ตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง แทบไม่มีใครพูดถึงการปฏิรูปตำรวจแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เคยแสดงท่าทีขึงขัง จะปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง ในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้ประชาชนมีความหวัง แต่สุดท้ายต้องสิ้นหวัง
การปฏิรูปตำรวจถูกจุดชนวนขึ้นอีกครั้ง โดยนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หยิบยกขึ้นมาอภิปรายในสภาฯ เพราะเห็นว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงไม่เป็นธรรม โดยยังมีการวิ่งเต้น ใช้เส้นสาย และเด็กนาย ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจมปลักอยู่ในวงจรอุบาทว์
การปฏิรูปตำรวจ เป็นประเด็นสำคัญที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้อง ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะยึดอำนาจ โดยโค่นล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเสียอีก และกระแสเรียกร้องที่ดังก้องทั่วประเทศ กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตั้งคณะกรรมการหลายชุดขึ้นมาศึกษา เพื่อร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจ
การศึกษาเพื่อวางแนวทางปฏิรูปตำรวจเสียเวลาเป็นปี เสียเงินงบประมาณจำนวนไม่น้อย ทั้งเบี้ยประชุม ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ทั้งค่าเอกสาร ก่อนจะได้ร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจ ซึ่งเสร็จสิ้นก่อน คสช.จะสลายอำนาจ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะหมดวาระการเป็นผู้นำประเทศตาม คสช.
แต่ร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจก็ถูกเตะถ่วง ไม่ถูกนำเข้าบรรจุสู่วาระการพิจารณาของรัฐสภา โดยพล.อ.ประยุทธ์ประกาศว่า การปฏิรูปตำรวจจะปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการ แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นผู้นำ ไม่มีการพูดถึงการปฏิรูปตำรวจอีกเลย
ความจำเป็นในการปฏิรูปตำรวจมีอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่ยังเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจ แต่พล.อ.ประยุทธ์ทำเป็นหูทวนลม เพราะไม่มีความตั้งใจปฏิรูปตำรวจตั้งแต่แรก
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีข่าวฉาวโฉ่เกี่ยวกับพฤติกรรมตำรวจเกิดขึ้นอย่างถี่ยิบ ทั้งการยัดยาบ้าคนขับรถบรรทุกสิบล้อ การกรีดยางรถขนพริกหลังจากมีปากเสียงกับคนขับ
พฤติกรรมนายตำรวจกร่าง ชักปืนข่มขู่ตำรวจอาสาย่านจังหวัดสมุทรปราการ หรือกรณีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจังหวัดนครสวรรค์ รัวปืนขึ้นฟ้ากลางสะพานไทย-ญี่ปุ่น ถนนพระราม 4 ข่มขู่และทำร้ายคนขับรถจักรยานยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ
ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยกู้ภัยที่กำลังให้ความช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บหนักจากอุบัติเหตุ และยังลักขโมยกล้องติดรถของหน่วยกู้ภัย เพื่อทำลายหลักฐานการกระทำความผิดของตัวเอง
และกรณีตำรวจยศพ.ต.ท.ในจังหวัดชลบุรีที่เมากร่าง อวดเบ่งประกาศก้อง “พี่เป็นตำรวจ” ตบหน่วยกู้ภัยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่หลังเกิดอุบัติเหตุ
พฤติกรรมฉาวโฉ่ของตำรวจ แม้จะถูกสื่อมวลชนตีแผ่เป็นข่าวใหญ่ เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน แต่สุดท้าย ไม่มีตำรวจคนใดถูกลงโทษ แม้หลายคดีจะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ที่ไม่อาจยอมความได้
ความผิดที่ตำรวจเป็นผู้กระทำ มีภาพบันทึกเป็นหลักฐาน ถ้าเป็นประชาชนทั่วไป คงถูกดำเนินคดีอ่วม เจอไม่รู้กี่ข้อหา แต่เพราะเป็นตำรวจ จึงอยู่เหนือกฎหมาย โดยใช้ระบบพวกพ้อง ระบบอุปถัมภ์ช่วยเหลือปกป้องกันเอง จนไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ
ปัญหาสังคมที่วุ่นวาย ไร้ระเบียบ หาความเป็นธรรมไม่ได้ ขณะที่คดีอาชญากรรมเต็มบ้านเต็มเมือง ต้นตอสำคัญส่วนหนึ่งเกิดจากตำรวจ
บ่อนการพนันที่เปิดกันโจ๋งครึ่มทั่วประเทศ สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา และกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชน ยาเสพติด ปัญหาการทะเลาะวิวาท เบื้องหลังที่แหล่งอบายมุขเหล่านี้ไม่ถูกปราบปราม เกิดจากการรับส่วย
ล่าสุด บ่อนการพนันใหญ่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ซึ่งถูกฝ่ายปกครองบุกทลาย แม้จะมีการสั่งย้าย 4 เสือสภ.บ้านนา แต่คงไม่มีนายตำรวจคนใดถูกลงโทษ และเมื่อข่าวเงียบหาย 4 เสือสภ.บ้านนาคงถูกย้ายกลับพื้นที่เดิม
กระบวนการยุติธรรมต้นน้ำฟอนเฟะมายาวนานแล้ว แต่ไม่เคยมีผู้นำประเทศคนใดแก้ไข ไม่มีรัฐบาลชุดใดใส่ใจผ่าตัดหรือปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง
มีแต่ผู้นำที่คุยโม้ หรือสร้างภาพไปวันๆ เท่านั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติแทบจะกลายเป็นรัฐอิสระที่อยู่นอกเหนือการควบคุม และแม้พล.อ.ประยุทธ์จะคุมตำรวจโดยตรง แต่กว่า 5 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครได้ยินพล.อ.ประยุทธ์ตำหนิหรือโวยวายพฤติกรรมตำรวจสักครั้ง
กระแสปฏิรูปตำรวจดับวูบลงแล้ว ด้วยฝีมือของพล.อ.ประยุทธ์ และทุกคนทำใจกันแล้วว่า ตราบใดที่พล.อประยุทธ์ยังมีอำนาจ ชาตินี้คงไม่มีการปฏิรูปตำรวจ
และถ้าตำรวจไม่ถูกปฏิรูป อย่าหวังว่า ปัญหาสังคมที่เสื่อมทรุดจะได้รับการแก้ไข อย่าเรียกหาความยุติธรรมในประเทศนี้ อย่าหวังว่าบ้านเมืองจะสงบสุข มีระเบียบวินัย ไร้ส่วย ไร้การทุจริต
นายเทพไทกำลังปลุกผีการปฏิรูปตำรวจรอบใหม่ โดยเตรียมตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ถึงปัญหาตำรวจ แต่กระทู้ของนายเทพไทย คงไม่อาจนำไปสู่การขับเคลื่อนปฏิรูปได้
เพราะตราบใดที่พล.อ.ประยุทธ์ยังกุมอำนาจ ตำรวจจะอยู่กันอย่างสบาย จะรับส่วย จะเมากร่างขับรถหรูป้ายแดงไปชนใคร จะชักปืนยิงที่ไหน ตบหัวใครเล่น จะยัดข้อหาชาวบ้าน ไม่ต้องกลัวความผิดใด
ประชาชนต้องทนทุกข์กับพฤติกรรมตำรวจขนาดไหน อย่าหวังว่า จะได้รับความสนใจ เพราะสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์สนใจมีเพียงปัญหาความอยู่รอดของตัวเองเท่านั้น