ทุกปีเมื่อเริ่มศักราชใหม่ จะมีบรรดาโหราจารย์ออกมาทำนายเหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2563 ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ โดยอาศัยวิชาโหราศาสตร์
ส่วนว่าผลของการทำนายจะถูกแม่นยำหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 2 ประการดังต่อไปนี้
1. ความรู้ในด้านโหราศาสตร์ และการเก็บสถิติเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง
2. ความรอบคอบในการนำวิชาการแขนงนี้มาประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และที่สำคัญคือจะต้องเคารพในศาสตร์ไม่บิดเบือนวิชาการ เพื่อเอาใจบุคคล เพื่อหวังผลประโยชน์จากบุคคลที่ตนเอาใจ
แต่เท่าที่ผู้เขียนในฐานะโหรสมัครเล่น ได้รับรู้ข้อมูลทางสื่อแขนงต่างๆ สรุปได้ว่าส่วนใหญ่ได้ทำนายในทิศทางเดียวกันคือ จะมีความวุ่นวายทางการเมือง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ก็ทำนองเดียวกันคือ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
แต่ถ้ายึดตามทัศนะของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือโหราศาสตร์ในวรรณคดีปี พ.ศ. 2563 จะเป็นปีแห่งยุคชาววิไล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 ยุคพยากรณ์อันเกิดจากการที่ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์โคจรมาร่วมในราศีเดียวกัน
จากข้อเขียนของอาจารย์เทพย์ ได้นำเหตุการณ์ที่ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์โคจรมารวมอยู่ในราศีเดียวกัน 9 ครั้ง โดยนับจาก พ.ศ. 2325 จนถึงปัจจุบัน และทุกครั้งมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญถึงขั้นถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์
ดังนั้น การที่ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์โคจรมารวมกันในราศีธนูในปี 63 คงจะต้องรอดูว่ามีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้น และมีความสำคัญดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่
แต่ในความเห็นของผู้เขียน ในฐานะเป็นโหรสมัครเล่นเห็นว่า ในช่วง 20 มี.ค.-8 ก.ค. จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล อย่างน้อยมีการปรับ ครม.โดยให้รัฐมนตรีซึ่งเป็นจำเลยสังคมออกไป และอย่างมากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล และเปิดโอกาสให้คนที่เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของประชาชนเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศ
ส่วนในด้านเศรษฐกิจและสังคม จาก ม.ค.-ต.ค. ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นกว่าปี 62 แต่จาก 9 ก.ค.-ธ.ค. จะค่อยๆ ดีขึ้น