ความไม่แน่นอน-คือ-ความแน่นอน และความแน่นอน-คือ-ความไม่แน่นอน! ทว่า...ที่แน่นอนและประจักษ์ต่อชาวไทยทั้งชาติแล้ว คือผลพวงจากผู้นำรัฐประหารควบนายกฯ “บิ๊กตู่” ที่ใช้อำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จมาตรา 44 นานกว่า 5 ปีได้ทำ “ผิดคำพูด” หรือ “ผิดสัญญาประชาคม” ที่ “จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง!”
เพราะ “นายกฯ บิ๊กตู่” กลับจัดให้มีการเลือกตั้ง โดยไม่มีการปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญๆ ที่จะมีผลทำให้ชาติและประชาชนมีคุณภาพดีขึ้น โดยเฉพาะ “นายกฯ บิ๊กตู่” ไม่ได้ปฏิรูปการเมืองไทย เพื่อส่งเสริมให้ “คนดี” ได้บริหารชาติ และกีดกัน “คนชั่ว” มิให้มีอำนาจ สร้างความเดือดร้อนแก่ชาติและประชาชน
การทำผิดอย่างมหันต์ดังกล่าวของ “นายกฯ บิ๊กตู่” ได้ส่งผลร้ายต่อการเมืองไทยอย่างใหญ่หลวงด้วยการทำให้ “นักการเมืองไทย” ส่วนใหญ่ ทั้งในสนามเลือกตั้ง-รัฐสภา-รัฐบาล ฯลฯ เต็มไปด้วย “นักการเมืองสามานย์” ที่ด้อยคุณภาพกับไร้คุณธรรม เข้ามาแสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์ชาติอย่างมโหฬารให้กับตนเองและพวกพ้องเป็นหลัก
แถม “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังสืบทอดอำนาจอย่างไร้คุณภาพ ชนิดไม่คำนึงถึงเรื่องควรหรือไม่ควร-ดีหรือเลว-ถูกหรือผิดอีกด้วย โดยการ “ดูดนักการเมืองสามานย์” กลุ่มใหญ่ ซึ่งเคยร่วมขบวนการโกงชาติในยุค “บิ๊กเหลี่ยม” เรืองอำนาจ มาเข้าพรรคหนุน “บิ๊กตู่” ให้เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง”
“นายกฯ บิ๊กตู่” ที่ประกาศเป็นรัฐบาลปฏิรูปชาติ จึงกลายเป็นรัฐบาลที่นำการเมืองของชาติไทย “ถอยหลังลงคลองน้ำเน่า” และกำลังจะ “ถอยกรูดลงทะเลขยะ” อีกด้วย...
ดังจะเห็นได้จากการเลือกตั้งที่ยังคงไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม แม้ “นายกฯ บิ๊กตู่” จะใช้อำนาจรัฐกับกฎกติกาผสมกับกฎหมายมากมาย ที่เอื้อประโยชน์ให้กับการสืบทอดอำนาจในครั้งนี้ แต่ด้วยผลงาน “บิ๊กตู่” ที่แก้แต่ปัญหาทั่วไปตามระบบราชการ มิได้แก้ต้นเหตุปัญหาชาติในหลายมิติสำคัญ เช่น
“นายกฯ บิ๊กตู่” มิได้ปราบปรามการโกงชาติเท่าที่ควร มิได้ลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ อย่างจริงจัง โดยเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจให้กระจายรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อยและคนจนอย่างเป็นธรรม แต่กลับไปเอื้อประโยชน์สารพัดให้กลุ่มทุนใหญ่ ทั้งในและนอกประเทศเป็นหลัก
ทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ถ่างกว้างมากขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง จนปัญหา “รวยกระจุก จนกระจาย” ของสังคมไทยติดอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว...
