ตร.นำกำลังเข้าจับกุม “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่สำนักงานกฎหมายย่านพุทธมณฑล สาย 4 ในข้อหาร่วมกันนำสืบ แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ และเบิกความเท็จ ในคดีเอมี่ อาเมเรีย จาคอป พัวพันยาเสพติด
วันนี้ (4 ก.พ.) มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาล 3 พร้อมด้วยตำรวจ สน.มีนบุรี นำกำลังพร้อมหมายจับของศาลอาญามีนบุรี เข้าจับกุม นายษิทธา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง บริเวณด้านหน้าสำนักงานกฎหมายสิทธาเบี้ยบังเกิด เลขที่ 67/4 ถ.เศรษฐกิจ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวทนายษิทธาได้แล้ว ได้คุมตัวไปลงบันทึกการจับกุมที่ สภ.กระทุ่มแบน ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.มีนบุรี ตามพื้นที่ที่มีการขอหมายจับจากศาลต่อไป
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางหน้าเฟซบุ๊กของนายษิทธา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความว่า “ตำรวจออกหมายจับผมคดีปลอมเอกสาร ที่ไม่เกี่ยวกับผมเลย ตอนนี้กำลังนำตัวผมไป สน.มีนบุรี #กลั่นแกล้งกันขนาดนี้เลย” โดยมีสมาชิกแฟนเพจเข้ามาให้กำลังใจและแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก
ในขณะที่เพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ข้อความระบุว่า “แจ้งข่าวด่วน! ชุดสืบสวน บก.น.3 ร่วมกับชุดสืบสวน สน.มีนบุรี นำหมายจับจากศาลมีนบุรีเข้าจับกุม ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ในข้อหาร่วมกันนำสืบ/แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ/และเบิกความเท็จต่อศาลมีนบุรี ในคดีเอมี่ อาเมเรีย จาคอป โดยใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดมาตรา 100/2 อันเป็นเท็จ”
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวยอมรับว่าเป็นผลมาจากกรณีที่ตนได้นำพยานหลักฐานต่างๆ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ บช.น. เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังพบว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการสร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้นมาเพื่อวิ่งเต้นสู้คดีให้ น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ นางเอกสาว ที่ถูกจับในคดียาเสพติด เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่ที่ต้องทำก็เพื่อความถูกต้องในสังคม
นายอัจฉริยะกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนมีพยานหลักฐานหลายอย่าง ทั้งหลักฐานเกี่ยวกับการขโมยบัตรข้าราชการตำรวจ บันทึกการจับกุมของ สน.ศาลาแดง รวมไปถึงคลิปเสียงของพยานที่อยู่ในเรือนจำ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อนำไปสร้างหลักฐานเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในการช่วยเหลือนางเอกสาวต่อสู้คดี ซึ่งการจับกุมนายษิทราครั้งนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เพราะจากหลักฐานที่ตรวจสอบพบนั้นเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย ส่วน น.ส.อาเมเรีย จะเกี่ยวข้องกับการสร้างพยานหลักฐานเท็จด้วยหรือไม่นั้น ขอให้เป็นทางหน้าที่ของตำรวจเป็นผู้ชี้แจง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายษิทรานั้นก่อนหน้านี้ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่คอยออกมาเคลื่อนไหวยื่นเรื่องและให้ข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบโครงการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จนกระทั่งมาถูกจับกุมในคดีดังกล่าว