ผู้จัดการรายวัน360-"พุทธิพงษ์" เผยตำรวจจับตัวผู้กระทำมิบังควร ขณะมีการชุมนุมที่สกายวอล์ก เมื่อ 14 ธ.ค.ได้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน "ช่อ" โวยลั่น ปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง ตกต่ำกว่า "ดาวสยาม-วิทยุยานเกราะ" ยุค 6 ตุลาฯ เมินเฟกนิวส์ ภาพตัดต่อ"ธนาธร" แต่มาดิ้นเรื่อง"คำขวัญวันเด็ก" ย้ำจุดยืน ปกป้องเสรีภาพประชาชนในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 08.08 น. วานนี้ (18ธ.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ว่า "จากการโพสต์ภาพอันมิบังควร และทำร้ายจิตใจคนไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ทางผมและทีมงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รีบดำเนินการเก็บหลักฐานทางสื่อออนไลน์ต่างๆ จนล่าสุดตอนนี้ทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งถ้าแถลงข่าวได้เมื่อใด ผมจะรีบแจ้งทันทีครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครทนได้ ผมก็เช่นกัน ขอต่อสู้อย่างที่สุดเพื่อปกป้องสถาบันฯ อันเป็นที่รักยิ่งของผองไทย"
ต่อมาเวลา 14.10 น. น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีการทำหน้าที่ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลฯว่า จากกรณีการจัดกิจกรรมการแสดงออกของประชาชน ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน แต่เรามีความกังวลภายหลังการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เนื่องจากมีความพยายาม ในการทำลายความน่าเชื่อถือ ของการชุมนุมรวมทั้งผู้เข้าร่วม ขณะที่นโยบายการจัดการข่าวปลอมของรัฐบาล ที่ตนโดนเจ้าหน้าที่จากสำนักนายกฯ ไปแจ้งความเอาผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหาบิดเบือนข้อความ "คำขวัญวันเด็ก" ของนายกฯ ซึ่งตนมองว่า เป็นเพียงเรื่องตลกนั้น ในทางกลับกัน ทางศูนย์จัดการเฟกนิวส์ ไม่ได้ดำเนินการข่าวปลอมของผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ตนได้ติดต่อโดยตรงไปยังนายพุทธิพงษ์ ในกรณี ที่เพจเดรัจฉานแฉ โพสต์ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมข้อความ ที่เป็นการพูดพางพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นข่าวปลอม 100% เพราะในวันนั้น มีทั้งสื่อมวลชนมืออาชีพ และมือสมัครเล่น รวมทั้งประชาชนบันทึกวิดีโอเอาไว้ สามารถไปเช็กดูได้ว่า ไม่มีคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นแม้แต่เพียงครึ่งคำ นายพุทธิพงษ์ ก็รับปากว่าจะจัดการให้ แต่จนถึงขณะนี้ โพสต์ดังกล่าวก็ยังคงอยู่ โดยไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด กลับไปจัดการข่าวอื่นอย่างการล้อเลียนคำขวัญนายกฯ
"ที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งคือ กรณีที่นายพุทธิพงษ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้รวบรวบพยานหลักฐาน นำไปสู่การจับกุมผู้โพสต์ภาพตามที่คุณพุทธิพงษ์ บอกว่าเป็นการกระทบกระทือนจิตใจของคนไทย ในทำนองว่า พาดพิงไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์ ระหว่างทำกิจกรรม ดิฉันข้อตั้งคำถามว่า นี่คือความตกต่ำของประเทศไทย ใช่หรือไม่ สมัยก่อนเราเห็นพาดหัวที่ยุยงปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง จนคนฆ่ากันเองได้แบบนี้ จากหนังสือพิมพ์ดาวสยาม หรือวิทยุยานเกราะ แต่ปัจจุบันไม่ใช่สื่อแล้วที่ทำแบบนี้ แต่กลับเป็นบุคคลระดับรัฐมนตรี ที่อยู่ในพรรครัฐบาล ดิฉันขอถามว่าการทำแบบนี้ ในฐานะที่ท่านเป็นคนรับผิดชอบข่าวบิดเบือน และการเผยแพร่วาทะเกลียดชัง สมควรหรือไม่ที่บุคคลระดับรัฐมนตรีจะทำแบบนี้ และการที่อยู่ๆ ดีโพสต์ว่ามีการจับกุมบุคคล โดยไม่ได้มีการบอกว่า ใช้อำนาจตามกฎหมายข้อใด ข้อหาอะไร เป็นใคร และจับไปไว้ที่ไหน บ้านเมืองนี้ยังมีขื่อมีแป อยู่หรือไม่ เราอยู่ในอยู่ยุคเผด็จการคสช. หรืออย่างไร" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันหลักการที่ว่า ประชาชน คือผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ เพื่อยืนยันหลักการที่ว่า ระบอบประชาธิปไตยต้องยึดมั่นเสรีภาพของประชาชน กิจกรรมเมื่อ วันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมาเป็นการแสดงออกของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ว่าพวกเขาไม่พอใจกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
