xs
xsm
sm
md
lg

“เตรียมอุดมฯ”ม็อบด้วย นายกฯห่วงหมิ่นเบื้องสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นักเรียน รร.เตรียมอุดมศึกษา พร้อมรุ่นพี่ศิษย์เก่า ลั่นขอเป็นต้นกล้าประชาธิปไตยไปสู่อนาคต รวมตัวชุมุนมแฟลชม็อบ ติดแฮชแท็ก #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ยันไร้คนแทรกแซง รามฯก็จัดเรียกร้องบิ๊กตู่ยุบสภา-ลาออก “ประยุทธ์” ห่วงแฟลชม็อบล้ำเส้นสถาบัน ซ้ำรอยตุลาฯ ปี 2516 ปี 2519

วานนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีกลุ่มนักเรียนนัดรวมตัวกันที่บริเวณหน้าโรงเรียน เพื่อแสดงจุดยืนและเขียนออกความเห็นทางการเมือง พร้อมติดแฮชแท็ก #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ

โดยกลุ่มนักเรียนมาหารือกันและจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม โดยมีพวงหรีด และป้ายข้อความ ที่เขียนว่า “จะอนาคตใครถ้าไม่ใช่อนาคตเรา” และ “เกียมาอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ” รวมถึงให้นักเรียนเขียนความรู้สึกของตัวเองลงไปด้วย พร้อมกับเปิดเพลงธรณีกรรแสงเพื่อไว้อาลัยแก่ประชาธิปไตย

ทั้งนี้ในช่วงการปราศรัยจุดยืน หนึ่งในนักเรียนที่มาร่วมชุมนุม กล่าวว่า ควรจะยกเลิกระบบอำนาจนิยมในรัฐาภาฯ และในชีวิตประจำวัน และยืนยันว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้เป็นการตามกระแสอย่างที่หลายคนคิด เพราะในฐานะนักเรียนนักศึกษา สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการบริหารของรัฐบาล พร้อมทั้งยืนยันว่า เป็นกิจกรรมที่ปราศจากการแทรกแซง แต่ถูกขับเคลื่อนโดยเจตนารมย์ของพวกตนเท่านั้น โดยอาศัยการรับข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนของแต่ละสถานศึกษาผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก

จากนั้นในช่วง 09.00 น. นักเรียนและศิษย์เก่าได้การร่วมกันร้องเพลง Do you here the people sing และเพลงปิ่นหทัย ซึ่งเป็นเพลงมาร์ชโรงเรียน เป็นกิจกรรมปิดท้าย

ด้าน นายโสภณ กมล ผองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า ทางโรงเรียนทราบว่านักเรียนจะจัดกิจกรรม ชุมนุมแสดงความคิดเห็นที่บริเวณหน้าโรงเรียนฯ เด็กเขาโตแล้ว มีสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทางโรงเรียนจึงจัดครูเวรไปดูแล ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลด้วย อย่าให้มีมือที่สาม อย่าใช้คำหยาบคายกระทบใคร การแสดงออก ก็ให้อยู่ในกรอบของกฏหมาย อย่าใช้ถ้อยคำหมิ่นเหม่ และไม่ให้เอาคนนอกเข้ามาร่วม ถ้าเฉพาะนักเรียนของเรา ทางโรงเรียนก็พร้อมรับฟัง

เช่นเดียวกับ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหง ก็ได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ที่บริเวณลานพ่อขุนรามคำแหง ภายในมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาหลายคณะเข้าร่วมจำนวนมาก โดยมีการปราศรัย โจมตีการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และเรียกร้องให้ยุบสภาหรือลาออกจากตำแหน่งด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักเคลื่อนไหว นักกิจกรรมทางการเมืองขึ้นร่วมปราศรัยด้วย อาทิ นายพริษฐ์ ชิวรักษ์ หรือเพนกวิน กิจกรรมดำเนินการมาตั้งแต่เวลา 17.00 น.และสิ้นสุดลงเวลา 18.00 น. ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ

ที่บริเวณลานหลังพระศรีศาสดา มหาวิทยาลัยรังสิต ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ก็ได้รวมตัวกันกว่า 500 คน เพื่อแสดงออกซึ่งสัญลักษณ์ไม่เอาเผด็จการ โดยมีเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เข้าดูแลความสงบอย่างใกล้ชิด บรรยากาศ มีการร้องเพลงจากนักศึกษา และกลุ่มแร็ปเปอร์ชาวไทย Rap Against Dictatorship ที่ร้องเพลง ประเทศกูมี ขึ้นมาร้องเพลงอีกด้วย จากนั้นมีนักศึกษาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาแสดงจุดยืนต่อต้านเผด็จการ และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล รวมทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาล นอกจากนี้ มีการชูป้ายที่แสดงออกทางการเมือง และมีการตะโกนขับไล่เผด็จการ พร้อมทั้งมีการชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และร่วมกันรณรงค์ติดแฮชแท็กในโซเชี่ยวเน็ตเวิร์คว่า “พะยอมเก๋าไม่เกาเหลานะลุง”

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น กลุ่มนักศึกษา ที่ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง ได้ร่วมกัน ร้องเพลงชาติไทย และร่วมกันเปิดไฟโทรศัพท์มือถือ โบกสะบัดไปรอบๆ เพื่อแสดงเชิงสัญญาลักษณ์

วันเดียวกัน ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา หรือแฟลชม็อบ ว่า สิ่งที่กังวลคือการดำเนินกิจกรรมใดๆต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย การออกมาร่วมชุมนุมก็เช่นกัน ที่ผ่านมามีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นสีใดหรือกลุ่มใดก็ตาม พร้อมแสดงความเป็นห่วงอนาคตของนักศึกษามากกว่า และยืนยันว่าไม่ได้โกรธ เพราะเด็กรุ่นใหม่มีแรงกระตุ้น ไม่เคยสั่งการอะไรให้ใครไปดำเนินการใดๆกับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเหล่านี้ เจ้าหน้าที่เพียงเฝ้าระวังไม่ให้ผู้ไม่หวังดีมาสร้างสถานการณ์ และให้เจ้าหน้าที่ป้องกัตัวเองเท่านั้นโดยต้องใช้มาตรการที่เบาที่สุดแต่ขอความเห็นใจให้เจ้าหน้าที่ด้วย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบในอดีตที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีการนำเรื่องหมิ่นสถาบันเข้าไปขับเคลื่อน ซึ่งต้องย้อนถามว่าทุกคนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ขอความกรุณาอย่าทำโดยเด็ดขาดวอนทุกฝ่ายรับฟังข้อมูล และการดำเนินกิจกรรมใดๆ ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

“เหตุการณ์ในปี 2557 และก่อนหน้านั้นปี 2553 ว่า ทุกคนรู้อยู่ว่าคนที่ออกมาจำนวนมากคือใคร ทำเพื่ออะไร มีการปลุกระดมกันอย่างไร ซึ่งที่ตนเป็นห่วงคือ ห่วงอนาคตของคนเหล่านี้ ไม่โกรธเด็ก ๆ ที่เป็นเหมือนลูกหลาน แต่ตรงกันข้ามอยากทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็กเยาวชน และขอทุกคนช่วยคิดอย่างรอบด้าน ขออย่านำเรื่องอ่อนไหวและประเด็นความขัดแย้ง มาสร้างหรือกระตุ้นแรงเห็นต่างเพราะจะเป็นอันตรายที่สุดและหากเพลี่ยงพล้ำ เด็กจะหมดอนาคตด้วยคดีอาญาต่าง ๆ ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก มีเหตุการณ์ปี 2516 และปี 2519 เป็นตัวอย่าง และบทเรียนกับสังคมแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น