น.ต.สมาน กุนัน วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง #คนไทยจะไม่มีวันลืม “จ่าแซม”

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในปฏิบัติการช่วย 13 หมูป่าอะคาเดมีนั้น ผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนล้วนแล้วแต่เป็น “ฮีโร่” ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น แต่ “ฮีโร่” ที่ต้องถือว่าเป็น “วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง” มีเพียง 1 เดียวคือน.ต.สมาน กุนัน” หรือ “จ่าแซม” อดีตหน่วยซีลนอกราชการที่ “พลีชีพ” ในภารกิจหฤโหดซึ่งเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก

“จ่าแซมถือว่าเป็นวีรบุรุษแห่งถ้ำหลวงตัวจริง”

ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) กล่าวถึง “จ่าแซม” ในวันที่(11 กรกฎาคม) หลังสามารถช่วยเหลือหมูป่าทั้ง 13 คนออกมาได้สำเร็จ พร้อมกับ พ.ท.ภาคย์ โลหารชุนและหน่วยซีลอีก 3 นายที่เข้าไปอยู่เป็นเพื่อน

เฉกเช่นเดียวกับ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ยกย่องจ่าแซมในวันเดียวกันว่า “ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว จ.อ.สมาน กุนัน ที่ถือเป็นฮีโร่ของคนทั้งโลก”

ทั้งนี้ การเสียชีวิตของจ่าแซมเกิดขึ้นในช่วงที่ต้องบอกว่าสถานการณ์อยู่ในขั้นคับขัน หรือจะใช้คำว่าวิกฤตก็คงได้ เพราะต้องทำงานแข่งกับฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งส่งผลทำให้ระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นพร้อมๆ กับเวลาที่ล่วงเลยไป ชนิดที่ต้องลุ้นกันทุกลมหายใจเข้าออกเลยทีเดียว

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานต้องทำงานท่ามกลางภาวะบีบคั้น รวมทั้งตัวของจ่าแซมเอง

ก่อนที่จะเสียชีวิต จ่าแซมได้ปฏิบัติภารกิจโดยการดำน้ำลำเลียงขวดอากาศ จากโถง 3 ไปจุดต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นและปรารถนาจะช่วยน้องๆ ที่ติดอยู่บริเวณเนินนมสาว กระทั่งถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2561ขณะที่จ่าแซมกำลังดำน้ำกลับก็ได้หมดสติไปในน้ำ คู่ดำน้ำทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแต่ไม่ได้สติ และเสียชีวิตลงเวลาประมาณ 01.00 น.

“จ.อ.สมาน รับอาสาวางขวดอากาศร่วมกับทีมดำน้ำต่างชาติ 4 คน และคนไทย 1 คน ไปวางขวดอากาศตามที่กำหนดไว้และกลับมา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง พบว่า จ.อ.สมาน กับเพื่อนอีกคนยังไม่กลับ คำนวณเวลาว่าน่าจะไม่เกิน 5 ชั่วโมง แต่ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่กลับทั้งสองคน ดูจากสถานการณ์ก็ยังคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะดำจากโถงสามไปแล้วประมาณ 400 เมตร จะมีช่วงน้ำตื้นที่เดินได้ มีดำน้ำเป็นช่วงๆ ก็ยังมั่นใจว่าเหนื่อยและพัก

“จนเวลาประมาณ 01.00 น. คู่บัดดี้ของ จ.อ.สมาน ก็ดำมาที่โถงสามคนเดียว แจ้งว่าเกิดเหตุไม่ดีขึ้น ก็เป็นคืนที่เราสูญเสีย แต่สูญเสียหนึ่งชีวิต กับอีก 13 ชีวิตที่รอเราอยู่เราก็เดินหน้าต่อ ทุกคนยอมรับในความเสี่ยง เพราะหน่วยเราฝึกให้รับภารกิจเสี่ยงอยู่แล้ว เรื่องของความสูญเสียเราต้องเตรียมใจอยู่แล้ว สุดท้ายก็ถือว่างานนี้เป็นโอกาสดีของหน่วยงานของผมเองที่มีโอกาสร่วมมือกับนักดำน้ำระดับโลก ทำให้เห็นแนวทาง วิธีการ เทคนิคในการดำน้ำในถ้ำเพื่อพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อรองรับอุบัติภัยของเราในอนาคต”

