ผู้จัดการรายวัน360 - ศาลจำคุก 36 เดือน ปรับ 2.7 หมื่นบาท "พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศสนับสนุนจัดสรรเงินงบประมาณสำนักพระพุทธฯ กว่า 69 ล้านไม่ชอบ แต่เห็นว่าเผยแพร่พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับไม่เคยกระทำผิดวินัย จึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี "วิษณุ"แจง "อดีตพระพรหมสิทธิ" กลับมาบวชได้หรือไม่ พระเป็นผู้วินิจฉัย
วานนี้ (19 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดี "ทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)" คดีหมายเลขดำ อท.251/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นายพนม ศรศิลป์" อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) , นายชยพล พงษ์สีดา อดีตรอง ผอ.สำนักงานพศ. , นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือ นายธงชัย สุขโข อดีตพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นจำเลยที่ 1-5
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ , ทำ , จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 ประกอบ มาตรา 83,86,91
คดีนี้ อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.58 - 22 ก.ค.59 พวกจำเลย ได้เบียดบังเอาเงินงบประมาณ ของสำนักงานพศ. ประจำปี 59 จำนวน 69,700,000 บาท (จากวงเงินงบประมาณ ปี 59 จำนวน 5,360,188,000 บาท) ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้ 'วัด' เป็นเครื่องมือ ในการกระทำความผิดรับโอนเงิน ด้วยการให้ 'วัด' โดยเจ้าอาวาส เสนอโครงการเพื่อรับเงินสนับสนุน ที่เบียดบังมา จากที่ได้มีการพิจารณาอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนในโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม จำนวน 37,200,000 บาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา 32,500,000 บาท ซึ่งวัดสระเกศฯได้รับอนุมัติเงินไปเพียงวัดเดียว โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 "พ.ต.ท.พงศพร พราหมณ์เสน่ห์" ผอ.สำนักงานพศ. ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนตามกฎหมาย
ซึ่งมีคำขอท้ายฟ้อง ขอศาลให้มีคำสั่งจำเลยที่ 1-5 ร่วมกันคืนเงิน หรือใช้เงินจำนวน 69,700,000 บาท คืนแก่สำนักงาน พศ. ผู้เสียหาย พร้อมขอให้ศาลนับโทษจำคุก "นายพนม" อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 กับ คดีหมายเลขดำ อท. 253/2561 , อท.254/2561 (ร่วมทุจริตการจัดสรรเงินงบ พศ.) ของศาลนี้ และ "พระพรหมสิทธิฯ" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 กับคดีหมายเลขดำ อท.197/2561 (ร่วมฟอกเงิน) ของศาลนี้ด้วย
ขณะที่ระหว่างการพิจารณาคดีนี้ "นายพนม" อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ไม่ได้รับการประกันตัวซึ่งได้ถูกดำเนินคดีหลายสำนวนในศาลนี้ ส่วน "พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ก็เพิ่งได้รับการประกันตัว เมื่อวันที่ 15 ส.ค.62 โดยศาลตีราคาหลักประกัน 2.5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยมารายงานตัวต่อศาลทุก 1 เดือน ไปจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา และห้ามเดินทางอกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-5 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จึงพิพากษา ให้จำคุกจำ เลยที่ 1 เป็นเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 12 เดือน , จำเลยที่ 2- 4 จำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน ส่วน "พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 ให้จำคุก 36 เดือน และปรับ 27,000 บาท โดยในส่วนของจำเลยที่ 5 นั้น ศาลเห็นว่า ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเผยแพร่ศาสนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ไม่เคยกระทำผิดทางวินัย จึงเห็นควรให้รอการลงโทษไว้ กำหนด 2 ปี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายธงชัย สุขโข จะสามารถกลับมาบวชได้อีกหรือไม่ว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นคำพิพากษา อีกทั้งต้องดูว่า คำพิพากษาเขียนเอาไว้อย่างไร ข้อหาอะไร คดีถึงที่สุดหรือไม่ รอลงอาญากี่ปี และหากเป็นปาราชิก จะไม่สามารถกลับมาบวชได้อีก จึงต้องดูความผิดในครั้งนี้เป็นปาราชิก หรือไม่ ทางพระต้องเป็นผู้วินิจฉัย ตนไม่อยากพูดอะไร
