xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เบื้องหลัง จับ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ปลอมเอกสาร คดี “เอมี่”ยาเสพติด ยอดภูเขาน้ำแข็งที่รอวันเผยให้เห็นถึงขบวนการทำมาหากินกับกฎหมายยาเสพติด ม.100/2 ?!!
ร้อนฉ่าในโลกโซเชียลฯ ทันที หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน บก.น.3 ร่วมกับชุดสืบสวน สน.มีนบุรี นำหมายจับจากศาลมีนบุรี เข้าจับกุม "ทนายตั้ม”หรือ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด" ทนายความชื่อดังของชาวเน็ต ในข้อหาร่วมกันนำสืบ แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ และเบิกความเท็จต่อศาลมีนบุรี ในคดี "เอมี่ อาเมเรีย จาคอป" อดีตนางเอกละครดัง โดยใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติด มาตรา 100/2 อันเป็นเท็จ
ที่คนให้ความสนใจกันเยอะ ก็เพราะก่อนนี้ "ทนายตั้ม" มีชื่อจากคดี “หวย30ล้าน’ระหว่างครูปรีชา กับหมวดจรูญ ที่โด่งดัง จนมาถึงการเป็นตัวละครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวโยงกับคดี “วิสามัญรถ” โจ๊ก หวานเจี๊ยบ หรือ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเวลานี้ไปบวชอยู่อินเดีย โดยเขาเป็นคนแรกๆ ที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ"คดีโจ๊ก" ว่าอาจเกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลกับป.ป.ช. เรื่องไบโอแมทริกซ์ ที่พยายามชี้เป้าไปที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เรียกว่า "ษิทรา"ยืนข้าง"โจ๊ก" ในเกมล้มเก้าอี้ ผบ.ตร. มาตลอด
ไม่น่าแปลกใจ หลังถูกจับ"ทนายตั้ม" จะโพสต์ในเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ”ว่า ตำรวจขอศาลออกหมายจับผม คดีปลอมเอกสาร ที่ไม่เกี่ยวกับผมเลย ตอนนี้กำลังนำตัวผมไป สน.มีนบุรี #กลั่นแกล้งกันขนาดนี้เลย
แน่นอนว่า นัยของแฮชแท็กติดท้ายข้อความ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า "ษิทรา" กำลังจะบอกว่า ใครรังแกเขา รังแกเรื่องอะไร ย่อมโยงกับ ไบโอแมทริกซ์ และผบ.ตร แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ?
เรื่องนี้ต้องดูว่า อะไรคือข้อกล่าวหาที่ว่า "ทนายตั้ม" เบิกความเท็จ โดยใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติด มาตรา 100/2 อันเป็นเท็จ กันก่อน เรื่องราวดูจะซับซ้อนอยู่พอสมควร ซึ่งตัว "ทนายตั๊ม" ก็ปฏิเสธไปเรียบร้อย ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า พ.ร.บ.ยาเสพติด 100/2 มีรายงานขบวนการเครือข่ายการนำเอา พ.ร.บ.มาตรการยาเสพติด 100/2 มาใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อให้ได้รับการลดโทษน้อยลง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมให้ความร่วมมือในการกระทำผิด
มีรายงานว่า หลายปีมานี้ คนที่อยู่กระบวนการของกฎหมายเห็นช่องนำเอามาตรการ พ.ร.บ.ยาเสพติด 100/2 มาใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์ โดยซื้อขายบันทึกการจับกุม , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมที่มาเบิกความยืนยันเอกสารบันทึกจับกุม และรายละเอียดเกี่ยวกับการขยายผลของผู้ต้องหาจุดที่ 1 ไปยังผู้ต้องหาจุดที่ 2 เพื่อให้ศาลเชื่อว่า ผู้ต้องหาจุดที่ 1 ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมผู้ต้องหาจุดที่ 2 ได้โดยมีปริมาณยาเสพติดมากกว่าจุดที่ 1 ซึ่งอัตราโทษที่ได้รับการลดโทษจาก มาตรการ 100/2 นี้ จะได้ลดโทษสูงสุดคือ 50% ของโทษจำคุกที่รับสารภาพก่อนหน้านี้ได้ลดโทษครึ่งหนึ่งแล้ว
ว่ากันง่ายๆคือ 100/2 นี้ จะช่วยผู้ต้องหาไม่ต้องรับโทษหนัก แต่ก็ต้องแลกด้วยการจ่ายเงินจ่ายทอง ก้อนโต
รู้กันว่า ขบวนการค้ายาเสพติด ที่มีเงินจำนวนมากที่ได้จากการค้ายาเสพติด จึงมีทนายความที่คิดวิธีแสวงหาผลประโยชน์ โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมบางคน ทำการซื้อขายบันทึกการจับกุม และทำเอกสารบันทึกการจับกุมเป็นเท็จ โดยปลอม และใช้เอกสารปลอม รวมทั้งเบิกความเท็จต่อศาล
การหากินกับ 100/2 จึงคุ้มค่า คุ้มราคา เงินสะพัดตั้งแต่หลักแสนไปจนหลักหลายล้าน !
