ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ว่าด้วยเรื่อง “แชร์ลูกโซ่” ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่า สร้างความสั่นสะเทือนทุกครั้งที่ตกเป็นข่าวครึกโครม โดยล่าสุดก็คือกรณี “คดีแชร์แม่มณี” ตามติดด้วย “คดีแชร์ FOREX-3D” ซึ่งมีผู้เสียหายรวมกันนับหมื่นราย ความเสียหายรวมมากว่าหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว!
กล่าวสำหรับ แชร์ลูกโซ่ คือ การระดมทุนโดยจูงใจด้วยผลตอบแทนสูง อ้างว่านำไปลงทุนธุรกิจกำไรดีแฝงในลักษณะขายตรง เน้นการหาสมาชิกใหม่ระดมเงินทุนมาจ่ายสมาชิกเก่า สุดท้ายหมุนเงินไม่ทันเกิดหายนะวนลูปในรูปแบบเดิมๆ วิธีการของแชร์ลูกโซ่มักใช้มุกเดิมๆ แต่แปลกที่ได้ผลดีเสมอมา ใช้จุดอ่อนของมนุษย์ “ความโลภ” หลอกล่อด้วยผลตอบแทนมหาศาล
ลักษณะของแชร์ลูกโซ่ 1. มีการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุน 2. เสนอผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้ร 3. ผู้ที่ชักชวนประกอบธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ได้ประกอบธุรกิจใดๆ แต่ใช้วิธีการหมุนเวียนเงิน 4. เมื่อไม่สามารถหาสมาชิกมาลงทุนเพิ่มได้ก็จะปิดกิจการหนีไป
“มหากาพย์โกงแชร์” เกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายคดี มีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน ตั้งแต่ต้นตำหรับแชร์ลูกโซ่เมื่อ 30 กว่าปีก่อน “คดีแม่ชม้อย” ที่หลอกคนให้มาลงทุนซื้อรถน้ำมัน มีผู้เสียหายกว่า 16,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 พันล้านบาท
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2527 “คดีแชร์แม่ชม้อย” ของ “นางชม้อย ทิพย์โส” อดีตพนักงานขององค์การเชื้อเพลิง ที่หลอกลวงให้นำเงินมาลงทุนซื้อรถขนน้ำมัน คันละ 1.6 แสนบาท โดยสามารถแยกลงทุนเป็นครึ่งคันเป็นล้อ โดยอ้างได้รับผลตอบแทนใน 15 วัน ในอัตราร้อยละ 6.5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 78 ต่อปี ทำให้มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมากนับหมื่นคน มูลค่าความเสียหายพุ่งสูงหลายพันล้าน ขณะที่นางชม้อยและพวกถูกตัดสินจำคุก 154,005 ปี
แต่ประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้ลงโทษรวมกันทุกกระทงแล้วไม่เกิน 20 ปี ศาลจึงพิพากษาให้จำคุกนางชม้อยและพวกเป็นเวลา 20 ปี และให้คืนเงินที่ฉ้อโกงประชาชนไปรวม 510,584,645 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ทว่า เพียง 7 ปีเศษ ก็พ้นโทษ เพราะได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในฐานะนักโทษชั้นดี
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้รัฐบาลไทยออก พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 เพื่อจัดการปัญหาแชร์ลูกโซ่อีกด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน ยังคงเกิดคดีในลักษณะเดียวกัน ใช้กลโกงเดิมๆ หลอกลวงมาร่วมลงทุนโดยอ้างผลตอบแทนมหาศาล อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่างตามยุคสมัยและภาพรวมทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ น้ำมัน เงินตราต่างประเทศ ยางพารา เงินออม เครื่องสำอาง ทัวร์ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งยังมีผู้เสียหายหลงเชื่อกันอยู่เป็นจำนวนมาก เกิดคดีโกงแชร์ดังๆ ตั้งแต่
“แชร์ชาเตอร์” ของ “นายเอกยุทธ อัญชันบุตร” เสียหาย 5.5 พันล้านบาท พฤติกรรมชักชวนให้คนนำเงินไปลงทุนซื้อสินค้าโภคภัณฑ์และเงินตราต่างประเทศมาเก็งกำไร ให้ผลตอบแทนถึงร้อยละ 9 ต่อเดือน ทำให้มีคนนำเงินมาลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มนายทหารกับนักการเมือง ช่วงแรกจ่ายผลตอบแทนดีแต่พอนานวันหมุนเงินไม่ทัน จึงหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนกลับมาหลังคดีหมดอายุความและถูกสังหารโหดในเวลาถัดมา
