xs
xsm
sm
md
lg

ปลื้มปีติ !ในหลวง ฉลองพระองค์เครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ พระมาลาเส้าสูง ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ สวมสายสร้อยจุลจอมเกล้า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จฯ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วคุ้งน้ำเจ้าพระยา

วันนี้ (12 ธ.ค.) เวลา เวลา 16.02 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ สวมสายสร้อยจุลจอมเกล้า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังเรือนแพที่ประทับรับรองบริเวณท่าวาสุกรี โดย นาวาเอกธรรมรงค์ สุวรรณกูฏ เป็นผู้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ ขึ้นรถยนต์พระประเทียบ นำรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังท่าวาสุกรี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

เมื่อรถยนต์พระที่นั่งถึงยังท่าวาสุกรี นาวาเอกธรรมรงค์ สุวรรณกูฏ อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ อันเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชราสนะ คือ ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ขึ้นในปี พ.ศ.2506 โอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ โดยทรงบรรจุดวงพระชะตาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในองค์พระชัย และทรงประกอบพิธีสมโภชในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2506 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม นับเป็นการจัดสร้างพระชัยประจำรัชกาลตรงตามตำรับและพิธีที่มีมาแต่โบราณทุกประการ ไปประดิษฐานในบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ที่สะพานฉนวนประจำท่าวาสุกรี เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเคลื่อนออกไป เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์เข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าวาสุกรี เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เข้าเทียบเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมาลาเส้าสูง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินไปยังท่าวาสุกรี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายไสลเกษ วัฒนพันธ์ุ ประธานศาลฏีกา เฝ้าฯรับเสด็จ

พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือและกำลังพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์แล้ว พันโท สมชาย กาญจนมณี ถวายพระแสงขรรค์ชัยศรี และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา

ต่อมา พล.ร.อ.สมชาย ณ บางช้าง ผู้ควบคุมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานบัญชีกำลังพลประจำเรือ นาวาเอก เกษม เอี่ยมสุพรรณ นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

เวลา 16.25 น.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่และกลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล ซึ่งหัวขบวนเรืออยู่บริเวณสะพานพระราม 8 และท้ายขบวนเรืออยู่ตรงบริเวณสะพานธนบุรี ตลอดระยะทางประใช้บทเห่เรือทั้งหมด 3 องก์ด้วยกันกึกก้องไปทั่วลำน้ำ ประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี(บทใหม่) บทชมเรือขบวน และบทชมวัง ประพันธ์ โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย

โดยคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้จัดเรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ รวมถึงเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ โดยหัวขบวนของเรือพระราชพิธีอยู่บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทยและท้ายขบวนอยู่บริเวณโรงแรมริเวอร์ไซด์ก่อนถึงสะพานกรุงธน ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรการจัดรูปขบวนเรือ โดยใช้บทเห่เรือทั้งหมด 3 องก์ด้วยกันกึกก้องไปทั่วลำน้ำ ประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี(บทใหม่) บทชมเรือขบวน และบทชมวัง ประพันธ์ โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย สำหรับขบวนเรือเป็นการจัดตามโบราณราชปนะเพณีแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ดังนี้ ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่ง พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นั่งเรือลำนี้ เพราะเรือแตงโมเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน ,ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าซึ่ง พล.อ.ณัฐ อินทร์เจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม นั่งประจำเรือ และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งเรือทองบ้าบิ่น ซึ่งเรือทั้ง2ลำเป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก และริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งสิ้น 52 ลำ

ต่อมาเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ นาวาเอกธรรมรงค์ สุวรรณกูฎ อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 จากบุษกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ไปประดิษฐานบนพระราชยานถม เตรียมเข้าริ้วขบวนราบยาตราไปยังพระบรมมหาราชวัง จากนั้นเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเคลื่อนออกไป ขณะที่เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จะเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณารายงาน เสด็จฯ ไปยังพลับพลาที่ประทับรับรอง

ต่อมาเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์เข้าเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ที่สะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ แล้วตามเสด็จไปเฝ้าฯ ณ พลับพลาที่ประทับรับรอง

การนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งสันติชัยปราการ สวนสันติชัยปราการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่เรือพระที่นั่งยาตราผ่านประชาชนต่างสวมใส่เสื้อเหลือง ถือธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และธงพระปรมาภิไธย พัดโบกสไว พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วคุ้งน้ำเจ้าพระยา และเมื่อเรือพระที่นั่งยาตราผ่าน นับเป็นภาพแห่งความประทับใจที่ได้ถูกจารึกไว้ในบรรณพิภพอีกครั้ง ถึงความจงรักภักดี และความเทิดทูนอย่างสุดหัวใจ ที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมาโดยตลอด

ขณะเดียวกันในช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักพระราชวังและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆจัดตกแต่งสะพานฉนวนประจำท่าวาสุกรี ท่าราชวรดิฐ และบริเวณท้องน้ำเจ้าพระยาซึ่งเปนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพระยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ตั้งบุษบกอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ ๙ เทียบสะพานฉนวนท่าน้ำประจำท่าวาสุกรี เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ทอดบัลลังก์กัญญา เป็นเรือพระที่นั่ง เรือพระที่นั่งนารายร์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ ทอดบัลลังก์กัญญาเป็นเรือพระที่นั่งรอง เทียบที่สะพานฉนวนประจำท่าถัดไป

ส่วนช่วงเช้ากองทัพเรือได้จัดพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือพระราชพิธี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตรา ทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าหน้าที่และฝีพายเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ


































กำลังโหลดความคิดเห็น