ว่ากันว่า "ทนายตั้ม" เป็นทนายที่ว่าความมีชื่อเสียงดังมากในเรื่องพ.ร.บ.ยาเสพติด 100/2 ทุกเรือนจำในภาค 7 ที่ผู้ต้องหาในเรือนจำ จะพูดต่อๆกันว่า เขาสามารถใช้ 100/2 มาช่วยได้ มีคดีที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่า 30 คดี
เรื่องนี้บังเอิญ โป๊ะแตก!? หรือ "ทนายตั้ม" โอดครวญว่า “ #กลั่นแกล้งกันถึงขนาดนี้เลย” นั้นจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามกันต่อไป
ที่แน่ๆ ยอดภูเขาน้ำแข็งละลายเมื่อไหร่ คงมีคนหนาวกันอีกหลายคน .

** #รัฐบาลเฮงซวย ฮอตฮิตขึ้นแท่น ทวีตอันดับ 1 อีกรอบ จากไวรัสโคโรนา ทั้งเรื่องช่วยคนไทยกลับถิ่น หน้ากากอนามัยขาดตลาด
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เทรนด์ฮิตในทวิตเตอร์ โดยเฉพาะจากคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล มีการติดแฮชแท็ก #รัฐบาลเฮงซวย จนขึ้นมาอยู่อันดับ 1 จากกรณีฝุ่น PM2.5 ปกคลุมเมืองกรุงจนกลายเป็น "เมืองในหมอก" แต่รัฐบาลก็ไม่มีมาตรการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม...ดีแต่ว่ามีลม มีฝน เข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ทำให้ท้องฟ้าโล่งไปได้ระยะหนึ่ง ตอนนี้ PM 2.5 ก็เริ่มกลับมาอีกแล้ว
ล่าสุด เมื่อไม่กี่วันมานี้ #รัฐบาลเฮงซวย ได้กลับมาเป็นเทรนด์ฮิตอันดับ 1 อีกครั้ง จากเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา ที่ประชาชนมองว่า รัฐบาลยังไม่มีมาตรการอะไรที่ป้องกันการแพร่ระบาดได้ เพราะยังมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในประเทศ และตัวเลขพบผู้ที่ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งในช่วงนั้นรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนว่าจะไปรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่น กลับประเทศได้เมื่อไร ขณะที่ต่างประเทศทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ได้ขนคนของตัวเองออกมาแล้ว
เมื่อบวกกับ "เฟกนิวส์" ทั้งหลายแหล่ ที่มีการโพสต์ มีการแชร์ กันในช่วงนั้น ยิ่งทำให้สังคมโซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหนักขึ้น โดยพุ่งเป้าไปที่ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วก็ไม่ลืมที่จะติดแฮชแท็ก # รัฐบาลเฮงซวย เข้าไปด้วย
แน่นอนว่าในสถานการณ์เช่นนี้ บรรดานักการเมืองในซีกฝ่ายค้าน ย่อมไม่ละทิ้งโอกาสที่จะเข้ามาขย่มซ้ำ...