“แชร์เสมาฟ้าคราม” ของ “นายพรชัย สิงหเสมานนท์” มูลค่าความเสียหาย 704 ล้านบาท เจ้าของหมู่บ้านเสมาฟ้าคราม โครงการบ้านจัดสรรราคาถูก 700 ยูนิต บนเนื้อที่ 320 ไร่ จ.ปทุมธานี พฤติกรรมจัดระดมเงินทุนนอกระบบ หลังธนาคารระงับการให้สินเชื่อกับโครงการ ทว่า 2 ปีต่อมาวงแชร์พังครืนไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย ธนาคารเข้ามายึดทรัพย์สินที่จำนองไว้
“แชร์ลูกโซ่ยูฟัน” ของ “บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด” บริษัทสัญชาติมาเลเซีย มูลค่าความเสียหายกว่า 356 ล้านบาท ผู้เสียหายทั้งหมด 2,451 คน พฤติการณ์ความผิดเป็นลักษณะชวนให้นำเงินมาลงทุน ตั้งแต่ 17,500 บาท จนถึง 1,750,000 บาท รวมทั้งการลงทุนแบบสมาชิกเน้นซื้อสกุลเงินที่ตั้งขึ้นเอง และเน้นซื้อสินค้าเพื่อพัฒนาตลาดแบบขยายทีม กระทั่ง ถูกกุมทลายเครือข่าย
หรือกรณี “ซินแสโชกุน” น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ กรรมการบริหารบริษัทเวลท์เอฟเวอร์ (WealthEver) บริษัทขายตรงสินค้า ดำเนินกิจการลักษณะแชร์ลูกโซ่ ที่ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังทิ้งสมาชิกที่บริษัทนัดหมายว่าจะพาไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเครื่องเช่าเหมาลำ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่มีเที่ยวบินดังกล่าว
ล่าสุด “คดีแชร์แม่มณี” มหากาพย์โกงแชร์เงินออม โดย “น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช” หรือ “เดียร์” หรือ “แม่มณี” ที่ลักษณะหลอกเหยื่อให้มาร่วมลงทุนเงินออม “แชร์ลูกโซ่” ผ่านโครงการ “ฝากเงิน ออมเงิน by บัญชีแม่มณี” มีการโปรโมทผ่านมาทางสื่อโซเซียลฯ โดยอ้างได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 93 จากเงินลงทุนในระยะเวลา 1 เดือน ยกตัวอย่าง ลงทุน 1,000 บาท จะได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวม 1,930 บาท มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศรวมแล้วกว่า 3,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
สำหรับ “คดีแชร์แม่มณี” แรกๆ ผู้เสียหายต่างรับได้ผลตอบแทนดี จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตรงเวลา เหยื่อติดกับฝากเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ้างยอดสูงทะลุหลักล้าน หลังๆ ห้วงโซ่วงแชร์ขาดไม่สามารถหมุนเงินได้ทัน แม่มณีเริ่มผัดวันประกันพรุ่ง เช่นอ้างว่าเงินกับธนาคารต่างสาขา ทำให้ยังเคลียร์แคชเชียร์เช็คไม่เสร็จ กระทั่ง เหยื่อเริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี
กล่าวสำหรับ “แม่มณี” หรือ “น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช” ก่อนเข้าสู่เส้นทางขายฝันตั้งวงแชร์ลูกโซ่ เดิมเป็นพริตตี้และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการเป็นแม่ค้าขายตุ๊กตาออนไลน์ มักโพสต์ภาพไลฟ์สไตล์ร่ำรวยอู่ฟู้ลงโซเชียลฯ สร้างโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กน่าเชื่อถือ อ้างเป็นผู้จัดละคร เป็นผู้จัดภาพยนตร์ เป็นผู้จัดรายการทีวีช่องดัง สร้างภาพลักษณ์เซเลบริตี้ รู้จักดาราคนดังมากมาย เคยเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์ MANILA (มะนิลา) อย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีดารา นักแสดง นางแบบ นายแบบ ตลอดจนไฮโซชื่อดังมาร่วมงานมากมาย ซึ่งคาดว่าเป็นการตบตาให้เหยื่อหลงเชื่อโปรไฟล์หรู เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจร่วมแชร์เงินออม
อย่างไรก็ตาม จากกรณีผู้เสียหาย “แชร์ลูกโซ่แม่มณี” เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ล่าสุด ศาลอนุมัติออกหมายจับ “น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช” หรือ “แม่มณี” และ “นายเมธี ชิณภา” สามีผู้สมคบคิด ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
