ศึกซักฟอกป่วนทิ้งท้าย “ฝ่ายค้าน” บริหารเวลาพลาด ทำ ส.ส.พูดไม่ครบ งอแงขอเวลาเพิ่ม จนต้องพักการประชุมยังตกลงกันไม่ได้ ก่อนวอล์ทเอาท์-เมินอภิปรายสรุป เข้าทางฝ่าย รบ.เสนอปิดอภิปรายฉลุย ลงมติวันนี้ (28 ก.พ.) 9 โมงครึ่ง "บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก" รอดซักฟอกโดยปริยาย “ฝ่ายค้าน” ร้าวหนัก “อดีตอนาคตใหม่” โวย “เพื่อไทย” อภิปรายกินเวลา ข้องใจรู้เห็นกับรัฐบาล แฉวิ่งเต้นเอาชื่อ “บิ๊กป้อม” ไว้สุดท้าย
วานนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลของฝ่ายค้าน วันที่ 4 โดยการอภิปรายดำเนินถึงช่วง 16.00 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมในขณะนั้นได้แจ้งว่า เวลาอภิปรายของฝ่ายค้านเหลือเพียง 3 นาที ส่วนรัฐบาลเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งถึงขณะนั้นฝ่ายค้านยังไม่ได้อภิปรายรายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แม้แต่คนเดียว ส่งผลให้ฝ่ายค้านพยายามขอต่อรองเพื่อขยายเวลาออกไปอีกจนถึงก่อน 24.00 น. ซึ่งขัดจากข้อตกลงที่การอภิปรายจะจบภายใน 19.00 น.
5 ส.ส.ฝ่ายค้านยังไม่ได้อภิปราย
อย่างไรก็ดีทางคณะกรรมการประสานงาน (วิป) รัฐบาล ได้ประนีประนอมให้ต่อเวลาออกไปอีก 20 นาที ทำให้นายสุชาติได้อนุญาตให้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่อภิปรายประเด็นความล้มเหลวในการการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร อภิปรายคนสุดท้ายก่อนปิดการอภิปราย และให้สรุปปิดญัตติ แต่เมื่อนายปกรณ์วุฒิ อภิปรายแล้วเสร็จ ฝ่ายค้านก็ยังพยายามขอยืดเวลาเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง โดยขอไปลดเวลาจากการสรุปปิดญัตติที่กำหนดไว้ 2 ชั่วโมง แต่ทางฝ่ายรัฐบาลไม่ยินยอม
จนเมื่อเวลา 18.30 น.นายสุชาติได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ตัวแทนวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านไปประชุมร่วมกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ หาทางออกในการให้เวลาเพิ่มแก่ฝ่ายค้าน เนื่องจากยังมี ส.ส.ของฝ่ายค้านอีก 5 ราย ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ 3 ราย และพรรคเพื่อไทย 2 ราย ยังไม่ได้ใช้สิทธิอภิปราย
“วิปรัฐ” เสียงแข็งไม่ต่อเวลาให้
เมื่อกลับมาประชุมอีกครั้งโดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลให้เวลาแก่ฝ่ายค้านเพิ่มเติมจากเดิมที่มีกำหนดปิดอภิปรายในเวลา 19.00 น. เช่นเดียวกับ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเมื่อฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ให้เวลาเพิ่มเติม ทาง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ยังไม่ได้อภิปรายในสภา จะใช้สิทธิในการอภิปรายนอกสภาแทน
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ยืนกรานว่า ในเมื่อข้อตกลงของทั้งวิปรัฐบาลและวิปฝายค้านตกลงกันแล้วว่าจะปิดอภิปรายเวลา 19.00น. ประกอบกับเมื่อเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านหมดลงแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น
ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า หากยังยืนยันที่จะไม่ให้อภิปรายต่อ ตนเองในฐานะตัวแทนของฝ่ายค้านไม่อาจใช้สิทธิอภิปรายสรุปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ เมื่อเป็นเช่นนี้การลงมติในวันถัดไปก็อาจจะไม่ชอบตามข้อบังคับ
ขณะนั้น กลุ่ม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ได้ทยอยเดินออกจากห้องประชุมเพื่อลงมาแถลงข่าวด้านล่างห้องประชุม
พปชร.ชิงเสนอปิดอภิปราย-พท.โวย
ต่อมานายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ปิดการอภิปราย จากนั้นนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอให้เปิดอภิปราย จึงต้องมีการนับองค์ประชุมก่อนลงมติว่าจะให้มีการอภิปรายต่อหรือไม่ ปรากฏว่าระหว่างนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้เดินออกจากห้องประชุม
สำหรับผลการนับองค์ประชุมมีส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมจำนวน 259 คน และมีมติ 251 คะแนนให้ปิดการอภิปราย ต่อมานายศุภชัย แจ้งว่าผู้เสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถใช้สิทธิอภิปรายสรุปได้อีกครั้งตามข้อบังคับประชุมสภาฯข้อ 75 และเมื่อไม่มีผู้เสนอญัตติอภิปรายสรุป จึงถือว่าการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสิ้นสุดลงแล้ว และขอนัดลงมติในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 9.30 น.
ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ พล.อ.ประวิตร ที่จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับบุคคลใกล้ชิดแสวงหาผลประโยชน์จากหน่วยงานภาครัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ ที่จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน และโครงการเตากำจัดขยะของ กทม.หลุดพ้นจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้านไปโดยปริยาย
“ฝ่ายค้าน” ลั่นไม่ร่วมโหวต
ต่อมาเวลา 19.30 น. ที่รัฐสภาฯ แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสมพงษ์ สมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยไม่มีตัวแทนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ และพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วม ได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดย นายสมพงษ์ กล่าวว่า การวอล์คเอาท์ของฝ่ายค้าน เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่เห็นประโยชน์ของเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบสิ่งที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย ทั้งที่เหลือผู้จะอภิปรายถึง 5 คน และเวลาที่ตกลงกันว่าจะให้ฝ่ายค้านอภิปราย 21 ชั่วโมงนั้น การอภิปราย 1-2 วันก่อนหน้านี้เลยเวลา 24.00 น. ไป กว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง จึงคิดว่าจะเป็นเวลาที่เกินจากกำหนดการเดิม ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็บอกให้ไปตกลงกัน เพื่อทำให้บรรยากาศราบรื่น แต่เมื่อฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธก็คิดว่ารัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของเวลาตรงนี้ หลังจากนี้ก็จะให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป
“พรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมลงมติ โดยให้รัฐบาลโหวตกันเอง ถ้าคะแนนรัฐมนตรีทั้ง 6 คนไม่เท่ากัน ก็แสดงว่าเขามีปัญหากัน” นายสมพงษ์ ระบุ
เมื่อถามว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ เหมือนจะระแวง เพราะการอภิปรายครั้งนี้พรรคเพื่อไทยไปกินเวลา จะทำให้ความสัมพันธ์ร้าวหรือไม่นายสมพงษ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะก่อนหน้านี้คนที่มาร่วมเจรจาก็มีตัวแทนจากอดีตพรรคอนาคตใหม่มาร่วมด้วย พวกเราก็พยายามอย่างยิ่งเพื่อให้การอภิปรายต่อเนื่องไปให้ถึงที่สุด
“ปธ.วิปฝ่ายค้าน”ปัดล้มมวย
ขณะที่ นายวันมูหมัดนอร์ กล่าวเสริมว่า ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน ขณะนี้อภิปรายไป 4 คนเหลือ 2 คน เมื่อรัฐบาลเสนอปิดอภิปรายก็ถือว่า การอภิปรายไม่ครบสมบูรณ์ เช่นนี้จะให้ลงคะแนนได้อย่างไร
ด้าย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า คนที่จะอภิปรายยัง ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่อีก 3 คนเพื่อไทย 2 คน รวมถึงตนที่ยังไม่ได้สรุป ถือว่าเสียดายโอกาสมาก
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นมวยล้มจากฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะตกลงเวลาไม่ได้กันเอง และการแถลงข่าวครั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่มาร่วม นายสุทิน กล่าวว่า เป็นความบังเอิญที่เป็นอย่างนี้ ไม่มีการล้มมวย เราสู้อย่างถึงที่สุด เพียงแต่การบริหารเรื่องคน เวลาที่มีจำกัด ที่ผ่านมาก็มีการปรึกษาหารือกันตลอดของ 6 พรรคฝ่ายค้าน แต่พอมาถึงหน้างานก็จะมีการปรับเปลี่ยนอีกนิดนึง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าฝ่ายค้านมีการดีลรัฐบาล เพื่อไม่ให้อภิปรายพล.อ.ประวิตร นายสุทิน กล่าวว่า. ชื่อของพล.อ.ประวิตร ถูกจัดให้อยู่ในลำดับสุดท้ายตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเราคิดว่าต้องเริ่มต้นที่นายกฯ และจบลงที่พล.อ.ประวิตร ซึ่งจะทำให้การอภิปรายไม่จืด
“พิธา” โวยโดนปิดกั้นตรวจสอบ รบ.
อีกด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้นำ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว หลังการวอล์กเอาต์จากห้องประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่มาร่วมสังเกตการณ์
โดยนายพิธา กล่าวว่า สาเหตุที่เราต้องวอล์กเอาต์ออกมาเพราะเราถูกปิดกั้น เวลาการอภิปรายเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งตลอด 4 วันที่ผ่านมา เราอภิปรายอยู่ในกรอบเวลาทุกนาที แม้ว่าเราจะเป็น ส.ส.สมัยแรก แต่เราก็เข้าใจกฎและกติกาดี เรายื่นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีทั้งหมด 6 คน แต่ยังไม่ได้อภิปรายครบทุกคนเลย เราทำงานหนักมาตลอดหลายเดือน พยายามหาข้อมูลเชิงลึก แต่ทำไมต้องมาปิดกั้นเราด้วย จะไม่ให้เรานำเสนอข้อมูลและตรวจสอบรัฐบาลเลยใช่หรือไม่
ชี้เงื่อนงำฝ่ายค้านซูเอี๋ย รบ.
ด้าน นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราเข้าใจดีว่ามีข้อตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย เราเข้าใจกติกามาโดยตลอด แต่ข้อเท็จจริงมีการบีบเวลาของพวกเราโดยพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ตนไม่อยากที่จะคิดเช่นนั้น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย ด้วยความเคารพในฐานะที่เป็นผู้รักประชาธิปไตย แต่คุณไม่รักษากติกาและรักษาวินัยในการใช้เวลา ทำให้พวกเราไม่มีโอกาสอภิปราย โดยปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจคนแรกก็คือ นายกรัฐมนตรี ลำดับถัดมาก็ควรเป็นพล.อ.ประวิตร และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แต่กลับนำเอารัฐมนตรีคนอื่นขึ้นมาก่อน และปิดท้ายด้วยพล.อ.ประวิตร
“ผมก็ไม่อยากจะคิดว่ามันมีเงื่อนงำในการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านบางพรรคหรือไม่ ซึ่งขอให้พี่น้องติดตามเสาะหาข้อเท็จจริงกันเอง เพราะตามประเพณีทางการเมือง พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ คุณต้องอยู่ลำดับ 2 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนนายวิษณุ ต้องอยู่ลำดับ 3 แต่ขอเท็จจริงมีการวิ่งเต้นและเอาชื่อพล.อ.ประวิตรมาไว้ท้ายสุด นี่คือเรื่องจริงในสภา เราวางคิวอภิปราย ร.อ.ธรรมนัสในช่วงหัวค่ำ แต่ก็ถูกกินเวลาจนต้องไปอภิปรายในช่วงดึก แล้ววันนี้ผมถามว่าการใช้เวลาตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีนายกฯ คนเดียวที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รัฐมนตรีคนอื่นกลับไม่ถูกอภิปราย แต่เป็นการอภิปรายประกบทำไมคุณไม่อภิปรายตรงๆ” นายจิรวัฒน์ ระบุ
ซัด “เพื่อไทย” จงใจใช้เวลาเกิน
เช่นเดียวกับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เหมือนมวยล้ม พรรคเพื่อไทยใช้เวลาในการอภิปรายเกินเวลาที่ได้รับการจัดสรร ซึ่งจากสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ในการอภิปรายรัฐมนตรีไม่เคยเกินเวลาเลย พรรคอนาคตใหม่ได้เวลาอภิปราย รวม 11 ชั่วโมง ยังเหลือสมาชิกที่ยังไม่ได้อภิปรายอีกหลายคน ส่วนสมาชิกที่ได้อภิปรายไปก็ไม่มีใครใช้เวลาเกินตามที่ขอไว้ จึงยังเหลือเวลาอีกมาก และตั้งข้อสังเกตว่าทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ยอมอภิปรายรัฐมนตรีบางคน เรื่องนี้ก็ขอให้ประชาชนไปตัดสินใจเอง
วานนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลของฝ่ายค้าน วันที่ 4 โดยการอภิปรายดำเนินถึงช่วง 16.00 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมในขณะนั้นได้แจ้งว่า เวลาอภิปรายของฝ่ายค้านเหลือเพียง 3 นาที ส่วนรัฐบาลเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งถึงขณะนั้นฝ่ายค้านยังไม่ได้อภิปรายรายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แม้แต่คนเดียว ส่งผลให้ฝ่ายค้านพยายามขอต่อรองเพื่อขยายเวลาออกไปอีกจนถึงก่อน 24.00 น. ซึ่งขัดจากข้อตกลงที่การอภิปรายจะจบภายใน 19.00 น.