อย่างเช่น "หมวดเจี๊ยบ" ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ อย่ามาอ้างว่ารัฐบาลจีน ไม่ยอมให้รัฐบาลไทยส่งเครื่องบินไปรับคนไทยกลับประเทศ แล้วทำไม สหรัฐฯ ถึงได้ส่งเครื่องบินไปรับประชาชน และเจ้าหน้าที่ทางการทูตของเขา ออกจากอู่ฮั่น แล้วนับร้อยคน... ถ้าสหรัฐฯทำได้ แล้วทำไม"รัฐบาลประยุทธ์" ทำไม่ได้...ก็สมควรแล้วที่มีการติด แฮชแท็ก #รัฐบาลเฮงซวย ...นี่ยังเบาเกินไปด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับความบกพร่องและเชื่องช้า อันที่จริงต้องบอกว่า # รัฐบาลยิ่งกว่าเฮงซวย ด้วยซ้ำ
หรืออย่าง "อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด" โฆษกพรรคเพื่อไทย บอกว่า ก่อนหน้านี้ ในช่วง "วิ่งไล่ลุง" แฮชแท็ก #เบื่อนายก ก็ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ อันดับที่ 1 มาแล้ว แสดงว่า ค่าคะแนนนิยมในตัว "พล.อ.ประยุทธ์" ตกต่ำลงเรื่อยๆ ปัญหาเศรษฐกิจ ก็แก้แบบอิเหนาเมาหมัด เงินบาทแข็ง กระทบส่งออก ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจฐานรากกระทบ แจกเงินจนมึน แจกไปแจกมา แจกไปถึงต่างชาติจ้างให้มาเที่ยวเมืองไทย...ไหนยังจะมีเรื่องรัฐบาลเสียบบัตรแทนกัน จนอาจส่งผลให้ ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 เป็นโมฆะ ตามมาด้วยเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 และไวรัสโคโรนา
"แต่ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเหมือนลอยแพ ผลักภาระให้ประชาชนรับผิดชอบดูแลตัวเอง จึงทำให้ แฮชแท็ก #รัฐบาลเฮงซวย ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ อันดับ 1"
จะว่าไปแล้ว เมื่อ "ลุงตู่" เจอปัญหาวิกฤตซ้ำซ้อน แถมถูกสังคมโซเชียลฯ และฝ่ายตรงข้ามถล่มซ้ำแบบนี้ ก็ออกอาการ "หัวร้อน" เหมือนกัน ... พอเจอนักข่าวถามถึงปัญหาเหล่านี้ ก็มักจะ "ปรี๊ดแตก" ทั้งคำพูด น้ำเสียง สีหน้าท่าทาง ตอบคำถามเหมือนไม่ได้ตอบที่จะสื่อไปถึงประชาชน แต่น่าจะเป็นการสื่อไปถึง "ฝ่ายตรงข้าม" เสียมากกว่า
อย่างเช่น เมื่อคราวไปตรวจความเรียบร้อยของจุดคัดกรองโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อหลายวันก่อน เจอคำถามถึงความชัดเจนว่า เมื่อไรจะส่งเครื่องบินไปรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น ก็ได้รับคำตอบว่า ทางจีนยังไม่ตอบกลับมา เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศเขา ต้องเป็นเครื่องบินพาณิชย์ เขาไม่อนุญาตเครื่องบินทหาร ไม่ใช่ว่าเรานึกจะไปก็บินไปรับได้เพราะเขาปิดสนามบิน ไม่ใช่ว่าเราไม่เตรียมพร้อม สั่งการไปเป็นเดือนแล้ว แถมตบท้ายว่า มันไม่ง่ายเหมือนโบกแท็กซี่นี่...