เมื่อผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาชาติไม่เข้าตาประชาชน มีเพียงผลงานทั่วไปไม่ได้โดดเด่นเท่าที่ควรทำให้พรรคหนุน “นายกฯ บิ๊กตู่” ชนะเลือกตั้งพรรคเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” ด้วยคะแนนเสียง ส.ส.ในสภาฯ แบบปริ่มน้ำ “รัฐนาวาแป๊ะตู่” จึงลอยลำอยู่ในการเมืองน้ำเน่า ด้วยสภาพจะจมมิจมแหล่ดังที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้
เมื่อ “รัฐบาลเป็ดง่อยบิ๊กตู่” ไร้เสถียรภาพอันมั่นคง จึงส่งผลต่อการเมืองไทยให้เต็มไปด้วยการแย่งชิงและต่อรองตำแหน่งและผลประโยชน์กันอุตลุด จนสังคม “นักการเมืองสามานย์” มีแต่เรื่องอันเลวร้าย ผุดโผล่ขึ้นมาเป็นข่าวอยู่ทุกวี่วัน ทั้งการเล่นพรรคเล่นพวกการซื้อขายเสียงของ “นักการเมืองโสเภณี” การหักหลังกันเองในหมู่ “นักการเมือง” สุดท้าย...ก็หนีไม่พ้นที่จะเกิดการทุจริตโกงชาติตามมา ฯลฯ
เรียกว่า...ชาติและประชาชนไทยมีแต่ “เสียหาย” มากกว่าได้ประโยชน์จาก “นักการเมือง” ด้อยคุณภาพและไร้คุณธรรมที่สุมหัวกันอยู่ทั้งในสภาฯ กับรัฐบาล ยิ่ง “รัฐบาล” และ “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังอยู่ในสภาพเป็น “เป็ดง่อย” เยี่ยงนี้ยิ่งทำให้ชาติและประชาชนไร้ความหวัง...
เอ...แล้วรัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่” จะมีศักยภาพพอหรือไม่? ที่จะรับมือกับสงครามเศรษฐกิจระหว่าง “อินทรีทรัมป์” กับ “มังกรสี” ที่กำลังส่งผลให้เศรษฐกิจชาติต่างๆ ต้องชะลอ-ถดถอย-ตกต่ำลงเรื่อยๆ
รัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่” จะมีศักยภาพ ในการแก้ไขปัญหารายได้ทางเศรษฐกิจให้ผู้มีรายได้น้อยกับคนยากจนที่ในยามนี้ล้วนต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่รอดแบบ “หาเช้าไม่พอกินค่ำ” ได้หรือ? เพราะรัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังคงเอื้อประโยชน์มากมาย ให้กลุ่มทุนใหญ่ในและนอกประเทศเป็นหลักเช่นเดิม
ล่าสุด “นายกฯ เป็ดง่อยบิ๊กตู่” ที่เสียงปริ่มน้ำ ยังเกือบเอาตัวเองไม่รอดในการประชุมสภา ถึงขั้นต้องใช้ทั้ง “กล้วย” และผลประโยชน์อื่นๆ มาล่อ “งูเห่า” นับ “สิบตัว” ให้ออกมาชูหัวชูมือช่วยรัฐบาล เพื่อมิให้ฝ่ายค้านตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาคำสั่งของ “คสช.” ได้สำเร็จ
ถึงขนาดมีข่าวว่า “บิ๊กตู่” งัดกลยุทธ์ “ขู่” ดื้อๆ ว่า...ขืนยังยุ่งขิงกันแบบนี้อีกอาจจะมีการ “ปรับครม.” หรือ “ยึด” ...เอ๊ย... “ยุบสภา” เพราะ “ถ้าผมอยู่ไม่ได้...พวกเราก็อยู่ไม่ได้” นะเฟ้ย...!
แถม “นายกฯ บิ๊กตู่” เอ่ยปาก “ทวงสัญญา” กับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเปิดเผยว่า “...ผมถือว่าผมเป็นทหารเก่า ฉะนั้น ถือว่าสัญญาลูกผู้ชายสุภาพบุรุษสำคัญที่สุด...”
ในขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางคน ที่ในครั้งนี้ไปลงคะแนนเสียงร่วมกับฝ่ายค้าน ออกมาพูดถึงตนกับพวกกลุ่มที่ยกมือให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ ก็เพราะทรยศต่อนโยบายพรรคไม่ได้ แถมยังย้ำว่านักการเมืองถือสัญญาประชาคมฯ สำคัญกว่าสัญญาสุภาพบุรุษ (ว่ะ)...
เอ๊ะ...ไฉนไย “ทหารเก่าที่ผิดคำพูด” ถึงกล้าไปทวงสัญญา “นักการเมือง” ได้? ระวัง “บิ๊กตู่” จะโดนประชาชนทวงกลับเรื่อง “สัญญาประชาคม” เอานะ เพราะ “ทหารเก่าบิ๊กตู่” เคยประกาศปาวๆ เมื่อ 5 ปีก่อนโน่น คราทำรัฐประหารว่า “จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง”
“ทหารเก่าบิ๊กตู่” อ้างว่ายึดถือ “สัญญาลูกผู้ชายสุภาพบุรุษสำคัญที่สุด” ไฉนจนวันนี้ก็ยังไม่ทำตามคำพูดเลย... เฮ้อ... “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” นี่หว่า...?