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อสานต่ออุดมการณ์ ภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ โดยจะยังคงยืนอยู่ข้างประชาชน ยืนหยัดต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และผลักดันวาระนโยบายที่ก้าวหน้าต่อไป
นายพิธา กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติเลือกให้ตนเป็นประธาน ส.ส.ชั่วคราวในระหว่างนี้ รวมถึงแต่งตั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ให้เป็นโฆษกชั่วคราว ทั้งนี้ ยืนยัน ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีในส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าอุดมการณ์ของพรรคใหม่ จะไม่เปลี่ยน แต่ก็ต้องเป็นตัวของเราเอง และการตัดสินใจของพวกเราเอง
เมื่อถามถึงสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายใต้การนำของผู้นำคนใหม่ นายพิธา กล่าวว่า การบริหารจัดการ เราต้องยอมรับว่า ใน 1 ปีที่ผ่านมา เราทำงานแข็งขัน รวดเร็ว ก็อาจจะมีการสื่อสารทั้งภายใน ภายนอก ที่น้อยเกินไป ฉะนั้นในเรื่องของกลยุทธ์ นโยบาย อุดมการณ์ เราก็จะไปยังเป้าหมายเดิม เพราะมันเป็นเป้าหมายร่วมของทุกคน แต่สิ่งสำคัญถ้าเรามีความฝัน แต่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็ต้องมาวางแผนกันเป็นรายไตรมาส รายเดือน รายวัน ว่าการบริหารจัดการภายในเรื่องของโครงสร้างพรรค กระบวนการทำงาน การเชื่อมกรรมาธิการเข้ามาสู่ฝ่ายนโบาย เป็นสิ่งที่จะต้องทำใหม่
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่า ส.ส.ทั้ง 55 คน จะย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกลทั้งหมด นายพิธา กล่าวว่า ตนมั่นใจ การที่ทุกคนมายืนอยู่ข้างหลังตนเป็นกำแพงชั้นแรก ทำให้ตนมีความมั่นใจ แล้วก็มีความตื่นเต้นในการทำงาน กำแพงชั้นที่ 2 ก็คือประชาชน ที่ทั้งเลือกและไม่ได้เลือกเรามา ประเทศไทยช่วงนี้มีแต่ความท้าทาย ที่จะเป็นนิยามของทศวรรษ ศตวรรษนี้เลยทีเดียว ฉะนั้นผู้แทนที่เฝ้ามองเขาอยู่ เราคงมองเป็นทิศทางเดียวกันว่าควรจะสามัคคีกัน แล้วก็สามารถที่จะทำงานให้สมกับเงินภาษีที่ประชาชนได้เลือกมา
ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายภายในพรรคนั้น นายพิธา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเราจะเป็นพรรคที่เล็กลง แต่เร็วขึ้น ก็จะเน้นเรื่องการระดมทุนกับประชาชน อาจจะเริ่มกับบริษัทขนาดเอสเอ็มอี และการขายสินค้า ก็เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า ในอดีตที่ผ่านมา การระดมทุน การสมัครสมาชิก การขายสินค้าออนไลน์ ก็สามารถทำให้พรรคอยู่ได้
เมื่อถามถึงความกังวล ที่จะถูกดำเนินคดีต่างๆ หลังย้ายไปอยู่พรรคใหม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวล ตราบใดที่ตนยังมีเพื่อนส.ส.ยืนอยู่ข้างหลัง เราได้ถอดบทเรียน และพร้อมที่จะทำงานต่อไปข้างหน้า ที่ควรถามกลับคือ บรรยากาศการเมืองในการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ประชาชนโดยเฉพาะนิสิต นักศึกษา ร้องขออยู่ไม่ใช่หรือ พวกตนมีความตั้งใจดีในการตั้งใจมาช่วยเหลือประเทศ มาเปลี่ยนประเทศ ทำให้ดีกว่ารุ่นที่พวกตนเกิดมา และส่งต่อไปให้รุ่นลูกของตน ความตั้งใจก็เรียบง่าย มีอยู่เท่านี้ แต่การทำงานก็จะต้องระมัดระวัง และตั้งใจที่จะลงรายละเอียดมากขึ้น
ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า เราถูกตั้งคำถามในเรื่องนี้เยอะ ตนคิดว่าคำถามทำนองนี้ สะท้อนสถานการณ์การเมืองไทยที่ผิดปกติอย่างชัดเจน เรายังไม่ทันได้ย้ายไปอยู่พรรคใหม่อย่างเป็นทางการ ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย แต่ทั้งสังคมไทยคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า พรรคน่าจะถูกยุบอีก จะโดนคดีอีก นั่นเป็นข้อชัดเจนว่า คดีความทั้งหมดของอดีตพรรคอนาคตใหม่ หรือในอนาคต เหล่านี้มีแรงจูงใจทางการเมืองทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า แม้ในทางนิตินัยจะไม่เกี่ยวข้องกับคณะอนาคตใหม่ แต่เมื่อรับอุดมการณ์มาเหมือนกันจะอธิบายกับสังคมอย่างไรในเรื่องความไม่เกี่ยวข้องกัน นายพิธา กล่าวว่า พวกเราไม่ได้รับนโยบายมา เราทำนโยบายมาด้วยกัน ทุกคนอยู่กันมา 1-2 ปี มันเป็นส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเหมือนดีเอ็นเอ ของพวกเราไม่ได้มีการรับอะไรมา
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวแสดงความยินดี ที่นายพิธา ได้เปิดตัวนำ ส.ส.อดีตพรรคความหวังใหม่ ไปสังกัดพรรคก้าวไกล และขอให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และอยากเห็นการทำการเมืองที่อดทน และเดินอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้
เมื่อถามว่า นอกจากพรรคก้าวไกล และยังมีการจัดตั้งพรรคใหม่ขึ้นอีกในช่วงนี้ อย่างพรรคเสมอภาค ของ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และ พรรคกล้า ของนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นต้น ได้ส่งสัญญาณทางการเมืองอย่างไร หรือ มีนัยยะใดที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีนัยยะถึงขนาดนั้น แต่เนื่องจากทางการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำให้การเกิดพรรคการเมืองที่มีความหลากหลาย โดยทั้ง 3 พรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ก็มีที่มาแตกต่างกัน แต่ทั้งหมด ก็มีอุดมการณ์ทางการเมืองในการจัดตั้ง จึงไม่ใช่เป็นตัวชี้ของสถานการณ์การเมือง แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงโอกาสทางการเมือง
