พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ก่อนประทับพระราชยานพุดตานทอง พระราชินี-กรมหลวงราชสาริณีฯ ทรงพระดำเนินคู่เคียง ยาตราริ้วขบวนราบไปยังพระบรมมหาราชวัง เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วคุ้งน้ำเจ้าพระยา-เกาะรัตนโกสินทร์
วานนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.02 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ สวมสายสร้อยจุลจอมเกล้า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังเรือนแพที่ประทับรับรองบริเวณท่าวาสุกรี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมาลาเส้าสูง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินไปยังท่าวาสุกรี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และประชาชน เฝ้าฯรับเสด็จ
จากนั้น พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือและกำลังพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์แล้ว พ.ท.สมชาย กาญจนมณี ถวายพระแสงขรรค์ชัยศรี และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา
เวลา 16.25 น.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่และกลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล ซึ่งหัวขบวนเรืออยู่บริเวณสะพานพระราม 8 และท้ายขบวนเรืออยู่ตรงบริเวณสะพานธนบุรี ตลอดระยะทางประใช้บทเห่เรือทั้งหมด 3 องก์ด้วยกันกึกก้องไปทั่วลำน้ำ ประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี (บทใหม่), บทชมเรือขบวน และบทชมวัง
โดยคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้จัดเรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ รวมถึงเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ โดยหัวขบวนของเรือพระราชพิธีอยู่บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย และท้ายขบวนอยู่บริเวณโรงแรมริเวอร์ไซด์ก่อนถึงสะพานกรุงธน ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
การนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งสันติชัยปราการ สวนสันติชัยปราการ
ต่อมาขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ และเสด็จฯ ไปยังพลับพลาที่ประทับรับรอง
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ออกจากพลับพลาที่ประทับรับรอง เสด็จฯไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ณ ที่นั้น องคมนตรี, นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าฯ รับเสด็จ แล้วเสด็จฯไปประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี
เวลา 17.51น.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยาตราริ้วขบวนราบไปยังพระบรมมหาราชวัง มีพระราชยานถมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ นำริ้วขบวน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฉลองพระองค์ราชองครักษ์ประจำพระองค์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในฉลองพระองค์ราชองครักษ์ประจำพระองค์ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบในฐานะราชองครักษ์ประจำพระองค์คู่เคียงพระราชยาน ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
ขณะที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณสรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จไปประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระบรมมหาราชวัง ทรงรอรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท
โดยเส้นทางยาตราริ้วขบวนราบ ที่มี พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้อำนวยการริ้วขบวน ได้ออกจากท่าราชวรดิฐ มาตามถนนมหาราชจากนั้น เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวา เข้าพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี เพื่อไปเทียบยังเกยหน้าพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ใช้เวลาในการยาตราขบวนประมาณ 30 นาที
เมื่อพระราชยานพุดตานทอง เทียบเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอิริยาบถที่พระที่นั่งราชกรัณยสภา ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ออกจากพระที่นั่งราชกรัณยสภา เสด็จฯไปประทับรถยนต์ พร้อมด้วยรถยนต์พระประเทียบอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ นำรถยนต์พระที่นั่งจากพระบรมมหาราชวัง เสด็จฯกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรวมตลอดทั้งวันของงานพระราชพิธีเสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค สองฝากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขบวนเรือลอยล่องผ่านไปตามชลวิถีประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่าง ต่างประดับประดาตกแต่งอาคารบ้านเรือนของตัวเองด้วยผ้าแพรสีเหลือง พร้อมประดับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี และขณะที่ขบวนเรือพระที่นั่งยาตราผ่าน พสกนิกรที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องคุ้งน้ำเจ้าพระยา พร้อมโบกธงตราสัญลักษณ์และธงปรมาภิไธยพลิ้วไสวอย่างสวยงาม เฉกเช่นกับพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯรับเสด็จ บริเวณ ถนนท่ามหาราช เรื่อยไปจนถึงถนนหน้าพระลาน อันเป็นเส้นทางยาตราริ้วขบวนราบ 2 ฝากถนนล้วนเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรจากทั่วสารทิศ ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้าสีเหลืองโบกธงตราสัญลักษณ์ และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องบริเวณ
วานนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.02 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ สวมสายสร้อยจุลจอมเกล้า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังเรือนแพที่ประทับรับรองบริเวณท่าวาสุกรี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมาลาเส้าสูง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินไปยังท่าวาสุกรี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และประชาชน เฝ้าฯรับเสด็จ
จากนั้น พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือและกำลังพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์แล้ว พ.ท.สมชาย กาญจนมณี ถวายพระแสงขรรค์ชัยศรี และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา
เวลา 16.25 น.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่และกลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล ซึ่งหัวขบวนเรืออยู่บริเวณสะพานพระราม 8 และท้ายขบวนเรืออยู่ตรงบริเวณสะพานธนบุรี ตลอดระยะทางประใช้บทเห่เรือทั้งหมด 3 องก์ด้วยกันกึกก้องไปทั่วลำน้ำ ประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี (บทใหม่), บทชมเรือขบวน และบทชมวัง
โดยคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้จัดเรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ รวมถึงเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ โดยหัวขบวนของเรือพระราชพิธีอยู่บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย และท้ายขบวนอยู่บริเวณโรงแรมริเวอร์ไซด์ก่อนถึงสะพานกรุงธน ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
การนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งสันติชัยปราการ สวนสันติชัยปราการ
ต่อมาขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ และเสด็จฯ ไปยังพลับพลาที่ประทับรับรอง
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ออกจากพลับพลาที่ประทับรับรอง เสด็จฯไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ณ ที่นั้น องคมนตรี, นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าฯ รับเสด็จ แล้วเสด็จฯไปประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี
เวลา 17.51น.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยาตราริ้วขบวนราบไปยังพระบรมมหาราชวัง มีพระราชยานถมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ นำริ้วขบวน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฉลองพระองค์ราชองครักษ์ประจำพระองค์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในฉลองพระองค์ราชองครักษ์ประจำพระองค์ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบในฐานะราชองครักษ์ประจำพระองค์คู่เคียงพระราชยาน ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
ขณะที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณสรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จไปประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระบรมมหาราชวัง ทรงรอรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท
โดยเส้นทางยาตราริ้วขบวนราบ ที่มี พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้อำนวยการริ้วขบวน ได้ออกจากท่าราชวรดิฐ มาตามถนนมหาราชจากนั้น เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวา เข้าพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี เพื่อไปเทียบยังเกยหน้าพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ใช้เวลาในการยาตราขบวนประมาณ 30 นาที
เมื่อพระราชยานพุดตานทอง เทียบเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอิริยาบถที่พระที่นั่งราชกรัณยสภา ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ออกจากพระที่นั่งราชกรัณยสภา เสด็จฯไปประทับรถยนต์ พร้อมด้วยรถยนต์พระประเทียบอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ นำรถยนต์พระที่นั่งจากพระบรมมหาราชวัง เสด็จฯกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรวมตลอดทั้งวันของงานพระราชพิธีเสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค สองฝากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขบวนเรือลอยล่องผ่านไปตามชลวิถีประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่าง ต่างประดับประดาตกแต่งอาคารบ้านเรือนของตัวเองด้วยผ้าแพรสีเหลือง พร้อมประดับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี และขณะที่ขบวนเรือพระที่นั่งยาตราผ่าน พสกนิกรที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องคุ้งน้ำเจ้าพระยา พร้อมโบกธงตราสัญลักษณ์และธงปรมาภิไธยพลิ้วไสวอย่างสวยงาม เฉกเช่นกับพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯรับเสด็จ บริเวณ ถนนท่ามหาราช เรื่อยไปจนถึงถนนหน้าพระลาน อันเป็นเส้นทางยาตราริ้วขบวนราบ 2 ฝากถนนล้วนเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรจากทั่วสารทิศ ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้าสีเหลืองโบกธงตราสัญลักษณ์ และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องบริเวณ