xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** เฟกนิวส์เฟื่องฟู “ช่อ” ตัดต่อคำขวัญวันเด็กนายกฯ “เกศปรียา” ตีปี๊บข่าวปลอมขึ้นภาษีผ้าอนามัย

ได้มาอีก 1 คดี “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เมื่อฝ่ายนิติกร สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ไปแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ให้เอาผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ หลังแสดงความคึกคะนอง ทวีตภาพตัดต่อคำขวัญวันเด็กประจำปี 2563 ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
คำขวัญตัวจริงของ “ลุงตู่” บอกว่า “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” แต่ในภาพที่ “ช่อ” เอามาทวีต เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม กลับเติมข้อความว่า “ และอย่าลืมไปสกายวอล์ก พรุ่งนี้” เ ข้าไปด้วย เพื่อเชิญชวนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ไปร่วมแฟลชม็อบ หน้าหอศิลป์ กทม. ในช่วงเย็นวันที่ 14 ธ.ค.
แม้ “ช่อ” จะออกตัวว่าไม่รู้ว่าใครทำ แต่ “ช่อ” เป็นเอามาทวีต ถ้าเป็นความผิด ก็ต้องถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดด้วย แถมยังเป็นการทวีตภาพตัดต่อโดยตรง ไม่ได้แชร์ลิงก์มาจากที่อื่น “หนูช่อ” คงปฏิเสธได้ยากว่าไม่ใช่ต้นตอของการเผยแพร่ การกระทำแบบนี้ ส่อว่าจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) ที่บอกว่า … “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”
หรือ มาตรา 14(2) ที่บอกว่า “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิด ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน”
พอรู้ข่าวว่าตัวเองถูกฟ้อง “ช่อ” ก็ทำเป็นขำกลบเกลื่อน บอกว่าภาพที่ตัวเองทวีตเป็นเพียงแค่การล้อเลียนคำขวัญวันเด็กของนายกฯ เท่านั้น ไม่ใช่การบิดเบือนข้อมูลแต่อย่างใด
แต่ “หนูช่อ” ลืมไปแล้วหรือเปล่า เมื่อสักเดือนก่อน “ช่อ” เคยเปิดที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณีการ์ตูนของบัญชา/คามิน ที่เคยตีพิมพ์ใน ผู้จัดการรายวัน 360 ล้อเลียนพรรคอนาคตใหม่ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับการประท้วงของม็อบฮ่องกง ซึ่ง “ช่อ” ได้เอะอะโวยวายว่า ภาพการ์ตูนนั้นเป็นข่าวปลอม บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้พรรคอนาคตใหม่เสียหาย เรียกร้ององค์กรสื่อรวมทั้งศูนย์ต่อต้านเฟกนิวส์ ให้เข้ามาจัดการ ทั้งที่นั่นเป็นแค่ภาพการ์ตูนล้อเลียน ที่คนดูแล้วได้อารมณ์ขันมากกว่าที่จะเชื่อตามนั้นจริงๆ
มาคราวนี้ “ช่อ”เจอเสียเอง โพสต์ภาพตัดต่อคำขวัญของนายกฯ กลับแก้ตัวว่าเป็นแค่การล้อเลียน ...ก็ว่ากันไป “ช่อ” ไปแก้ต่างในศาลเอาเองก็แล้วกัน….
