ในอดีตครูได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นพ่อแม่คนที่สองของเด็กนักเรียน รองจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ซึ่งถือว่าเป็นครูคนแรกของบุตร ธิดา ตามนัยแห่งคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า ภายในเรือนแห่งตระกูลใด บุตรบูชามารดา บิดา ตระกูลนั้นชื่อว่ามีอาจารย์คนแรก และครูเองก็ยอมรับบทบาทและหน้าที่ซึ่งผู้คนในสังคมมอบให้ด้วยความเต็มใจ จะเห็นได้จากการทุ่มเทเวลาในการสอนวิชาการในด้านต่างๆ ควบคู่ไปกับการให้การอบรมในด้านคุณธรรม และจริยธรรมเพื่อหวังให้ศิษย์ของตนเป็นคนที่มีคุณธรรม
แต่ในปัจจุบัน จิตวิญญาณแห่งความเป็นครู เฉกเช่นในอดีตแทบไม่มีให้เห็นในครูบางคน ทั้งนี้จะเห็นได้จากครูซึ่งเป็นถึงระดับผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปล้นทอง และยิงคนตาย 3 ศพที่จังหวัดลพบุรี รวมไปถึงครูขายยาบ้า และครูข่มขืนเด็ก เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นอาชญากรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ที่เป็นครู
อะไรทำให้ครูกระทำในสิ่งที่ครูไม่น่าจะทำ และจะมีแนวทางป้องกันอย่างไร?
ก่อนอื่น ผู้เขียนใคร่ขอให้ท่านผู้อ่านศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบัน และนำมาพิจารณาร่วมกับปัญหาทางเศรษฐกิจ และสังคม แล้วนำมาเปรียบเทียบกับศักยภาพในการบริหารประเทศของรัฐบาล ก็พอจะอนุมานได้ว่า การที่ครูกลายเป็นอาชญากรน่าจะเกิดจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ในปัจจุบัน ครูจำนวนไม่น้อยเข้ามาเป็นครู มิใช่ความเต็มใจ แต่ด้วยความจำใจ จึงไม่มีความพอใจในความเป็นครู แต่ตนเองก็ไม่มีทางเลือก เนื่องจากจบการศึกษาทางด้านนี้หรือจบการศึกษาในสาขาอื่น แต่ไม่อาจหางานในสาขาที่ตนเองจบมา จึงได้เข้ามาเป็นครู ทั้งๆ ที่ตนเองไม่อยากเป็น
2. ครูจำนวนมากในปัจจุบัน จบการศึกษาในวิชาชีพครู และต้องการเป็นครู ด้วยความสมัครใจ ทั้งมีความพอใจในความเป็นครู
แต่ครั้นเป็นครูแล้วมีอุปสรรคปัญหาในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาทางด้านการเงิน เงินเดือนไม่พอใช้ และต้องกลายเป็นลูกหนี้ ทั้งในระบบและนอกระบบ จึงทำให้ต้องดิ้นรนเพื่อหารายได้เพิ่ม และการหารายได้เพิ่มนี้เอง ทำให้ครูส่วนหนึ่งซึ่งไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู ประกอบกับไม่มีคุณธรรมกำกับการใช้ชีวิต และถูกความโลภครอบงำ จึงได้กระทำสิ่งที่ครูไม่พึงกระทำ เช่น โกงกินค่าอาหารกลางวันเด็ก เล่นการพนัน ค้ายาเสพติด ไปจนถึงการจี้ปล้น ชิงทรัพย์ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้
3. เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ทำให้การทำอาชีพเสริมของคนทำงานประจำรวมทั้งครูด้วย ทำได้ยากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการค้าขายนอกเวลาทำงาน เช่น หลังเลิกงานและในวันหยุดก็หาผู้ซื้อได้ยาก เนื่องจากไม่มีกำลังซื้อ ประกอบกับมีผู้ขายจำนวนมาก หรือแม้จะขับรถรับจ้างก็ไม่คุ้มค่าเช่า จึงทำให้การทำอาชีพเสริมในทางสุจริตทำได้ยาก และนี่เองที่กดดันให้ครูที่มีหนี้สินต้องก่ออาชญากรรมเพื่อหาเงินมาใช้หนี้
ด้วยเหตุนี้ คนทำงานประจำในระดับล่างถึงระดับกลาง ซึ่งมีรายได้ประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน ส่วนใหญ่จึงมีหนี้และเมื่อไม่มีทางหาเงินใช้หนี้ในทางสุจริต จึงหันไปหาเงินในทางทุจริต มีตั้งแต่โกงกินงบประมาณไปถึงประกอบอาชญากรรม เช่น จี้ ปล้น ชิงทรัพย์ เป็นต้น
ส่วนการแก้ไขปัญหาในส่วนของครู จะต้องเริ่มด้วยคุณภาพการศึกษาของคนไทย โดยการปลูกฝังคุณธรรมไปพร้อมๆ กับการให้ความรู้ในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะการศึกษาของครูจะต้องเน้นคุณธรรมเป็นพิเศษ และพร้อมกันนี้จะต้องเพิ่มเงินเดือนครูให้เทียบเท่ากับวิชาชีพอื่น เช่น แพทย์ และวิศวกรเพื่อจูงใจให้คนดี คนเก่งมาเป็นครู