โคโรนาไวรัส...ยังเอาไม่อยู่!

โลกยังกังวลเรื่องการระบาดของโคโรนาไวรัส หรืออู่ฮั่นไวรัส ตัวเลขการติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังเพิ่มอยู่ต่อเนื่องในจีน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของการระบาด มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจีนได้พยายามสกัดกั้น และกำจัดเชื้อทุกทาง ก็ยังเอาไม่อยู่

ทำให้เทศกาลตรุษจีนปีนี้กร่อย งานฉลองต่างๆ ต้องถูกยกเลิก การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนอยู่ในสภาพเฝ้าระวัง คนจีนหลายล้านคนเดินทางไปต่างเมือง เมื่อสิ้นสุดเทศกาลแล้วจะอยู่ในสภาพเช่นใด เพราะมาตรการควบคุมยังมีอยู่

คนใน 15 เมืองในมณฑลหูเป่ยจะทำอย่างไร มีรายงานว่า กว่า 5 ล้านคนจากอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ได้ออกจากหูเป่ยไปเมืองอื่นๆ และต่างประเทศ จะทำอย่างไรเมื่อกลับบ้าน เข้าเมืองที่ถูกปิด เป็นด่านสกัดไม่ได้ และจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหนก็ไม่รู้

ครั้งนี้รัฐบาลจีนทำให้ประเทศอื่นๆ เห็นว่ามาตรการเข้มสามารถทำได้!

มาตรการปิดเมือง และคุมเข้มอยู่ในระดับที่ประเทศอื่นๆ จะทำได้ยากถ้าไม่รวมศูนย์อำนาจการสั่งงาน พร้อมกับการบังคับใช้กฎเข้มงวด รวมทั้งกำลังคนและทรัพยากรอื่นๆ และเป็นประเทศซึ่งมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล

องค์การอนามัยโลกยังให้ความเชื่อมั่นว่าทางการจีนจะยังเอาอยู่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อเขยิบสูงกว่า 6 พันราย เสียชีวิต 132 รายในช่วงเช้าวันพุธ ป่านนี้คงเพิ่มอีกเยอะ ประเทศอื่นๆ ส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองของตนเองออกจากจีน ญี่ปุ่นเป็นชาติแรกเพราะอยู่ใกล้

เหตุผลหลักคือความไม่มั่นใจว่าจีนจะหยุดการระบาดได้เมื่อไหร่ นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นยอมรับว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดช้า พร้อมจะลาออก แต่ต้องรอดูว่าทางผู้ว่ามณฑลหูเป่ยจะยอมให้เลี่ยงจากความรับผิดชอบง่ายได้หรือไม่

อยู่ที่ว่าจากนี้ไปจะสามารถทำให้เมืองอู่ฮั่นพ้นจากการระบาดได้เร็วหรือไม่ด้วย

ยังไม่มีเสียงตำหนิจีนว่าปกปิดข้อมูล เว้นแต่ในกลุ่มข่าวปลอม ข่าวกุขึ้นมา มีเพียงเสียงวิจารณ์ว่าการปิดเมืองส่งผลกระทบต่อผู้อาศัยในเมืองซึ่งมีปัญหาในการดำรงชีพ การหาอาหารซึ่งหายไปจากร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตเพราะการซื้อกักตุนไว้ก่อน

เรื่องอาหารการกินเป็นปัญหาเพราะจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบในการปิดเมืองมีมากถึง 60 ล้านคน พื้นที่เท่ากับประเทศซีเรีย ประชากรเกือบเท่ากับอังกฤษ

นอกจากนั้นยังอาจส่งผลลบทางการเมืองสำหรับผู้นำ สี จิ้นผิง ถ้าไม่สามารถจัดการปัญหาให้จบสิ้นในเร็ววัน ทำให้การระบาดเป็นวงกว้าง ผู้เสียชีวิตมากเกินคาด แม้จะมีข้อมูลว่าการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในจีนบางปีมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 88,000 รายก็ตาม

แต่ไข้หวัดใหญ่เป็นการระบาดตามฤดูกาล ต่างจากโคโรนาไวรัส ซึ่งน่ากลัวกว่า เพราะการกระพือข่าว ความเร็วในการติดเชื้อ และยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาเฉพาะ

เพียงแค่หน้ากากอนามัย หลายพื้นที่ก็ขาดตลาด เพราะความต้องการสูง

เพราะมีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล และยังสรุปตัวเลขไม่ได้ จนกว่าการระบาดจะสิ้นสุดเด็ดขาด หน่วยงานต่างๆ พยายามให้ข้อมูล คำแนะนำการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แม้จะยังไม่สามารถผลิตวัคซีนได้ เพราะต้องใช้เวลา

คำรับรองที่ฟังแล้วอุ่นใจก็คือ ถ้าอาการเพิ่งเริ่มต้น เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที ไวรัสยังไม่เข้าสู่ปอด ทำให้เกิดอาการปอดอักเสบหรือปอดบวม ไม่มีโรคอื่นแทรก โอกาสหายจากโรคนี้มีอยู่มาก เมื่อเทียบกับโรคซาร์ส และเมอร์ส ซึ่งมีอัตราการตายสูงกว่า

ช่วงที่ผ่านมา เมืองอู่ฮั่นได้ประเมินอัตราการเสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสที่ 2.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้ประเมินอัตราการเสียชีวิตสำหรับโรคซาร์สซึ่งระบาดในปี 2003 อยู่ที่ 9.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของโรคเมอร์สอยู่สูงถึง 35 เปอร์เซ็นต์

แต่การระบาดของโคโรนาไวรัสไปในอัตราเร็วกว่าซาร์ส ซึ่งมีเพียง 5,327 รายในปี 2003 และมีผู้เสียชีวิต 349 ราย แสดงให้เห็นว่าไวรัสตัวใหม่นี้ระบาดเร็วกว่า แม้อันตรายน้อยกว่า ทั้งนี้เป็นเพราะความพร้อมและประสบการณ์ในการตั้งรับกับการระบาดนั่นเอง

ทั้ง 3 โรคก็เป็นสายพันธุ์โคโรนาเช่นเดียวกัน แต่ความรุนแรงต่างกัน ทั้งหมดยังไม่น่ากลัวเท่ากับการระบาดของเชื้อโรคอีโบล่า ในแอฟริกา ซึ่งติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างเร็ว

การระวังป้องกันคือการตัดขาดระหว่างผู้ติดเชื้อและผู้อื่น การทำความสะอาดโรงพยาบาลและเครื่องมือ เครื่องใช้ ชุดของบุคลากร รวมทั้งการสกัดการแพร่กระจายผ่านผู้คนเข้าออกสถานที่รักษาผู้ป่วย การเร่งผลิตของจำเป็นในการป้องกันและรักษา

โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยได้รับคำสั่งให้เร่งการผลิต ปัจจุบันมีศักยภาพผลิตได้ 2 ล้านชิ้นต่อวัน ทางการจีนต้องยืดระยะวันหยุดตรุษจีนออกไป รวมทั้งการเปิดเรียนด้วย

เมื่อการระบาดกระจายไป 17 ประเทศทั่วโลก จึงประเมินกันว่าถ้าสภาวะยืดเยื้อ จะส่งผลเสียหายให้ภาคเศรษฐกิจอย่างมากมาย การเดินทางท่องเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวกับการบิน โรงแรม สถานบันเทิง การค้า แหล่งชอปปิ้ง จะมีคนไปเดินซื้อของน้อย

ตลาดหุ้นยังผันผวนพร้อมกับราคาทองคำที่ยังเขยิบขึ้น เมื่อนักลงทุนมองว่าการระบาดจะทำให้ธุรกิจชะงักหรือชะลอตัว การใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคน้อยลง ถือว่าเป็นการซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจซึ่งถดถอยอยู่แล้ว จากปัญหาอื่นๆ เช่นสงครามการค้า

การระบาดของโคโรนาไวรัสประจวบเหมาะกับการคลี่คลายในการเผชิญหน้าทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งท่าจะเอาเป็นเอาตายกันอยู่ และทำให้เรื่องอื่นๆ ซาตามไปด้วย ผู้นำสหรัฐฯ กังวลกับความอยู่รอดของตัวเองในเรื่องการถอดถอน