ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำสั่งในคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ยื่นฟ้อง กกต.ทั้ง 7 คน ในความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. พ.ศ. 2560 มาตรา 69 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 , 89 ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ว่า ที่ประชุมกกต.ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่วันที่นายธนาธร ยื่นฟ้อง และไม่ได้มีความกังวลใดๆ เนื่องจากเห็นว่าในคำวินิจฉัยศาลรธน.คดีให้นายธนาธร สิ้นสภาพ ส.ส. มีการระบุไว้ชัดเจนว่า การส่งคำร้องของกกต. ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกกต. ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรธน. ผูกพันทุกองค์กร อีกทั้งประเด็นที่ศาลรธน. วินิจฉัย มาจากกรณีความปรากฏต่อกกต.
แต่กรณีที่นายธนาธร ร้องว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของกกต. ยังไต่สวนไม่เสร็จ เป็นเรื่องของการดำเนินคดีอาญา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งประเด็นนี้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนยังไต่สวนอยู่ หากดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะถ้าไม่ดำเนินการ กกต. ก็จะมีความผิดตาม มาตรา 157
ส่วนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ ไม่ส่งเอกสารหลักฐานการกู้เงินจากนายธนาธร หัวหน้าพรรคได้ภายในวันที่ 2 ธ.ค. ตามที่ กกต.กำหนดนั้น ที่ประชุมเห็นว่าการที่ก่อนหน้านี้พรรคอนาคตใหม่ ขอเวลาจัดส่งเอกสาร 120 วัน มีเจตนาต้องการถ่วงเวลาอยู่แล้ว จึงให้โอกาสจัดส่งเอกสารมาภายในวันที่ 2 ธ.ค. เพราะเอกสารที่กกต.ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหมายเรียก เป็นเอกสารที่อยู่ในการครอบครองของพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องรอรอบเวลา เพื่อที่จะรวบรวม และถือเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคอนาคตใหม่ ที่จะยืนยันให้กกต.เชื่อว่ามีการกู้ยืมเงินจริง
ดังนั้นเมื่อพรรคอนาคตไม่สามารถนำส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้ ก็ถือเป็นผลเสียต่อพรรคเอง กกต. จึงมีมติให้ตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน พิจารณาจากพยานหลักฐานที่พรรคอนาคตใหม่ส่งมาบางส่วนก่อนหน้านี้ และให้เสนอที่ประชุม กกต.พิจารณา ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้
แต่กรณีที่นายธนาธร ร้องว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของกกต. ยังไต่สวนไม่เสร็จ เป็นเรื่องของการดำเนินคดีอาญา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งประเด็นนี้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนยังไต่สวนอยู่ หากดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะถ้าไม่ดำเนินการ กกต. ก็จะมีความผิดตาม มาตรา 157
ส่วนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ ไม่ส่งเอกสารหลักฐานการกู้เงินจากนายธนาธร หัวหน้าพรรคได้ภายในวันที่ 2 ธ.ค. ตามที่ กกต.กำหนดนั้น ที่ประชุมเห็นว่าการที่ก่อนหน้านี้พรรคอนาคตใหม่ ขอเวลาจัดส่งเอกสาร 120 วัน มีเจตนาต้องการถ่วงเวลาอยู่แล้ว จึงให้โอกาสจัดส่งเอกสารมาภายในวันที่ 2 ธ.ค. เพราะเอกสารที่กกต.ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหมายเรียก เป็นเอกสารที่อยู่ในการครอบครองของพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องรอรอบเวลา เพื่อที่จะรวบรวม และถือเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคอนาคตใหม่ ที่จะยืนยันให้กกต.เชื่อว่ามีการกู้ยืมเงินจริง
ดังนั้นเมื่อพรรคอนาคตไม่สามารถนำส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้ ก็ถือเป็นผลเสียต่อพรรคเอง กกต. จึงมีมติให้ตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน พิจารณาจากพยานหลักฐานที่พรรคอนาคตใหม่ส่งมาบางส่วนก่อนหน้านี้ และให้เสนอที่ประชุม กกต.พิจารณา ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้