"โสภณ องค์การณ์"
ศึกน้ำลายอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลคณะ 3 ลุง ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้น่าจะเป็นมหกรรมปาหี่ยากที่จะได้เห็นในรอบหลายปีของการเมืองน้ำเน่าด้อยพัฒนาสุดๆ จะเป็นต้นแบบตำนาน และกรณีศึกษาสำหรับผู้สนใจการเมืองที่หายากในประเทศอื่นๆ
เป็นความพิสดาร เพราะ 6 เป้าหมายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ ใน 3 คนนั้นเป็นนักรัฐประหาร 1 นักกฎหมายจอมอภินิหาร 1 นักการทูต และ 1 อดีตนายทหารมีประวัติความเป็นมาโลดโผน ผ่านการเข้าคุกต่างประเทศด้วย
แต่มาคัดกรอง ส่องแว่นขยายดูแล้ว ทั้งผู้อภิปรายและเป้าหมายของสงครามน้ำลายล้วนเป็นกลุ่มมีความเชื่อมโยง เหมือนใยแมงมุม จุดศูนย์รวมคืออดีตผู้นำรัฐบาล คือ “ท่านเหลี่ยม” ซึ่งยังลี้ภัย หนีคุกอยู่ต่างประเทศนานกว่า 10 ปี ไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับ
ย้ำอีกครั้ง ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเชื่อมโยงกัน ชวนให้สงสัยว่าศึกน้ำลายครั้งนี้จะเอาจริงจังกันแค่ไหน เพราะการเมืองน้ำเน่าแบบไทยๆ ไม่เคยฟาดฟันกันจนเอาเป็นเอาตายในการเมือง เว้นแต่การขัดกันในผลประโยชน์อย่างรุนแรง เพราะเงินก้อนใหญ่เดิมพันสูง
เป้าหมายคือคณะ 3 ลุง เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบกสืบทอดการนำองค์กร เป็น “บูรพาพยัคฆ์” ที่สื่อมวลชนตั้งฉายาให้ ชีวิตจริงเป็นพยัคฆ์ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองจริงจัง ใจซื่อ มือสะอาด มีผลประโยชน์ส่วนตัวแฝงเร้นหรือไม่ ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันได้
อยู่ด้วยกันมานานกว่า 5 ปี ผลงานเป็นอย่างไร ดูสภาพบ้านเมืองขณะนี้ก็รู้ว่าชาวบ้านหน้าชื่นตาบาน เงินเต็มกระเป๋า หรืออกไหม้ไส้ขม ยากจนแทบสิ้นไร้ไม้ตอก
ทั้ง 3 ลุงเกี่ยวโยงกับ “เหลี่ยม” จากหลักฐานและคำอ้าง “ลุงใหญ่” ถูกท่านเหลี่ยมปูดก่อนหน้านี้ว่า “เคยเกาะโต๊ะ” ขอตำแหน่งผู้นำกองทัพบก และก็ได้เป็นจริง เป็นเพราะใจอ่อน หรือมีข้อต่อรองแลกเปลี่ยนหรือไม่ ต้องไปถามผู้เกาะโต๊ะและผู้ยอมตามคำขอ
ที่ผ่านมาได้เคยพูดคุยติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์หรือวิธีการอื่นใดหรือไม่ ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ความสัมพันธ์น่าจะยังคงมี เพราะน้องสาวท่านเหลี่ยมสามารถหลบหนีคดีมีติดคุกออกนอกประเทศไปอยู่กับพี่ชายได้ง่ายๆ อย่างน่าพิสดาร
“ลุงรอง” ยิ่งแน่นกระชับกับท่านเหลี่ยมเพราะเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ด้วยกัน เคยอุปถัมภ์ค้ำจุนกันในฐานะเพื่อน ซึ่งจำเป็นต้องเล่นบท “หักเหลี่ยมโหด” ด้วยการรัฐประหารในปี 2549 แต่ก็ไม่เอากันให้ถึงตาย เพียงแค่มีอาการขมในปากเท่านั้น
“ลุงตู่” ผู้นำ เป้าหลักของการอภิปราย ยิ่งมีคำอ้างจากท่านเหลี่ยมในช่วงการสนทนาเรื่องคุณประโยชน์ของ “ถั่งเช่า” ซึ่งมีประโยคพูดในเทป ออกผ่านสื่อว่า “ผมไว้ใจไอ้ตู่มาก” ดังนั้นยิ่งไม่น่าสงสัยว่าสายสัมพันธ์ยังคงมีแบบตัดบัวก็ยังเหลือเยื่อใย
ในยุค “คุณน้องปู” ได้เป็นผู้นำรัฐบาลและคุมกระทรวงกลาโหม “ลุงตู่” แทบจะเป็นองครักษ์ ไปไหนมาไหนช่วงน้ำท่วม มีภาพเป็นหลักฐานปรากฏชัด พร้อมคำวิพากษ์ต่างๆ ดังนั้น ชาวบ้านคนรู้ทันยิ่งไม่ต้องสงสัยว่าศึกพ่นน้ำลายจะเป็นเพียงปาหี่ลวงโลกหรือไม่
