xs
xsm
sm
md
lg

สยามที่ออกทะเล กลายเป็นไทยที่เน้นแต่ทางบก ไปได้อย่างไร ?

เผยแพร่:   โดย: เอนก เหล่าธรรมทัศน์



เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสภา
รองอธิการบดีฝ่ายสังคมศาสตร์ ม.รังสิต

สยามนั้นเป็นทั้งชาติทางบกและชาติทางทะเล เมืองหลวงของเรานั้นอยู่ ณ ตำแหน่งเดียว 600 กว่าปีมาแล้ว คือบริเวณ อยุธยา -กรุงธนฯ-กรุงเทพฯ ทำเลของเมืองหลวงทั้งสามนี้ทำให้กุมภาคกลางซึ่งมีความสมบูรณ์ที่สุด รองรับกำลังคนได้มากที่สุด ทั้งที่อยู่ในภาคกลางมาแต่เดิม และที่อพยพโยกย้าย เชื้อเชิญ หรือ กวาดต้อนมาจากภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือที่ไกลไปกว่านั้นอีก ในแง่นี้ เมืองหลวงของเราจึงกุมแผ่นดิน กุมบก กุมผู้คนรี้พลส่วนใหญ่ของแผ่นดินได้

ทว่า ในอีกด้านหนึ่ง สามราชธานีสยามก็กุมทะเลอ่าวไทย และทะเลอันดามันได้ ด้วยคาบสมุทรไทยที่ยาวเหยียดนั่นแหละ พูดให้ชัดเจน ไปเลยว่าในสมัยอยุธยานั้น สยามกุมคาบสมุทรไทยและทะเลสองข้างได้ตั้งแต่ ทะวาย ทางฝั่งอันดามัน (ปัจจุบันเป็นของพม่า) และ บรรดาเมืองที่ขึ้นชื่อว่าสมุทรทั้งหลาย ทางฝั่งอ่าวไทย สยามกุมสองทะเลพร้อมกัน ลงไปได้จนถึงมะริด (ปัจจุบันเป็นของพม่า) ฝั่งหนึ่งกุยบุรีอีกฝั่งหนึ่ง จนถึงระนองฝั่งหนึ่งชุมพรฝั่งหนึ่ง ลงไปจนถึง เกาะหมาก และเคดะห์ ฝั่งหนึ่ง และตรังกานู อีกฝั่งหนึ่ง พูดกันง่ายๆ ในสมัยนั้น ไม่มีพม่ามาแบ่งคาบสมุทรของเราทางด้านตะวันตก และไม่มีมาเลเซียมาแบ่งคาบสมุทรทางใต้ไป

ดังนั้น สยามเราจึงเป็นชาติทางทะเลด้วยอย่างแน่นอน เราใช้คาบสมุทรของเราเพื่อการเดินทาง เพื่อค้าขายและติดต่อกับนานาประเทศ ทั้งฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก บรรพชนสยามจึงค่อนข้างทันโลกทันสมัยมา ตลอด อย่างน้อยก็ตั้งแต่อยุธยาเริ่มเป็นเมืองหลวงก็ว่าได้

แล้วเหตุใดประเทศไทยทุกวันนี้จึงคิดอะไรค่อนไปแบบประเทศทางบก แน่นอนครับ เรารู้ว่าภาคใต้และภาคตะวันออกมีทะเล มีชายหาด มีหมู่เกาะ แต่ทะเลกับมหาสมุทรนั้นหาใช่ด้านหลักของประเทศ ของเศรษฐกิจและวัฒนธรรม น่าเสียดาย ด้วยว่าทำเลที่ตั้งของไทยนั้น ใช้ประโยชน์จากทะเลและจากคาบสมุทรได้อีกมากมาย

ที่สยามเราทิ้งเรื่องทะเลและสมุทรไป ก็เพราะฝรั่งที่เข้ามายังมหาสมุทรอินเดียตั้งแต่สมัยอยุธยานั่นแหละ ครับ เขามาพร้อมเรือรบ ฝรั่งนั้นไม่เคยค้าขายเสรีอย่างที่สอนเรา เขาค้าไปด้วยรบรุกยึดครองเมืองท่าไปด้วย เป็นการใช้กองเรือรบควบคู่กับกองเรือพาณิชย์ ก่อนนี้ ชาติเอเชียทั้งหลายไม่ว่าจีน อินเดีย หรือสยาม นั้น ไม่เคยใช้เรือรบในการค้าขาย และจีนหรืออินเดียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมาช้านาน ก็ไม่เคยไปยึดเมืองท่า หรือตีเมืองใดประเทศใดเพื่อเอาลงมาเป็นเมืองขึ้น อย่างที่ชาติฝรั่งตะวันตกทำ ด้วยเหตุนี้สยามและชาติตะวันออกทั้งหลายจึงเริ่มเสียเปรียบดุลการค้าทางไกล เริ่มกุมทะเลและมหาสมุทรไม่ได้ ในที่สุดทะเลอันดามันและทะเลเบงกอล ก็ กลายเป็นเสมือนทะเลสาบของกองเรือรบอังกฤษ ส่วนอ่าวไทยกลายเป็นทะเลสาบของกองเรือรบฝรั่งเศส