สำหรับความคืบหน้า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สั่งการให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบรวบข้อมูลและข้อเท็จจริงเพื่ออนุมัติการสืบสวน นอกจากนี้ ยังได้ส่งข้อมูลให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่าคดีเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ หากพฤติการณ์เป็นการฉ้อโกงประชาชนจะไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะเป็นผู้ทำคดี แต่หากรูปคดีมีพฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกู้ยืมที่ฉ้อโกงประชาชน หรือ แชร์ลูกโซ่ ดีเอสไอ สามารถรับไว้สอบสวนรับเป็นคดีพิเศษได้ ซึ่งตามเกณฑ์จะต้องมีผู้เสียหายมากกว่า 300 รายและมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท หลังจากนั้น จะมีการประสานให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ต่อไป
ด้วยมูลค่าความเสียหายสูงต้องเร่งดำเนินการ หากล่าช้าอาจมีการยักย้ายถ่ายเททำให้ติดตามทรัพย์ยาก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้อายัดบัญชีธนาคารของแม่มณีแล้ว 2 บัญชี จำนวนเงินประมาณ 10 ล้านบาท
กล่าวสำหรับ “แชร์แม่มณี” ทำเป็นขบวนการมี “แม่ข่าย” นับสิบทีมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยหน้าที่แม่ข่ายชักชวนลูกค้ามาร่วมวงแชร์แม่มณีแล้วหักค่าหัวคิว แล้วส่งต่อไปยัง “เท้าแชร์” หรือ “แม่มณี” เช่น แม่มณี ให้ผลตอบแทนร้อยละ 93 แม่ข่ายหักหัวคิวไว้ร้อยละ 38 ลูกค้ารับผลตอบแทนร้อยละ 50
หนึ่งใน “แม่ข่าย” ของแชร์แม่มณี “น.ส. จุฑาทิพย์ นิ่มนวล” หรือ “มะนาว” อดีตหญิงสาวผู้ตกเป็นข่าวดังเจ้าบ่าวหนุ่มวัยรุ่นทิ้งงานแต่ง มูลค่าความเสียหายสูงถึง 70 ล้านบาท ยังมีข้อมูลเปิดเผยอีกว่า ขบวนการแม่ข่าย ชื่อว่า “แม่ทีมเก๋” มูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้าน ทั้งนี้ บรรดาแม่ทีมจะถูกดำเนินคดีอย่างไรหรือไม่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งกลุ่มนี้อ้างว่าตนเองเป็นผู้เสียหายเช่นกัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการดูแลผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่แม่มณีที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก จะเป็นไปตามหลักการของหน่วยงานที่ดำเนินการตามกฎหมาย กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะใช้กฎหมายฟอกเงิน และมาตรการทางภาษีมาดำเนินการกับเท้าแชร์อย่างเด็ดขาด
ที่สำคัญ เมื่อมีการยึดทรัพย์เท้าแชร์แล้วก็จะไม่มีการคืนทรัพย์ให้ในทุกกรณี และต้องใช้มาตรการทางภาษีมาดำเนินการเพื่อให้เท้าแชร์ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งต่างจากการดำเนินการที่ผ่านมาที่เมื่อมีการยึดทรัพย์เท้าแชร์แล้วหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์ได้มาก่อนทำแชร์ และไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็จะต้องคืนให้ ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง
“เมื่อตั้งใจว่าต้องดำเนินการให้เรียบร้อยเป็นการแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบก็ต้องยึดทรัพย์ และใช้มาตรการทางภาษีต่างๆ มาดำเนินการให้เท้าแชร์ต้องแสดงความรับผิดชอบไม่ต้องคืนทรัพย์ให้ เพราะถ้ายึดมาแล้วคืนให้ก็เป็นการเสียเวลาเปล่า เสียเวลาราชการ เสียงบประมาณแผ่นดิน ต้องเอาให้เด็ดขาดทำแล้วต้องไม่เหนื่อยเปล่าและต้องเห็นผล” นายสมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังกล่าวย้ำถึงผู้เสียหายที่ไม่ได้มาแจ้งความร้องทุกข์เพราะหลงเชื่อแม่ทีมทำนองว่า หากแจ้งความจะไม่ได้เงินคืน ด้วยว่าหากไม่มาแสดงตัวยืนยันความเสียหายถึงเวลาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้จะไม่ได้รับส่วนแบ่ง ให้ตัดสินใจเอาเองว่าจะ “เชื่อแม่มณี” หรือ “เชื่อนายกรัฐมนตรี” ที่ได้สั่งการพิเศษมาแล้วให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด จึงอยากให้ประชาชนเชื่อฝ่ายราชการมากกว่าแม่ข่าย
ส่วนมาตรการเยียวยาผู้เสียหายจากแชร์ลูกโซ่นั้น รัฐบาลยังไม่มีกองทุนหรือกฎหมายใดๆ ที่จะมาเยียวยา ต้องทำความเข้าใจยอมรับว่าปัญหาแชร์ลูกโซ่มีผลกระทบรุนแรง ดังเช่นกรณีโกงแชร์คดีดังในอดีต อย่าง “แชร์แม่ชม้อย” มูลค่าความเสียหายนับพันล้าน ซึ่งการติดตามทรัพย์คืนไม่ใช่เรื่องง่ายมีความยุ่งยาก
