"สนธิรัตน์" คิกออฟนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนที่ขอนแก่น มั่นใจบูมเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาปากท้องได้อย่างยั่งยืน เกษตรกรจะมีรายได้จากการปลูกพืชพลังงาน คนในชุมชนจะเปลี่ยนจากผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า
วานนี้ (19ธ.ค.) ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านโนนรัง ต.สาวะถี อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน และ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงงาน ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อร่วมประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานนโยบายด้านพลังงานชุมชน ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เกษตรกร และประชาชนที่สนใจ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ให้กับพี่น้องประชาชน 6 จังหวัด จากพื้นที่อีสานตอนล่าง ได้แก่ จ.ขอนแก่น ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม และอุบลราชธานี ซึ่งให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนนับพันคน หวังแก้ปัญหาความยากจนให้ครอบครัวอย่างยั่งยืน โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) แล้ว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความชื่นชมจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คาดหวังว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สามารถแก้ปัญหาปากท้องประชาชนได้อย่างแท้จริง วันนี้กระทรวงพลังงานทำโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน ผมอยากเห็นพี่น้องชาวอีสาน และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศก้าวพ้นปัญหาความยากจน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกพืชพลังงานไม่ว่าจะเป็น ไผ่ หญ้าเนเปีย กระถินณรงค์ ที่ในอดีตต่างประสบปัญหาขาดคนรับซื้อ ราคาตกต่ำ ให้มีรายได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องไป 20 ปี จากการส่งวัตถุดิบให้โรงไฟฟ้าชุมชน
“จ.ขอนแก่น ถือเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน ดังนั้นผมจึงเลือก จ.ขอนแก่น เป็นจังหวัดแรกในการประกาศนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน โดยโครงการนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ จากการปลูกพืชพลังงาน นอกจากนี้ในพื้นที่ใดที่เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าคนในชุมชน ก็จะขยับจากคนใช้ไฟฟ้ามาเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า รวมถึงประชาชนที่อยู่รอบโรงไฟฟ้า ก็จะมีโอกาสได้ใช้ไฟฟ้าในราคาถูกอีกด้วย” นายสนธิรัตน์ ระบุ
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่ออีกว่าไม่เพียงแค่โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเท่านั้น ที่กระทรวงพลังงาน ตั้งใจขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องประชาชน แต่ยังเตรียมการแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 - 3 เดือนข้างหน้านี้ ด้วยระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งให้พี่น้องประชาชนได้อีกทาง
วานนี้ (19ธ.ค.) ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านโนนรัง ต.สาวะถี อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน และ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงงาน ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อร่วมประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานนโยบายด้านพลังงานชุมชน ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เกษตรกร และประชาชนที่สนใจ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ให้กับพี่น้องประชาชน 6 จังหวัด จากพื้นที่อีสานตอนล่าง ได้แก่ จ.ขอนแก่น ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม และอุบลราชธานี ซึ่งให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนนับพันคน หวังแก้ปัญหาความยากจนให้ครอบครัวอย่างยั่งยืน โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) แล้ว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความชื่นชมจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คาดหวังว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สามารถแก้ปัญหาปากท้องประชาชนได้อย่างแท้จริง วันนี้กระทรวงพลังงานทำโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน ผมอยากเห็นพี่น้องชาวอีสาน และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศก้าวพ้นปัญหาความยากจน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกพืชพลังงานไม่ว่าจะเป็น ไผ่ หญ้าเนเปีย กระถินณรงค์ ที่ในอดีตต่างประสบปัญหาขาดคนรับซื้อ ราคาตกต่ำ ให้มีรายได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องไป 20 ปี จากการส่งวัตถุดิบให้โรงไฟฟ้าชุมชน
“จ.ขอนแก่น ถือเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน ดังนั้นผมจึงเลือก จ.ขอนแก่น เป็นจังหวัดแรกในการประกาศนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน โดยโครงการนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ จากการปลูกพืชพลังงาน นอกจากนี้ในพื้นที่ใดที่เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าคนในชุมชน ก็จะขยับจากคนใช้ไฟฟ้ามาเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า รวมถึงประชาชนที่อยู่รอบโรงไฟฟ้า ก็จะมีโอกาสได้ใช้ไฟฟ้าในราคาถูกอีกด้วย” นายสนธิรัตน์ ระบุ
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่ออีกว่าไม่เพียงแค่โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเท่านั้น ที่กระทรวงพลังงาน ตั้งใจขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องประชาชน แต่ยังเตรียมการแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 - 3 เดือนข้างหน้านี้ ด้วยระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งให้พี่น้องประชาชนได้อีกทาง
