ธอส.พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. ทันที เพื่อช่วยให้ลูกค้าประชาชนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด เช่น ซื้อบ้านสัญญาที่ 1 ที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท รับวงเงินสูงสุดไม่เกิน 100% แถมกู้เพิ่มได้อีก 10% ซื้อเฟอร์นิเจอร์
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในการกำหนดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to value หรือ LTV) สำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่ง ธปท. ยังคงเพดาน LTV 100% แต่สามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกันสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัยจริง พร้อมกำหนดให้วางดาวน์น้อยลงจาก 20% เป็น 10% สำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องมีบ้าน 2 หลัง ธปท. ได้ผ่อนเกณฑ์ให้การกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2 ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ต้องมีเงินดาวน์ 10% หากผ่อนชำระสัญญาที่ 1 มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี จากเดิมกำหนด 3 ปี พร้อมปรับหลักเกณฑ์เงินกองทุนที่ต้องดำรงสำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท และการกู้สร้างบ้านบนที่ดินปลอดภาระ เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้กู้กลุ่มดังกล่าวมากขึ้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 มกราคม 2563 เป็นต้นไปนั้น
ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. ทันที เพราะถือเป็นการปรับปรุงที่ช่วยให้ลูกค้าประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้รับประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักของ ธอส. ซึ่งถือเป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดสำหรับลูกค้าในแต่ละประเภทรายได้หรือสวัสดิการ เช่น กลุ่มลูกค้าข้าราชการ และกลุ่มลูกค้าที่มีสวัสดิการหักเงินเดือนกับธนาคาร หากซื้อบ้านสัญญาที่ 1 ที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท นอกจากจะได้รับวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย หรือรายได้สุทธิของผู้กู้แล้ว ยังสามารถได้รับวงเงินสินเชื่ออีก 10% ของมูลค่าหลักประกัน (ตามความสามารถของผู้กู้) เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับการอยู่อาศัย หรือหากเทียบจากเกณฑ์ LTV เดิม กรณีซื้อที่อยู่อาศัยแนวสูงที่มีราคาซื้อขาย 1 ล้านบาท เดิมผู้กู้จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท แต่เกณฑ์ใหม่จะทำให้ได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดได้ถึง 1,100,000 บาท หรือกรณีซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีราคาซื้อขาย 1 ล้านบาท เดิมผู้กู้จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 950,000 บาท แต่เกณฑ์ใหม่จะทำให้ได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1,100,000 บาทเช่นกัน
ทั้งนี้ ธอส. เชื่อว่าการปรับปรุงมาตรการ LTV ของ ธปท. ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านเพื่อการอยู่อาศัยจริงมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น พร้อมกับบรรเทาภาระการวางเงินดาวน์ในการมีที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน และยังถือเป็นการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้น จากการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะมีปริมาณมากยิ่งขึ้นได้ต่อไป