จำกันได้นะครับ คราววิกฤตการณ์ รศ 112 นั้น เรือรบฝรั่งเศสบังอาจปิดอ่าวไทย แล่นรุกเข้าเจ้าพระยา โดยป้อมรบชายฝั่งของไทยไม่อาจต้านทานเรือรบเหล่านี้ได้เลย กำลังรบทางทะเลของฝรั่งเศสรุกจ่อประชิดวังหลวงของเราทีเดียว และ ต่อมาอีกนานเชียว ตอนรบกับฝรั่งเศสในสงครามอินโดจีนปี 2483 นั้น กองเรือรบของเรา ที่ทันสมัยขึ้น ก็ยังไม่อาจเอาชนะกองเรือของฝรั่งเศสในยุทธนาการที่อ่าวไทย

ฝ่ายอังกฤษเล่า ก็อาศัยกำลังเรือรบและกำลังทางบกที่เหนือกว่ามากมาย มายึดทะวาย มะริด ตะนาวศรีไปจากพม่า ยึดปีนังไปจากสยาม และยึดรัฐมลายูทางเหนือ ทั้งทางตะวันตกและตะวันออกของคาบสมุทรไปจากเรา พร้อมเข้ายึดช่องแคบมะลักกา และที่สำคัญ ได้กีดกันหรือกระทั่งห้ามสยามเราขุดคอคอดกระเป็นอันขาด

อังกฤษทำเช่นนี้เท่ากับใช้กำลังรบยิ่งใหญ่ปิดคาบสมุทรภาคใต้ของเราเสียหมดสิ้น ขณะเดียวกันก็จงใจเปิดเกาะสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางการเดินเรือสำคัญที่สุดระหว่างจีนกับอินเดีย และระหว่างตะวันตกกับเอเชีย และ เชื่อมโยงมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าด้วยกันอย่างงดงาม

ไม่ใช่ทำเลที่ตั้งอย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรมของประเทศ แต่ที่สำคัญไม่น้อยกว่าเลยคือแสนยานุภาพและสติปัญญาและกำลังของประเทศ แม้ที่ตั้งของเราเหมาะที่จะใช้คาบสมุทรเหมาะที่จะใช้ทะเลและมหาสมุทร แต่ฝรั่งที่เข้มแข็ง แกร่งกล้า ฉลาดเฉลียว และหยาบกร้าน กว่า ได้ปิดทะเล และปิดคาบสมุทร เรามาเกือบสองร้อยปีแล้ว

เรากลายเป็นชาติที่กลัวทะเล กลัวเรือรบต่างชาติ กลัวการเชื่อมสองทะเล สองสมุทร กลัวการขุดคลอง กลัวการทำแลนด์บริดจ์ ไม่หาญคิดใช้คาบสมุทรมาเพิ่มกำลังลอจิสติกส์ของประเทศ ไม่กล้าคิดสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางทางทะเล-สมุทร หรือ เป็น maritime hub ที่จะเชื่อมสองมหาสมุทรที่สำคัญที่สุดในโลก และเชื่อมทางทะเลกับจีนกับอินเดีย สองมหาอำนาจสำคัญที่สุดของโลก

ลองคิดดูว่า หากทำให้ไทยเรากลับกลายมาเป็นศูนย์กลางทางทะเล-สมุทร เชื่อมจีน อินเดีย และ อาเซียน เข้าด้วยกัน อนาคตของเราจะเป็นอย่างไร จะคล้าย จะสมกับที่เราเคยได้ชื่อ หรือมีคนเชื่อว่าครั้งหนึ่งแผ่นดินที่เราอยู่นั้น เป็นถึงศูนย์กลางของสุวรรณภูมิมาแล้ว ก็เป็นได้




กำลังโหลดความคิดเห็น