นี่ก็อีกราย “เกศปรียา แก้วแสนเมือง” โฆษกพรรคเพื่อชาติ หนึ่งในพรรคแตกแบงก์ร้อย ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งถ้าจะตรวจสอบรัฐบาล ตามหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ไม่รู้ว่า โฆษกสาวหน้าหวานหมดมุกจะด่ารัฐบาลหรือไรไม่ทราบ ถึงไปงัดเอาข้อมูลจากรายการ “มองโลกมองไทย” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “วอยซ์ทีวี” ของตระกูลชินวัตร ดำเนินรายการโดย นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข, นายวิโรจน์ อาลี และ นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ ในหัวข้อ “ทำไมไทยยังเก็บภาษีจากผ้าอนามัย” ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 เกลอ คุยกันเป็นคุ้งเป็นแคว ว่า ครม.ตัดสินใจให้ผ้าอนามัย
เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เพื่อเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 40% และไม่ควบคุมราคา ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ทำให้สุภาพสตรีผู้มีรายได้น้อยต้องได้รับความเดือดร้อน
“เกศปรียา”ก็เอามาขยายความต่อ แถลงข่าวด่า “รัฐบาลลุงตู่” เป็นฉากๆ “คุยนักหนาว่าตนเองอ่านหนังสือเยอะ รู้ทุกเรื่อง แต่เรื่องแค่สิทธิพื้นฐานของประชากรสตรี ทำไมถึงไม่ทราบ ... ผ้าอนามัยไม่ใช่สินค้าเครื่องสำอาง หรือสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์หามาใช้เพื่อสนองความต้องการทางใจ แต่เป็นสินค้าที่สนองความต้องการทางกายภาพของเพศหญิง ผู้หญิงทั่วโลกไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเกิดมาโดยไม่มีมดลูก และประจำเดือนก็เป็นสิ่งที่ติดมาพร้อมการมีมดลูก” ... ว่าไปนั่น
บรรดา”ซอมบี้โซเชียลฯ” เครือข่ายไม่เอาลุงตู่ ก็ขยายความต่อกันเป็นทอดๆ จนเรื่องมาโป๊ะแตก เมื่อ “พชร อนันตศิลป์” อธิบดีกรมสรรพสามิต ออกมาแถลงว่า กรมสรรพสามิตไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยตามที่เป็นข่าว และไม่เคยมีอยู่ในพิกัดอัตราภาษี ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ก็ไม่เคยได้รับรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ไปตรวจจับโรงงานผ้าอนามัยเสียภาษีไม่ถูกต้อง ปัจจุบันผ้าอนามัยเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เท่านั้น ไม่ได้เสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย หรือมีเพดานการจัดเก็บภาษี 40% ตามที่เป็นข่าว และในความเป็นจริง ผ้าอนามัยถูกกำหนดเป็นสินค้าควบคุมมาตั้งแต่ปี 2551 แล้ว ปัจจุบันก็ยังเป็นสินค้าควบคุมอยู่เหมือนเดิม ...
ก็เป็นอันว่างานเข้าไปตามระเบียบ เพราะสิ่งที่ “เกศปรียา” แถลงไปเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.นั้น มันเข้าลักษณะ “ข่าปลอม” ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เต็มๆ ชัดเจนกว่า ทวิตของ “ช่อ พรรณิการ์” เสียอีก

** ธนาธร สั่งขับ 4 ส.ส.งูเห่า แถมขู่ซ้ำจะต้องกลายเป็น"งูเห่าเน่า" เพราะไม่มีพรรคไหนกล้ารับ แต่ 4 ส.ส.กลัวซะที่ไหน!!
ภาพข่าวประชาชนล้นหลาม มาร่วมการชุมนุม "แฟลชม็อบ" ที่สี่แยกปทุมวัน เมื่อเย็นวันเสาร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำเอาพลพรรคแกนนำพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรค "ฮึกเหิม" เป็นอย่างยิ่ง เพราะเชื่อว่าบรรดา "ติ่งสีส้ม" พร้อมที่จะออกมาปกป้องตัวเขา และพรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังถูกยื่นยุบพรรค
เพื่อเป็นการ "ตีเหล็กกำลังร้อน" ธนาธร ก็สั่งเรียกประชุม ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค เพื่อลงมติ "ขับ 4 ส.ส.งูเห่า" ออกจากพรรค ซึ่งที่ประชุมก็ขานรับโดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขับ 4 ส.ส.พ้นพรรค... โทษฐานที่โหวตสวนมติพรรคไปสนับสนุน ร่าง พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ และยังไปนั่งเป็นองค์ประชุมในระหว่างการโหวตตั้ง กมธ.พิจารณาผลกระทบจากการใช้ มาตรา 44 จนสุดท้ายทำให้การตั้ง “กมธ.เช็กบิล ม.44” ตกไป
ส.ส. 4 คน ที่ถูกขับพ้นพรรคในครั้งนี้ ก็มี ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ , จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี , พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และ กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ... ซึ่งจะต้องหาพรรคใหม่สังกัดให้ได้ภายใน 30 วัน เพื่อรักษาสถานภาพส.ส.
