วานนี้ ( 27 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ พร้อมพวกรวม 6 คน ตกเป็นผู้ต้องหา
หลังการหารือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คดีการอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษา ตอนนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างนี้รอผลอย่างเป็นทางการของการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ของชิ้นส่วนกระดูกกับกะโหลกศีรษะมนุษย์ ที่พบในผืนดินรกร้าง จ.นครสวรรค์
มีรายงานในที่ประชุมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้เน้นย้ำชุดคลี่คลายคดี เร่งพิสูจน์ทราบพยานแวดล้อม และยืนยันตัวบุคคลในภาพวงจรปิด ตลอดจนให้ชุดสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุม ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำพยานในคดีไปแล้ว 40 ปาก เหลืออีก 20 ปาก เพื่อที่จะรวบรวมสำนวนส่งฟ้องได้
ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อหาเงินจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินค่าจ้างในการก่อเหตุ หลังหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้ให้เงิน 2 แสนบาท แก่นายธงชัย วจีสัจจะ หรือ สจ.อ๊อด ลูกน้องคนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ก่อนที่สจ.อ๊อด จะแบ่งให้ นายชาติชาย เมณฑ์กุล และ นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ลูกน้องของ สจ.อ๊อด คนละ 5 หมื่นบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ของชิ้นส่วนกระดูกบริเวณกะโหลกศีรษะ ที่พบในพื้นที่รกร้าง จ.นครสวรรค์ และคราบเลือดบนรถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่ใช้เป็นเป็นพาหนะในการก่อเหตุ มีผลอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า เป็นของนายวีรชัย แต่ผลการตรวจอย่างเป็นทางการจะออกมาภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำมารวบรวม เพื่อประกอบนำสำนวน ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ ทางพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหากล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย เพิ่ม อีก 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย 1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเสี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 2. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย 3. ซ่อนเร้นอำพรางศพ และเรียกค่าไถ่ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ พ.ต.อ.บรรยิน จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มจากอีก 3 ข้อหา คือ 1. แต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ และกระทำการใดๆ อันทำให้ราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ราชการตำรวจ 2. แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และ 3. แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ เนื่องจากในวันเกิดเหตุที่อุ้ม นายวีรชัย ที่หน้าศาลน พ.ต.ท.บรรยิน ได้ใส่เครื่องแบบ ก่อนที่จะออกอุบายเข้าไปแสดงตัวกับนายวีรชัย เพื่อขอตรวจสอบบัตรประชาชน และเชิญตัวพาขึ้นรถไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำพยาน และบุคคลใกล้ชิด ต่างให้การสอดคล้องกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนพบ โดยเฉพาะรถที่ใช้ก่อเหตุ ที่บุคคลใกล้ชิดซึ่งเป็นลูกน้องภายในบ้านของ พ.ต.ท.บรรยิน ยืนยันว่า เป็นรถที่พ.ต.ท.บรรยิน ใช้เป็นประจำ รวมทั้งทางแม่บ้านของพ.ต.ท.บรรยิน ยืนยันว่า ซิมการ์ด ที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ติดต่อกัน ตนก็เป็นคนไปซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ให้ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63
หลังการหารือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คดีการอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษา ตอนนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างนี้รอผลอย่างเป็นทางการของการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ของชิ้นส่วนกระดูกกับกะโหลกศีรษะมนุษย์ ที่พบในผืนดินรกร้าง จ.นครสวรรค์
มีรายงานในที่ประชุมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้เน้นย้ำชุดคลี่คลายคดี เร่งพิสูจน์ทราบพยานแวดล้อม และยืนยันตัวบุคคลในภาพวงจรปิด ตลอดจนให้ชุดสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุม ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำพยานในคดีไปแล้ว 40 ปาก เหลืออีก 20 ปาก เพื่อที่จะรวบรวมสำนวนส่งฟ้องได้
ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อหาเงินจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินค่าจ้างในการก่อเหตุ หลังหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้ให้เงิน 2 แสนบาท แก่นายธงชัย วจีสัจจะ หรือ สจ.อ๊อด ลูกน้องคนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ก่อนที่สจ.อ๊อด จะแบ่งให้ นายชาติชาย เมณฑ์กุล และ นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ลูกน้องของ สจ.อ๊อด คนละ 5 หมื่นบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ของชิ้นส่วนกระดูกบริเวณกะโหลกศีรษะ ที่พบในพื้นที่รกร้าง จ.นครสวรรค์ และคราบเลือดบนรถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่ใช้เป็นเป็นพาหนะในการก่อเหตุ มีผลอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า เป็นของนายวีรชัย แต่ผลการตรวจอย่างเป็นทางการจะออกมาภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำมารวบรวม เพื่อประกอบนำสำนวน ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ ทางพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหากล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย เพิ่ม อีก 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย 1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเสี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 2. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย 3. ซ่อนเร้นอำพรางศพ และเรียกค่าไถ่ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ พ.ต.อ.บรรยิน จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มจากอีก 3 ข้อหา คือ 1. แต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ และกระทำการใดๆ อันทำให้ราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ราชการตำรวจ 2. แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และ 3. แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ เนื่องจากในวันเกิดเหตุที่อุ้ม นายวีรชัย ที่หน้าศาลน พ.ต.ท.บรรยิน ได้ใส่เครื่องแบบ ก่อนที่จะออกอุบายเข้าไปแสดงตัวกับนายวีรชัย เพื่อขอตรวจสอบบัตรประชาชน และเชิญตัวพาขึ้นรถไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำพยาน และบุคคลใกล้ชิด ต่างให้การสอดคล้องกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนพบ โดยเฉพาะรถที่ใช้ก่อเหตุ ที่บุคคลใกล้ชิดซึ่งเป็นลูกน้องภายในบ้านของ พ.ต.ท.บรรยิน ยืนยันว่า เป็นรถที่พ.ต.ท.บรรยิน ใช้เป็นประจำ รวมทั้งทางแม่บ้านของพ.ต.ท.บรรยิน ยืนยันว่า ซิมการ์ด ที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ติดต่อกัน ตนก็เป็นคนไปซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ให้ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63