xs
xsm
sm
md
lg

หย่าศึกการค้าจีน – สหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์"ชนะคนเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับแรกที่ เรียกว่า “ ข้อตกลงการค้าเฟส 1“ ทีทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เป็นการ “ หย่าศึก” หยุดยิงชั่วคราว ของ การทำสงครามการค้า ที่ยืดเยื้อมานาน 18 เดือน

ข้อตกลงนี้ มีสาระสำคัญ ดังนี้

จีน จะเพิ่มการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม พลังงาน สินค้าเกษตรและบริการ คิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 200,000 ล้านดอลลาร์ ในระยะ 2 ปีข้างหน้า

จีนจะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วย การให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในระดับที่เข้มงวดรัดกุมยิ่งขึ้น และยื่นเสนอต่อสหรัฐฯภายใน 30 วัน นับจากที่ข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ แผนดังกล่าวจะต้องครอบคลุมถึงมาตรการต่างๆ ที่จีนจะนำมาใช้เพื่อดำเนินการตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้ในข้อตกลง และจะต้องกำหนดวันที่ชัดเจนด้วยว่า แต่ละมาตรการจะมีผลเริ่มดำเนินการเมื่อใด

บริษัทสหรัฐฯ ควรจะสามารถดำเนินธุรกิจในจีน โดยไม่ถูกบังคับหรือกดดันให้ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยี่ของตนให้กับบุคคลหรือบริษัทอื่นที่เป็นฝ่ายจีน การถ่ายทอดเทคโนโลยี ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจและเป็นความตกลงใจร่วมกัน

จีนรับปากจะพยายามขจัดการจำหน่ายสินค้าปลอม สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ให้หมดไป

จีนจะเพิ่มช่องทางการเข้าสู่ตลาดจีนให้กับบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินของสหรัฐฯ

สหรัฐฯจะยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนระลอกใหม่ ที่เดิมกำหนดมีผลในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และจะปรับลดภาษีที่ขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้ลดลงมาอยู่ที่อัตรา 7.5 % สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์

ดูเหมือน ข้อตกลงหย่าศึกครั้งนี้ สหรัฐฯ จะเป็นฝ่ายได้มากกว่า เหมือนจีนจะเสียเปรียบ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ของข้อตกลง เป็นข้อเรียกร้องให้จีนต้องปฏิบัติตาม แต่วิเคราะห์ดูในรายละเอีดแล้ว ยกเว้นเรื่อง ที่จีนต้องซื้อสินค้าสหรัฐ เพิ่ม 200,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ภายใน 2 ปี เรื่องอื่นๆ ล้วนเป็นเพียง “ คำมั่นสัญญา “ ที่จีนเคยรับปากมาแล้ว ในยุคของประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อนๆ แต่ไม่ได้ทำตาม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่อง การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการถ่ายทอดเทคโนโลยี

ข้อตกลงนี้ ไม่ได้พูดถึง การอุดหนุนวิสาหกิจ และบริษัทจีน โดยรัฐ ซึ่ง เป็นเป้าหมายสำคัญที่ฝ่ายสหรัฐฯ ต้องการให้ทางการจีน เลิกการอุดหนุน เนื่องจาก ทำให้บริษัทสหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขัน และ การอุดหนุนวิสาหกิจ ธุรกิจ ยังเป็นกลยุทธ์ของจีน ในการก้าวไปสู่ วิชั่น “ Made in China 2025”ที่เป็นการก้าวขึ้นเป็น ผู้นำเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของโลกแข่งกับสหรัฐ

ในขณะเดียวกัน การลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เหลือ 7.5 % สำหรับสินค้านำเข้ามูลค่า 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเพียง 1 ใน 3 ของสินค้านำเข้าที่ถูกเก็บภาษีในอัตรา 25 % ยังมีสินค้าส่งออกของจีนอีก 2 ใน 3 มูลค่า 360,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ต้องถูกเก็บภาษีนำเจ้าสหรัฐฯ 25 % เหมือนเดิม

โดนัลด์ ทรัมป์บอกว่า การที่ยังไม่ลดภาษีลงมาทั้งหมด ก็เพื่อให้เป็น เครื่องมือต่อรอง สำหรับการเจรจาต่อไป

ธุรกิจและผู้บริโภคชาวอเมริกัน ยังต้องแบกรับภาระภาษี ในรูปของราคาสินค้า ต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงต่อไป

โดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่า ตอนที่เขาสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อสามปีก่อน เขาหาเสียงว่า จะ” เล่นแรง” กับจีน ที่เอาเปรียบสหรัฐฯ เขาได้ทำตามสัญญาแล้ว ไม่เหมือนประธานาธิบดีคนก่อนๆ ที่ไม่รักษาคำพูด

ข้อตกลงที่จีนจะต้องซื้อสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 200,000 ล้านเหรียญภายในเวลา 2 ปี จะช่วยให้ยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐฯ เสียเปรียบจีนลดลงไปได้บ้าง และเกษตรกรอเมริกัน จะได้รับประโยชน์ ขายถั่วเหลือง ข้าวโพดให้จีนได้มากขึ้น คนเหล่านี้เป็นฐานเสียงของโดนัลดฺ ทรัมป์

ทรัมป์บอกว่า ข้อตกลงการค้าเฟส 2 จะมีขึ้น ในเดือนพฤศจิกายน สหรัฐฯจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ การหย่าศึกการค้าจีน -สหรัฐฯ เป็นเรื่องที่เขาจะใช้หาเสียงได้ว่า ได้ทำตามที่เคยหาเสียงในการชิงตำแอหน่งผู้นำ เมื่อ 3 ปีก่อนว่า จะจะไม่อ่อนข้อให้กับจีน และยังสามารถลดการขาดดุลการค้ากับจีนได้ด้วย

การหย่าศึกครั้งนี้ จึงเป็นชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์คนเดียวจริงๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น