ถือเป็นการ "โชว์พาว" ของธนาธร ให้สมาชิกพรรคและผู้สนับสนุน เห็นว่า ใครที่ไม่เชื่อฟังเขาก็จะพบจุดจบแบบนี้ !! แถมยังออกมาให้ข่าวในเชิงข่มขู่ ว่า 4 ส.ส.นี้จะกลายเป็น "งูเห่าเน่า" เพราะไม่มีใครกล้ารับเข้าพรรค เนื่องจากจะไปกระทบ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เดิมของพรรคที่มีอยู่ และยังเป็นการเปลือยล่อนจ้อนให้สังคมเห็นว่า พรรคใดแจกกล้วยเลี้ยงงูเห่า
เรื่องกระทบปาร์ตี้ลิสต์นั้น มีการยกเหตุผลพร้อมตัวเลขมาอ้างอิงว่า พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส. 80 คน เมื่อไล่ออกไป 4 คนก็จะเหลือ 76 คน แต่หลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ตามคะแนนรวมแล้ว พรรคจะมี "ส.ส.พึงมี" ได้ 81 คน ... ส.ส. 4 คนที่ถูกไล่ออกทั้งหมด เป็น ส.ส.ระบบเขต มีคะแนนรวมกันประมาณ 1.6 แสนคะแนน ...ปัญหาทางข้อกฎหมายอยู่ที่ว่า คะแนนจำนวนนี้จะไปตามส.ส. หรือ ไม่ตามไปด้วย ...ถ้าคะแนนไม่ไปด้วย เท่ากับว่าพรรคอนาคตใหม่สามารถเลื่อนบัญชีรายชื่อถัดไปขึ้นมาเป็น ส.ส.ให้เต็มจำนวนได้ ...
แต่ถ้าคะแนนตามไปกับส.ส.ด้วย คะแนนที่เหลือของพรรคอนาคตใหม่ จะคำนวณส.ส.พึงมีได้ 78 คน แต่ตอนนี้พรรคมี ส.ส. 76 คน จึงสามารถเลื่อนบัญชีลำดับถัดไปขึ้นมาเป็น ส.ส.ได้ 2 คน ... ขณะที่พรรคการเมืองที่รับ ส.ส. 4 คนนี้ไป ก็จะทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่มีอยู่เดิมต้องหลุดไป ...จึงเชื่อว่าไม่มีพรรคใดกล้ารับ ดังนั้น ส.ส.งูเห่า ก็จะเป็น "งูเห่าเน่า" ...
ปัญหาแง่มุมกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการนับคะแนน และการเปลี่ยนแปลงของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ นี้ "ผู้รู้จาก กกต." อธิบายว่า การคิดคำนวณ "ส.ส.พึงมี" จะคำนวณกันครั้งเดียวหลังการเลือกตั้ง... กรณีที่จะทำให้ต้องมีการคิดคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์กันใหม่ ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่เกิดการทุจริต ... ยกตัวอย่างสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ กกต.ชัก "ใบเหลือง" ให้ "กรุงศรีวิไล สุทินเผือก" ส.ส.สมุทรปราการ ขณะนี้เรื่องอยู่ที่ศาล ถ้าศาลตัดสินว่า "กรุงศรีวิไล" ผิดจริง ก็มีการเลือกตั้งใหม่ คะแนนที่แต่ละพรรคได้ก็จะถูกนำมาคิดคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์กันใหม่ ... แต่ถ้าศาลยกคำร้อง ก็ไม่ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ลำดับส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่มีอยู่เดิมก็ไม่ขยับ
ปัญหาปาร์ตี้ลิสต์ จึงเป็นปัญหาที่รอเวลาการตีความ...การที่ ส.ส.เขต ถูกขับออกจากพรรคแล้วไปหาพรรคใหม่สังกัดได้ ภายใน 30 วัน จึงไม่มีผลกระทบกับส.ส.เดิม ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ระบบเขต หรือ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์
ดังนั้น ส.ส.ทั้ง 4 คน จะไปสังกัดพรรคใดก็ได้ แม้แต่พรรคที่ปัจจุบันไม่มีส.ส.เลย ก็ได้
ขณะนี้ มีกระแสข่าวว่า "ส.ส.ศรีนวล บุญลือ" จะเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ของ"เสี่ยหนู "อนุทิน ชาญวีรกูล" ส่วนอีก 3 คนอาจจะไปสังกัด "พรรคเล็ก" ที่อยู่ในกลุ่มฝ่ายค้านอิสระ ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ...ซึ่งตอนนี้ "ส.ส.เต้" มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ติดแฮชแท็กแล้วว่า..." #ยินดีต้อนรับ 4 ส.ส. # พรรคไทยศรีวิไลย์
-----------
รูป –พรรณิการ์ วานิช -เกศปรียา แก้วแสนเมือง
- ศรีนวล บุญลือ - จารึก ศรีอ่อน - พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา - กวินนาถ ตาคีย์
กำลังโหลดความคิดเห็น