ล่าสุดก็เรื่องหน้ากากอนามัยขาดตลาด มีการขึ้นราคา ... เมื่อนักข่าวถามเรื่องนี้ "พล.อ.ประยุทธ์" ก็ตอบด้วยน้ำเสียงในทำนองสงสัย ไม่เชื่อว่าจะขาดตลาดจริง ... ก็กระทรวงพาณิชย์ เขายืนยันว่ามีเพียงพอ แล้วทำไมร้านค้าไม่ไปซื้อที่โรงงานล่ะ เขาผลิตได้เป็นวันละล้านๆ ชิ้นนี่ ทำไมล่ะ ไปซื้อเขาสิ ถ้าไม่ซื้อแล้วบอกไม่มีได้ยังไง จะกักตุนกันหรือเปล่า... เมื่อนักข่าวยืนยันว่าไปหาซื้อตามร้านค้าปลีกแล้วไม่มี นายกฯก็ตอบว่า...ก็ค้าของ มันก็ต้องซื้อของมาขายสิจ๊ะเธอ เธอก็ไปซื้อให้ถูกที่สิ เอาสะดวกอย่างเดียวมันจะได้ยังไงเล่า...
จากนั้น โซเชียลฯก็เก็บเอาคำพูดนายกฯ มาปะติดปะต่อ กระหน่ำ เรื่องหน้ากากอนามัยกันอีกระลอก ยกตัวอย่างเช่น ...
#ไวรัสตู่ฮั่น ยังไม่หยุดเฮงซวย ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ถึงพล่ามว่าหน้ากากอนามัยไม่ขาดตลาด ฉอดๆประชาชนว่าขี้เกียจ เอาแต่สะดวก ไล่ไปซื้อที่โรงงาน สิ จะได้ราคาถูก ? โธ่ ถ้ามันง่ายและถูกขนาดนั้น แล้วทำไม # รัฐบาลเฮงซวย ทำไมไม่ซื้อมาแจกประชาชนเลยล่ะ ?
...ประเทศพัฒนาแล้ว=แจกแมส ประเทศด้อยพัฒนา=แมสหมด แมสแพง รัฐไม่สนใจแก้ปัญหา นายกฯบอกให้ประชาชนไปซื้อแมส ที่โรงงานกันเอาเอง เยี่ยม #รัฐบาลเฮงซวย
แม้รัฐบาลจะถูกถล่มจากโซเชียลฯ แต่ก็ยังมีคนเห็นใจ ออกมาตอบโต้แทนรัฐบาลอยู่บ้าง ...อย่างเช่น "อัษฎางค์ ยมนาค" นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ใครกันแน่ #โคตรห่วย...การที่คุณติด #รัฐบาลเฮงซวย มันแปลว่าคุณ ฉลาดกว่า ? จัดการกับปัญหาเก่งกว่า? นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือเก่งกว่ารัฐบาลทั้งรัฐบาล ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย ... ถ้าคุณเก่งกว่า ฉลาดกว่า รับมือกับปัญหาได้ดีกว่ารัฐบาล รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี แล้วส่องกระจกดูหน่อยซิ ว่าคุณเป็นใคร และทำอะไรอยู่ คนเป็นพ่อค้าแม่ขายอยู่ในตลาดนัด ขายกับข้าวอยู่ข้างทาง ทำนาทำไร่ เป็นข้าราชการ พนักงานบริษัทเอกชน ที่นั่งอยู่กับโต๊ะ ที่ยังจัดการกับงานประจำได้ห่วยเหมือนเดิมทุกวัน เป็นนักการเมือง ที่โชว์วิสัยทัศน์แพรวพราว แต่ยังไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เลยยยยย มันแปลว่าคุณ...โคตรห่วย !!
ตอนนี้รัฐบาลไปรับคนไทยกลับมาแล้ว หมอไทย เจอสูตรยาต้านไวรัสโคโรนาแล้ว... ลุงตู่ก็น่าจะ”หัวเย็น”ลงบ้างอารมณ์คนในโซเชียลฯ #รัฐบาลเฮงซวย ก็น่าจะลดลงด้วยนะ
---------
รูป - ษิทรา เบี้ยบังเกิด - อาเมเรีย จาคอป
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง - อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด


กำลังโหลดความคิดเห็น