ผู้จัดการรายวัน 360-ธปท.ปรับเกณฑ์ LTV ผ่อนปรนบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 10 ล้าน กู้ได้ 100% แถมกู้เพิ่มค่าตกแต่ง 10% ส่วนหลังที่ 2 ลดเงินดาวน์เหลือ 10% แต่ยังคงเพดานบ้านหลังที่ 3 ทุกระดับราคาวางดาวน์ไม่ต่ำกว่า 30% พร้อมย้ำภาระหนี้ครัวเรือนยังมีแนวโน้มพุ่งสูง ด้านบิ๊กอสังหาฯ ชี้เป็นสัญญาณดีที่มีการผ่อนปรน หวังอนาคตผ่อนปรนมากกว่านี้อีก ขณะที่ ธอส. คาดตลาดฟื้นตัวขึ้นแน่
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้ประกาศปรับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV โดยบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท สามารถกู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน และสามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกันสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัย เช่น การตกแต่งบ้าน การซ่อมแซมหรือต่อเติม ส่วนบ้านหลังที่ 2 ต้องวางดาวน์ลดลงเหลืออย่างน้อย 10% หากผ่อนหลังแรกไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี และวางดาวน์อย่างน้อย 20% หากผ่อนหลังแรกยังไม่ถึง 2 ปี จากเดิมที่กำหนดระยะเวลาไว้ 3 ปี ส่วนบ้านหลักที่ 3 ขึ้นไป ต้องวางดาวน์ขั้นต่อ 30% ส่วนบ้านที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท บ้านหลังแรก ให้วางเงินดาวน์ 10% จากเดิม 20% และบ้านหลังที่ 2 ต้องวางดาวน์ 20% และหลังที่ 3 ขึ้นไปต้องวางดาวน์ 30% มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2563
ทั้งนี้ สาเหตุที่ยังไม่ยกเลิกเพดาน LTV เนื่องจากที่ผ่านมา พบการกู้สัญญาที่ 2 เป็นการกู้เพื่อเก็งกำไรสูงกว่า 50% ส่งผลให้ราคาที่อยู่ปรับสูงขึ้นไปด้วย กระทบต่อผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง ขณะที่หลังการใช้มาตรการ LTV ตั้งแต่เดือนเม.ย.2562 พบว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ ในช่วง 11 เดือนของปี 2562 ยังขยายตัวได้ 5.6% ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอาคารชุด
ส่วนสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย เห็นว่า ยังน่ากังวล โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ 79.1% และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งหนี้ครัวเรือนจะยังไม่ลดลงในปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ดังนั้น จะต้องหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้ก่อหนี้เพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เปราะบาง
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และนายกกิติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่ ธปท. คิดทบทวนมาตรการ ซึ่งหวังว่าหลังจากนี้เมื่อพิจารณาตัวเลขการปรับลดลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยแล้ว จะทำให้ ธปท. ผ่อนเกณฑ์ให้มากกว่านี้ เพื่อช่วยฟื้นตลาด
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์ใหม่ของธปท. ทันที เพราะถือเป็นการปรับปรุงที่ช่วยให้ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้รับประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักของ ธอส. ซึ่งถือเป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และยังถือเป็นการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้น จากการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้ประกาศปรับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV โดยบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท สามารถกู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน และสามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกันสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัย เช่น การตกแต่งบ้าน การซ่อมแซมหรือต่อเติม ส่วนบ้านหลังที่ 2 ต้องวางดาวน์ลดลงเหลืออย่างน้อย 10% หากผ่อนหลังแรกไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี และวางดาวน์อย่างน้อย 20% หากผ่อนหลังแรกยังไม่ถึง 2 ปี จากเดิมที่กำหนดระยะเวลาไว้ 3 ปี ส่วนบ้านหลักที่ 3 ขึ้นไป ต้องวางดาวน์ขั้นต่อ 30% ส่วนบ้านที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท บ้านหลังแรก ให้วางเงินดาวน์ 10% จากเดิม 20% และบ้านหลังที่ 2 ต้องวางดาวน์ 20% และหลังที่ 3 ขึ้นไปต้องวางดาวน์ 30% มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2563
ทั้งนี้ สาเหตุที่ยังไม่ยกเลิกเพดาน LTV เนื่องจากที่ผ่านมา พบการกู้สัญญาที่ 2 เป็นการกู้เพื่อเก็งกำไรสูงกว่า 50% ส่งผลให้ราคาที่อยู่ปรับสูงขึ้นไปด้วย กระทบต่อผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง ขณะที่หลังการใช้มาตรการ LTV ตั้งแต่เดือนเม.ย.2562 พบว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ ในช่วง 11 เดือนของปี 2562 ยังขยายตัวได้ 5.6% ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอาคารชุด
ส่วนสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย เห็นว่า ยังน่ากังวล โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ 79.1% และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งหนี้ครัวเรือนจะยังไม่ลดลงในปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ดังนั้น จะต้องหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้ก่อหนี้เพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เปราะบาง
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และนายกกิติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่ ธปท. คิดทบทวนมาตรการ ซึ่งหวังว่าหลังจากนี้เมื่อพิจารณาตัวเลขการปรับลดลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยแล้ว จะทำให้ ธปท. ผ่อนเกณฑ์ให้มากกว่านี้ เพื่อช่วยฟื้นตลาด
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์ใหม่ของธปท. ทันที เพราะถือเป็นการปรับปรุงที่ช่วยให้ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้รับประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักของ ธอส. ซึ่งถือเป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และยังถือเป็นการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้น จากการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น