รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แจ้งว่า จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้องคดีหมายเลขดำ อท. 168/2562 ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.)ยื่นฟ้อง 7 กกต.ในความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. พ.ศ.2560 มาตรา 69 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ,89 ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้เลขาธิการ กกต.ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมส่งเอกสารส่งศาลภายในวันที่ 19 ธ.ค.นี้นั้น
โดยที่ประชุม กกต.ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่วันที่นายธนาธร ยื่นฟ้องและไม่ได้มีความกังวล เนื่องจากเห็นว่าในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ได้บอกไว้แล้วว่า การส่งคำร้องของ กกต.ชอบด้วยกฎหมายและเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของ กกต. ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร อีกทั้งประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นกรณีความปรากฏต่อ กกต.
แต่กรณีที่นายธนาธรร้องว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนยังไต่สวนไม่เสร็จ เป็นเรื่องของการดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 151 กรณีรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแต่มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งประเด็นนี้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนยังไต่สวนไม่เสร็จ หากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะถ้าไม่ดำเนินการ กกต.จะมีความผิดตามมาตรา 157
ส่วนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถส่งเอกสารหลักฐานการกู้เงินจากนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ภายในวันที่ 2 ธ.ค.62 ตามที่ กกต.ได้กำหนด ที่ประชุมเห็นว่า การที่ก่อนหน้านี้พรรคอนาคตใหม่ขอเวลาจัดส่งเอกสาร 120 วัน มีเจตนาต้องการถ่วงเวลาอยู่แล้ว จึงให้โอกาสจัดส่งเอกสารภายในวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพราะเอกสารที่ กกต.ให้นายทะเบียนพรรค การเมืองมีหมายเรียกเป็นเอกสารที่อยู่ในการครอบครองของพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องรอรอบเวลา เพื่อที่จะรวบรวม และถือเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคอนาคตใหม่ที่จะยืนยันให้ กกต. เชื่อว่ามีการกู้ยืมเงินจริง
ดังนั้นเมื่อพรรคอนาคตไม่สามารถนำส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้ ก็ถือเป็นผลเสียต่อพรรคเอง ดังนั้น กกต.จึงมีมติให้ตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนพิจารณาจากพยานหลักฐานที่พรรคอนาคตใหม่ส่งมาบางส่วนก่อนหน้านี้ และให้เสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาในวันที่ 11 ธ.ค.นี้