เป้าหมายที่เหลือ คือ ท่านเนติพิสดาร ก็อยู่กับท่านเหลี่ยมโดยตลอด รวมทั้ง ผู้กอง ก็เคยเป็นบอดี้การ์ดหลัก นั่งคู่กับคนขับรถของท่านเหลี่ยม จะมีเพียงท่านดอนเท่านั้นที่อาจแปลกแยก เพราะใช้ชีวิตทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ได้ตำแหน่งงามในยุคท่านเหลี่ยม
ยิ่งมองเข้าไปในคณะรัฐมนตรีของ 3 ลุง หัวโจกสำคัญก็เป็นอดีตสมุนท่านเหลี่ยมทั้งนั้น เหมือนกับว่า ครม. ของ 3 ลุง ก็เป็น ครม. ของท่านเหลี่ยมนั่นเอง แต่ตัวเองไม่อยู่
ยิ่งมองลึกลงไป ในพรรคการเมืองของ 3 ลุงก็มีสมาชิก สส. เป็นอดีตสมุนท่านเหลี่ยมทั้งนั้น เท่ากับว่าท่านเหลี่ยมให้ยืมสมุน เปลี่ยนสังกัดให้มาเป็นสมาชิกพรรคและคณะรัฐมนตรีร่วมพรรค เล่นละครแหกตาให้ชาวบ้านดูว่าได้ตัดสัมพันธ์โดยสิ้นเชิง
โธ่! ท่านเหลี่ยมและคุณน้องปู โลดแล่นอยู่ต่างประเทศ ทั้ง 3 ลุงไม่ติดใจเอาตัวมารับโทษจำคุก ทำเอาหมายจับของศาลไร้ความหมาย เพียงแต่อ้างนั่นนี่โน่น มีอุปสรรคอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อเอาตัวรอด คนรู้ทันมองออกว่าที่แท้ก็ไม่ทำเพราะเป็นพวกเดียวกัน
อย่างที่เค้าว่า “สมบัติผลัดกันชม” ทำให้เห็นการ “รัฐประหารแล้วรวย” เกินคุ้ม! เพราะทั้งพี่น้องเป็นนายกฯ ที่โดนรัฐประหารและหนีคุกในคดีทุจริต สร้างประวัติศาสตร์
ยิ่งดูบรรดาองครักษ์พิทักษ์ 3 ลุง ก็เห็นชัดว่าเป็นอดีตสมุนท่านเหลี่ยม สอบตก ไม่ได้เป็น สส. คราวนี้มีงานพิเศษให้ทำด้วยการเล่นบทสกัดการรุก เตะตัดขาฝ่ายค้าน ถ้าพ่นน้ำลายทำให้ 3 ลุงเกิดอาการระคาย เปิดโปงพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจทำให้เสียหาย
พวกองครักษ์ขู่ฟ่อๆ “อย่าเปิดโปงหรือเอาข้อมูลมาทำให้พวกลุงเสียหายนะ พวกเราก็รู้ไส้เน่าของพวกเอ็งนะ ว่าที่ผ่านมาทำอะไรไว้ในช่วงที่เป็นรัฐบาล” ชาวบ้านได้ฟังแล้วรู้สึกยินดีมาก ที่จะมีการสาวไส้เน่าของกันและกัน จะได้รู้ว่ามีความชั่วร้ายอะไรบ้าง
แต่ก็พิลึก เพราะทั้งองครักษ์และฝ่ายค้านที่เคยเปิบร่วมชาม ร่วมรางเดียวกัน ก็ต้องยกมือ สนับสนุนพฤติกรรมที่จะมาใช้สาวไส้กันไม่ใช่หรือ นักเลือกตั้งมีความคล่องตัวในการยอมให้มีการประมูลซื้อตัว เดินตามผู้ให้ราคาสูงสุดเพื่อความจงรักภักดีชั่วคราว
ดังนั้น ย้ำอีกครั้ง นี่คือพวกเดียวกัน เล่นละครในสภาแล้วก็ไปตบหลังตบไหล่กันเหมือนเดิม ทำให้ดูเนียน ตบตาพวกชาวบ้านบ้องตื้นเท่านั้น คนรู้ทันจะมองว่าทั้งสมุนเหลี่ยมในอดีตและปัจจุบันจะออกลีลาลวงโลกได้แนบเนียนสมราคาค่าจ้างหรือไม่
พรรคอื่นๆ เว้นแต่ค่ายสะตอ ล้วนมีความเชื่อมโยงกับท่านเหลี่ยมทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจมี ส.ส. หน้าใหม่พยายามเล่นแรง เพราะมีประเด็นต้องคิดบัญชีส่วนตัวกับพวก 3 ลุง แต่ลุงไหนจะรับเละกว่ากันเดาไม่อยาก เพราะลุงใหญ่มีคนจัดการให้แล้ว
ได้ข่าวว่านักอาสาติวเข้มขาใหญ่ ได้รับการบำบัด ด้วยการขนของหนักไปหลายสิบกิโล หรืออาจเป็นร้อยกิโล เพียงแต่เล่นบทเอะอะมะเทิ่ง ขู่เสียงดัง เพื่อให้คุ้มค่า ลุงใหญ่ไม่กังวล ก่อนหน้านี้มีคนไม่อยากแตะลุงใหญ่ แต่จำยอมต้องแตะเพราะมีคนสงสัยเยอะ
ชาวบ้านไม่ต้องตื่นเต้น อย่าหวังอะไรเป็นสาระ ดูลิเกการเมืองน้ำเน่า แล้วสังเกตพิรุธว่าศึกดวลน้ำลายครั้งนี้จะมีทั้งพฤติกรรม “ซูเอี๋ย” “เกี้ยเซี๊ยะ” “หยวนๆ” กันไปหรือไม่
คนรู้ทันบอกว่า “มันแหง” อยู่แล้ว จะมีแจกกล้วยให้กินจนอิ่มแปล้แน่!