"อย่าเพิ่งถามว่าจะกลับมาบวชได้หรือไม่ เพราะยังไม่สามารถกลับมาใช้สิทธิที่จะขออย่างนั้น ถ้ากลับมา ทางพระจะเป็นผู้วินิจฉัย" นายวิษณุ กล่าว
วานนี้ (19 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดี "ทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)" คดีหมายเลขดำ อท.251/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นายพนม ศรศิลป์" อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) , นายชยพล พงษ์สีดา อดีตรอง ผอ.สำนักงานพศ. , นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือ นายธงชัย สุขโข อดีตพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นจำเลยที่ 1-5
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ , ทำ , จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 ประกอบ มาตรา 83,86,91
คดีนี้ อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.58 - 22 ก.ค.59 พวกจำเลย ได้เบียดบังเอาเงินงบประมาณ ของสำนักงานพศ. ประจำปี 59 จำนวน 69,700,000 บาท (จากวงเงินงบประมาณ ปี 59 จำนวน 5,360,188,000 บาท) ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้ 'วัด' เป็นเครื่องมือ ในการกระทำความผิดรับโอนเงิน ด้วยการให้ 'วัด' โดยเจ้าอาวาส เสนอโครงการเพื่อรับเงินสนับสนุน ที่เบียดบังมา จากที่ได้มีการพิจารณาอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนในโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม จำนวน 37,200,000 บาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา 32,500,000 บาท ซึ่งวัดสระเกศฯได้รับอนุมัติเงินไปเพียงวัดเดียว โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 "พ.ต.ท.พงศพร พราหมณ์เสน่ห์" ผอ.สำนักงานพศ. ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนตามกฎหมาย
ซึ่งมีคำขอท้ายฟ้อง ขอศาลให้มีคำสั่งจำเลยที่ 1-5 ร่วมกันคืนเงิน หรือใช้เงินจำนวน 69,700,000 บาท คืนแก่สำนักงาน พศ. ผู้เสียหาย พร้อมขอให้ศาลนับโทษจำคุก "นายพนม" อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 กับ คดีหมายเลขดำ อท. 253/2561 , อท.254/2561 (ร่วมทุจริตการจัดสรรเงินงบ พศ.) ของศาลนี้ และ "พระพรหมสิทธิฯ" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 กับคดีหมายเลขดำ อท.197/2561 (ร่วมฟอกเงิน) ของศาลนี้ด้วย
ขณะที่ระหว่างการพิจารณาคดีนี้ "นายพนม" อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ไม่ได้รับการประกันตัวซึ่งได้ถูกดำเนินคดีหลายสำนวนในศาลนี้ ส่วน "พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ก็เพิ่งได้รับการประกันตัว เมื่อวันที่ 15 ส.ค.62 โดยศาลตีราคาหลักประกัน 2.5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยมารายงานตัวต่อศาลทุก 1 เดือน ไปจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา และห้ามเดินทางอกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-5 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จึงพิพากษา ให้จำคุกจำ เลยที่ 1 เป็นเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 12 เดือน , จำเลยที่ 2- 4 จำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน ส่วน "พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 ให้จำคุก 36 เดือน และปรับ 27,000 บาท โดยในส่วนของจำเลยที่ 5 นั้น ศาลเห็นว่า ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเผยแพร่ศาสนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ไม่เคยกระทำผิดทางวินัย จึงเห็นควรให้รอการลงโทษไว้ กำหนด 2 ปี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายธงชัย สุขโข จะสามารถกลับมาบวชได้อีกหรือไม่ว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นคำพิพากษา อีกทั้งต้องดูว่า คำพิพากษาเขียนเอาไว้อย่างไร ข้อหาอะไร คดีถึงที่สุดหรือไม่ รอลงอาญากี่ปี และหากเป็นปาราชิก จะไม่สามารถกลับมาบวชได้อีก จึงต้องดูความผิดในครั้งนี้เป็นปาราชิก หรือไม่ ทางพระต้องเป็นผู้วินิจฉัย ตนไม่อยากพูดอะไร
"อย่าเพิ่งถามว่าจะกลับมาบวชได้หรือไม่ เพราะยังไม่สามารถกลับมาใช้สิทธิที่จะขออย่างนั้น ถ้ากลับมา ทางพระจะเป็นผู้วินิจฉัย" นายวิษณุ กล่าว