หากสังคมไทยไม่เรียนรู้ความผิดพลาดจากบทเรียนที่เกิดขึ้น แน่นอนว่า ปัญหาโกงแชร์ลูกโซ่จะเกิดขึ้นอย่างไม่จบไม่สิ้น แม้ภาครัฐและเครือข่ายภาคประชาชนจะพยายามรณรงค์ปราบปรามเพียงใดก็ตาม ดังเช่นที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. ยุติธรรม กล่าวไว้ “เชื่อว่าหลังการปราบปรามแชร์แม่มณีก็ยังจะมีแชร์แม่อื่นๆ ตามมาอีก”
อย่างไรก็ตาม ปัญหาแชร์ลูกโซ่สร้างความตื่นตะลึงในสังคมไทยต่อเนื่อง ลำดับเวลาไล่เลี่ยกันผู้เสียหายอีกวงแชร์แสดงตัว คดีวงแชร์พรีเมียม “แชร์ FOREX-3D” (ฟอเร็กซ์ 3 ดี) มีผู้เสียหายรวมกว่า 30,000 ราย มูลค่าความเสียหายพุ่งสูงกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยพฤติกรรมมีการเชิญชวนให้คนลงทุนโดยเสนอผลตอบแทน ตั้งบริษัทเป็นหลักเป็นแหล่งสร้างภาพให้น่าเชื่อถือ หลอกลวงให้เหยื่อเปิดบัญชีให้โอนเงินผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เป็นแชร์พรีเมียมมีเงื่อนไขผู้ร่วมลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อเดือน
เช่นเดียวกับ แชร์ลูกโซ่วงอื่นๆ ในช่วงแรกได้เงินต้นเงินปันผลงอกงาม ผู้เสียหายสามารถเบิกถอนเงินสดได้ แต่ระยะหลังมีปัญหาไม่สามารถเบิกออกมาได้ โดยบริษัทอ้างว่ามีผู้ร่วมลงทุนเบิกเงินจำนวนมากทำให้ระบบเกิดปัญหา บริษัทขาดสภาพคล่อง
โดย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม และผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ FOREX-3D เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของโครงการ FOREX-3D
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้คำมั่นว่าการดำเนินการกับทุกวงแชร์จะให้มาตรการภาษีและกฎหมายฟอกเงินเข้าไปดำเนินการติดตามทรัพย์เพื่อกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่ากรณีปัญหาแชร์ลูกโซ่ รัฐบาลได้ยกให้เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2560 เป็นหนึ่งใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เรื่องการแก้ปัญหาฉ้อโกงประชาชน การลดความเหลื่อมล้ำ และได้มีการแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว
“สิ่งที่ผมอยากเตือนประชาชน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากประชาชนรู้ไม่เท่าทันกลไกและเล่ห์เหลี่ยมของการทุจริต การหลอกหลวงที่มีมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบัน โลกออนไลน์และสังคมโซเชียลมีเดียเข้ามาทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ขอให้ทุกคนตั้งสติ เวลาที่ใครมาโน้มน้าวให้ไปลงทุนต่างๆ นานา อย่างที่ได้ข้อมูลมา ลงทุน 1,000 บาท ได้กำไร 930 บาท (แชร์แม่มณี) ไม่มีการลงทุนที่ไหนจะได้แบบนี้แน่นอน เป็นไปไม่ได้เลย ครั้งแรกอาจจะได้เงินคืน ส่วนครั้งที่สอง สาม และสี่ ก็จะหายไป คนเหล่านี้ก็จะนำเงินที่ได้ครั้งแรกไปหมุนเวียนแล้วจ่ายเป็นผลกำไร เรื่องนี้ก็เคยมีประสบการณ์กันมาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น อย่าไปหลงเชื่อในสิ่งเหล่านี้”
ในส่วนวิธีการหลอกลวงของขบวนการแชร์ลูกโซ่ DSI ระบุ 7 ข้อ ดังนี้ 1.ผู้ชักชวนเป็นบุคคลใกล้ชิด 2.อ้างบุคคลหรือผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมเข้าร่วมกิจกรรม 3. อ้างหลักฐานผลประโยชน์และเงินมหาศาลที่จะได้รับ 4. ใช้โฆษณาชวนเชื่อ 5.แสดงผลการลงทุนน้อยแต่ประโยชน์ตอบแทนสูงในระยะเวลาอันรวดเร็ว 6. จัดฉากการอบรมสัมมนาอย่างยิ่งใหญ่ 7. พูดจาหว่านล้อมกดดันให้เหยื่อรีบตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม มหากาพย์แชร์ลูกโซ่ในครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการผลักดัน “ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามแชร์ลูกโซ่” อย่างเต็มสูบ เพื่อให้การแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