เมื่อเวลา 08.08 น. วานนี้ (18ธ.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ว่า "จากการโพสต์ภาพอันมิบังควร และทำร้ายจิตใจคนไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ทางผมและทีมงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รีบดำเนินการเก็บหลักฐานทางสื่อออนไลน์ต่างๆ จนล่าสุดตอนนี้ทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งถ้าแถลงข่าวได้เมื่อใด ผมจะรีบแจ้งทันทีครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครทนได้ ผมก็เช่นกัน ขอต่อสู้อย่างที่สุดเพื่อปกป้องสถาบันฯ อันเป็นที่รักยิ่งของผองไทย"
ต่อมาเวลา 14.10 น. น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีการทำหน้าที่ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลฯว่า จากกรณีการจัดกิจกรรมการแสดงออกของประชาชน ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน แต่เรามีความกังวลภายหลังการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เนื่องจากมีความพยายาม ในการทำลายความน่าเชื่อถือ ของการชุมนุมรวมทั้งผู้เข้าร่วม ขณะที่นโยบายการจัดการข่าวปลอมของรัฐบาล ที่ตนโดนเจ้าหน้าที่จากสำนักนายกฯ ไปแจ้งความเอาผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหาบิดเบือนข้อความ "คำขวัญวันเด็ก" ของนายกฯ ซึ่งตนมองว่า เป็นเพียงเรื่องตลกนั้น ในทางกลับกัน ทางศูนย์จัดการเฟกนิวส์ ไม่ได้ดำเนินการข่าวปลอมของผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ตนได้ติดต่อโดยตรงไปยังนายพุทธิพงษ์ ในกรณี ที่เพจเดรัจฉานแฉ โพสต์ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมข้อความ ที่เป็นการพูดพางพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นข่าวปลอม 100% เพราะในวันนั้น มีทั้งสื่อมวลชนมืออาชีพ และมือสมัครเล่น รวมทั้งประชาชนบันทึกวิดีโอเอาไว้ สามารถไปเช็กดูได้ว่า ไม่มีคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นแม้แต่เพียงครึ่งคำ นายพุทธิพงษ์ ก็รับปากว่าจะจัดการให้ แต่จนถึงขณะนี้ โพสต์ดังกล่าวก็ยังคงอยู่ โดยไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด กลับไปจัดการข่าวอื่นอย่างการล้อเลียนคำขวัญนายกฯ
"ที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งคือ กรณีที่นายพุทธิพงษ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้รวบรวบพยานหลักฐาน นำไปสู่การจับกุมผู้โพสต์ภาพตามที่คุณพุทธิพงษ์ บอกว่าเป็นการกระทบกระทือนจิตใจของคนไทย ในทำนองว่า พาดพิงไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์ ระหว่างทำกิจกรรม ดิฉันข้อตั้งคำถามว่า นี่คือความตกต่ำของประเทศไทย ใช่หรือไม่ สมัยก่อนเราเห็นพาดหัวที่ยุยงปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง จนคนฆ่ากันเองได้แบบนี้ จากหนังสือพิมพ์ดาวสยาม หรือวิทยุยานเกราะ แต่ปัจจุบันไม่ใช่สื่อแล้วที่ทำแบบนี้ แต่กลับเป็นบุคคลระดับรัฐมนตรี ที่อยู่ในพรรครัฐบาล ดิฉันขอถามว่าการทำแบบนี้ ในฐานะที่ท่านเป็นคนรับผิดชอบข่าวบิดเบือน และการเผยแพร่วาทะเกลียดชัง สมควรหรือไม่ที่บุคคลระดับรัฐมนตรีจะทำแบบนี้ และการที่อยู่ๆ ดีโพสต์ว่ามีการจับกุมบุคคล โดยไม่ได้มีการบอกว่า ใช้อำนาจตามกฎหมายข้อใด ข้อหาอะไร เป็นใคร และจับไปไว้ที่ไหน บ้านเมืองนี้ยังมีขื่อมีแป อยู่หรือไม่ เราอยู่ในอยู่ยุคเผด็จการคสช. หรืออย่างไร" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันหลักการที่ว่า ประชาชน คือผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ เพื่อยืนยันหลักการที่ว่า ระบอบประชาธิปไตยต้องยึดมั่นเสรีภาพของประชาชน กิจกรรมเมื่อ วันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมาเป็นการแสดงออกของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ว่าพวกเขาไม่พอใจกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