5 ส.ส.ฝ่ายค้านยังไม่ได้อภิปราย
อย่างไรก็ดีทางคณะกรรมการประสานงาน (วิป) รัฐบาล ได้ประนีประนอมให้ต่อเวลาออกไปอีก 20 นาที ทำให้นายสุชาติได้อนุญาตให้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่อภิปรายประเด็นความล้มเหลวในการการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร อภิปรายคนสุดท้ายก่อนปิดการอภิปราย และให้สรุปปิดญัตติ แต่เมื่อนายปกรณ์วุฒิ อภิปรายแล้วเสร็จ ฝ่ายค้านก็ยังพยายามขอยืดเวลาเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง โดยขอไปลดเวลาจากการสรุปปิดญัตติที่กำหนดไว้ 2 ชั่วโมง แต่ทางฝ่ายรัฐบาลไม่ยินยอม
จนเมื่อเวลา 18.30 น.นายสุชาติได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ตัวแทนวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านไปประชุมร่วมกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ หาทางออกในการให้เวลาเพิ่มแก่ฝ่ายค้าน เนื่องจากยังมี ส.ส.ของฝ่ายค้านอีก 5 ราย ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ 3 ราย และพรรคเพื่อไทย 2 ราย ยังไม่ได้ใช้สิทธิอภิปราย
“วิปรัฐ” เสียงแข็งไม่ต่อเวลาให้
เมื่อกลับมาประชุมอีกครั้งโดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลให้เวลาแก่ฝ่ายค้านเพิ่มเติมจากเดิมที่มีกำหนดปิดอภิปรายในเวลา 19.00 น. เช่นเดียวกับ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเมื่อฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ให้เวลาเพิ่มเติม ทาง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ยังไม่ได้อภิปรายในสภา จะใช้สิทธิในการอภิปรายนอกสภาแทน
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ยืนกรานว่า ในเมื่อข้อตกลงของทั้งวิปรัฐบาลและวิปฝายค้านตกลงกันแล้วว่าจะปิดอภิปรายเวลา 19.00น. ประกอบกับเมื่อเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านหมดลงแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น
ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า หากยังยืนยันที่จะไม่ให้อภิปรายต่อ ตนเองในฐานะตัวแทนของฝ่ายค้านไม่อาจใช้สิทธิอภิปรายสรุปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ เมื่อเป็นเช่นนี้การลงมติในวันถัดไปก็อาจจะไม่ชอบตามข้อบังคับ
ขณะนั้น กลุ่ม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ได้ทยอยเดินออกจากห้องประชุมเพื่อลงมาแถลงข่าวด้านล่างห้องประชุม
พปชร.ชิงเสนอปิดอภิปราย-พท.โวย
ต่อมานายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ปิดการอภิปราย จากนั้นนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอให้เปิดอภิปราย จึงต้องมีการนับองค์ประชุมก่อนลงมติว่าจะให้มีการอภิปรายต่อหรือไม่ ปรากฏว่าระหว่างนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้เดินออกจากห้องประชุม
สำหรับผลการนับองค์ประชุมมีส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมจำนวน 259 คน และมีมติ 251 คะแนนให้ปิดการอภิปราย ต่อมานายศุภชัย แจ้งว่าผู้เสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถใช้สิทธิอภิปรายสรุปได้อีกครั้งตามข้อบังคับประชุมสภาฯข้อ 75 และเมื่อไม่มีผู้เสนอญัตติอภิปรายสรุป จึงถือว่าการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสิ้นสุดลงแล้ว และขอนัดลงมติในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 9.30 น.
ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ พล.อ.ประวิตร ที่จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับบุคคลใกล้ชิดแสวงหาผลประโยชน์จากหน่วยงานภาครัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ ที่จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน และโครงการเตากำจัดขยะของ กทม.หลุดพ้นจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้านไปโดยปริยาย
“ฝ่ายค้าน” ลั่นไม่ร่วมโหวต
ต่อมาเวลา 19.30 น. ที่รัฐสภาฯ แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสมพงษ์ สมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยไม่มีตัวแทนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ และพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วม ได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดย นายสมพงษ์ กล่าวว่า การวอล์คเอาท์ของฝ่ายค้าน เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่เห็นประโยชน์ของเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบสิ่งที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย ทั้งที่เหลือผู้จะอภิปรายถึง 5 คน และเวลาที่ตกลงกันว่าจะให้ฝ่ายค้านอภิปราย 21 ชั่วโมงนั้น การอภิปราย 1-2 วันก่อนหน้านี้เลยเวลา 24.00 น. ไป กว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง จึงคิดว่าจะเป็นเวลาที่เกินจากกำหนดการเดิม ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็บอกให้ไปตกลงกัน เพื่อทำให้บรรยากาศราบรื่น แต่เมื่อฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธก็คิดว่ารัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของเวลาตรงนี้ หลังจากนี้ก็จะให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป
“พรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมลงมติ โดยให้รัฐบาลโหวตกันเอง ถ้าคะแนนรัฐมนตรีทั้ง 6 คนไม่เท่ากัน ก็แสดงว่าเขามีปัญหากัน” นายสมพงษ์ ระบุ
เมื่อถามว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ เหมือนจะระแวง เพราะการอภิปรายครั้งนี้พรรคเพื่อไทยไปกินเวลา จะทำให้ความสัมพันธ์ร้าวหรือไม่นายสมพงษ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะก่อนหน้านี้คนที่มาร่วมเจรจาก็มีตัวแทนจากอดีตพรรคอนาคตใหม่มาร่วมด้วย พวกเราก็พยายามอย่างยิ่งเพื่อให้การอภิปรายต่อเนื่องไปให้ถึงที่สุด
“ปธ.วิปฝ่ายค้าน”ปัดล้มมวย
ขณะที่ นายวันมูหมัดนอร์ กล่าวเสริมว่า ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน ขณะนี้อภิปรายไป 4 คนเหลือ 2 คน เมื่อรัฐบาลเสนอปิดอภิปรายก็ถือว่า การอภิปรายไม่ครบสมบูรณ์ เช่นนี้จะให้ลงคะแนนได้อย่างไร
ด้าย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า คนที่จะอภิปรายยัง ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่อีก 3 คนเพื่อไทย 2 คน รวมถึงตนที่ยังไม่ได้สรุป ถือว่าเสียดายโอกาสมาก
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นมวยล้มจากฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะตกลงเวลาไม่ได้กันเอง และการแถลงข่าวครั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่มาร่วม นายสุทิน กล่าวว่า เป็นความบังเอิญที่เป็นอย่างนี้ ไม่มีการล้มมวย เราสู้อย่างถึงที่สุด เพียงแต่การบริหารเรื่องคน เวลาที่มีจำกัด ที่ผ่านมาก็มีการปรึกษาหารือกันตลอดของ 6 พรรคฝ่ายค้าน แต่พอมาถึงหน้างานก็จะมีการปรับเปลี่ยนอีกนิดนึง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าฝ่ายค้านมีการดีลรัฐบาล เพื่อไม่ให้อภิปรายพล.อ.ประวิตร นายสุทิน กล่าวว่า. ชื่อของพล.อ.ประวิตร ถูกจัดให้อยู่ในลำดับสุดท้ายตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเราคิดว่าต้องเริ่มต้นที่นายกฯ และจบลงที่พล.อ.ประวิตร ซึ่งจะทำให้การอภิปรายไม่จืด
“พิธา” โวยโดนปิดกั้นตรวจสอบ รบ.
อีกด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้นำ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว หลังการวอล์กเอาต์จากห้องประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่มาร่วมสังเกตการณ์
โดยนายพิธา กล่าวว่า สาเหตุที่เราต้องวอล์กเอาต์ออกมาเพราะเราถูกปิดกั้น เวลาการอภิปรายเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งตลอด 4 วันที่ผ่านมา เราอภิปรายอยู่ในกรอบเวลาทุกนาที แม้ว่าเราจะเป็น ส.ส.สมัยแรก แต่เราก็เข้าใจกฎและกติกาดี เรายื่นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีทั้งหมด 6 คน แต่ยังไม่ได้อภิปรายครบทุกคนเลย เราทำงานหนักมาตลอดหลายเดือน พยายามหาข้อมูลเชิงลึก แต่ทำไมต้องมาปิดกั้นเราด้วย จะไม่ให้เรานำเสนอข้อมูลและตรวจสอบรัฐบาลเลยใช่หรือไม่
ชี้เงื่อนงำฝ่ายค้านซูเอี๋ย รบ.
ด้าน นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราเข้าใจดีว่ามีข้อตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย เราเข้าใจกติกามาโดยตลอด แต่ข้อเท็จจริงมีการบีบเวลาของพวกเราโดยพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ตนไม่อยากที่จะคิดเช่นนั้น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย ด้วยความเคารพในฐานะที่เป็นผู้รักประชาธิปไตย แต่คุณไม่รักษากติกาและรักษาวินัยในการใช้เวลา ทำให้พวกเราไม่มีโอกาสอภิปราย โดยปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจคนแรกก็คือ นายกรัฐมนตรี ลำดับถัดมาก็ควรเป็นพล.อ.ประวิตร และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แต่กลับนำเอารัฐมนตรีคนอื่นขึ้นมาก่อน และปิดท้ายด้วยพล.อ.ประวิตร
“ผมก็ไม่อยากจะคิดว่ามันมีเงื่อนงำในการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านบางพรรคหรือไม่ ซึ่งขอให้พี่น้องติดตามเสาะหาข้อเท็จจริงกันเอง เพราะตามประเพณีทางการเมือง พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ คุณต้องอยู่ลำดับ 2 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนนายวิษณุ ต้องอยู่ลำดับ 3 แต่ขอเท็จจริงมีการวิ่งเต้นและเอาชื่อพล.อ.ประวิตรมาไว้ท้ายสุด นี่คือเรื่องจริงในสภา เราวางคิวอภิปราย ร.อ.ธรรมนัสในช่วงหัวค่ำ แต่ก็ถูกกินเวลาจนต้องไปอภิปรายในช่วงดึก แล้ววันนี้ผมถามว่าการใช้เวลาตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีนายกฯ คนเดียวที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รัฐมนตรีคนอื่นกลับไม่ถูกอภิปราย แต่เป็นการอภิปรายประกบทำไมคุณไม่อภิปรายตรงๆ” นายจิรวัฒน์ ระบุ
ซัด “เพื่อไทย” จงใจใช้เวลาเกิน
เช่นเดียวกับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เหมือนมวยล้ม พรรคเพื่อไทยใช้เวลาในการอภิปรายเกินเวลาที่ได้รับการจัดสรร ซึ่งจากสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ในการอภิปรายรัฐมนตรีไม่เคยเกินเวลาเลย พรรคอนาคตใหม่ได้เวลาอภิปราย รวม 11 ชั่วโมง ยังเหลือสมาชิกที่ยังไม่ได้อภิปรายอีกหลายคน ส่วนสมาชิกที่ได้อภิปรายไปก็ไม่มีใครใช้เวลาเกินตามที่ขอไว้ จึงยังเหลือเวลาอีกมาก และตั้งข้อสังเกตว่าทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ยอมอภิปรายรัฐมนตรีบางคน เรื่องนี้ก็ขอให้ประชาชนไปตัดสินใจเอง