น.อ.อนันต์ สุราวรรณ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กล่าวถึงภารกิจของจ่าแซมในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนก่อนที่จะเสียชีวิต

ด้าน ThaiNavyseal ซึ่งเป็นเพจทางการของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือได้กล่าวถึงจ่าแซมด้วยความเคารพสูงสุดในจิตวิญญาณของความเป็น SAM SEAL ด้วยความเชื่อใจอย่างสุดซึ้ง

“พ้นเกาะนี้ไป ตัวท่านคือ “นักทำลายใต้น้ำจู่โจม”
จ่าเอกสมาน กุนัน ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า ไม่ว่าตัวจะอยู่ที่ไหน แต่หัวใจคือ “นักทำลายใต้น้ำจู่โจม” ตราบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต

“Once you leave this lsland, you are SEAL”
PO1 Saman Kunan has shown the world that whatever he does, wherever he goes, he is SEAL by heart, until his last breath!

แน่นอน การเสียชีวิตของจ่าแซมย่อมกระเทือนต่อจิตใจของผู้ปฏิบัติงานอย่างหนักหนาสาหัส เพียงแต่พวกเขาต้องเร่งรีบขจัดความโศกเศร้าเพื่อเร่งช่วยชีวิตที่ติดอยู่ ดังที่ พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (ซีล) กล่าวหลังจ่าแซมเสียชีวิตว่า “ หน้าที่ของเรายังต้องดำเนินงานต่อ เพราะเราฝึกมาให้ทำงานในภาวะเสี่ยง การเจ็บป่วย หรือเสียชีวิต เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญ และเราไม่เคยเสียขวัญ กำลังพลที่เสียไป เราจะไม่ให้สูญเปล่า เราจะเดินหน้าต่อไป”


หรือที่ “ริชาร์ด แฮร์ริส” วิสัญญีแพทย์และนักดำน้ำชาวออสเตรเลียที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการนำหมูป่าออกมาจากถ้ำกล่าวระหว่างการสนทนากับ Malcolm Turnbull นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียว่า “ผมคุยกับพวกเขาเมื่อคืนนี้ พวกเขาเศร้ามากับความสูญเสีย พวกเขาเชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อประเทศที่จะต้องนำเด็กๆ ออกมาให้ได้”

และการพลีชีพอย่างวีรบุรุษก็เป็นแรงขับสำคัญในการทำงานของหน่วยซีลและทีมนักดำน้ำให้สำเร็จลุล่วงได้ชนิดที่ “โลกต้องจดจำ” เพื่อพี่แซมของพวกเขา

จ่าแซมเป็น นักทำลายใต้น้ำจู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี หลังลาออกจากราชการได้เข้ามาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุฝ่าย รปภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย เป็นสมาชิกนักทำลายใต้น้ำจู่โจมที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นนักกีฬาไตรกีฬา ชอบเล่นกีฬาประเภทแอดเวนเจอร์ และแม้จะออกจากหน่วยซีลไปแล้ว แต่ยังคงมีความรักและผูกพันกับพี่น้องนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ไม่ว่าจะมีกิจกรรมอะไรที่มนุษย์กบจัด ก็จะมาร่วมกิจกรรมเสมอ ดังนั้น เมื่อได้ทราบข่าว 13 หมูป่าติดถ้ำ จ่าแซม ก็ไม่รอช้าที่จะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือในทันที

ก่อนที่จะเดินทางไปช่วย 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย จ่าแซมได้ถ่ายคลิปก่อนขึ้นเครื่องบินของราชนาวี ซึ่งได้รับการเปิดเผยในเวลาต่อมาและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก

ความว่า... “โหลดของขึ้นเครื่องหมดแล้ว เตรียมพร้อมที่จะบินไปเชียงราย น่าจะถึงซัก 4 โมงกว่าๆ ถึงสนามบินเชียงรายนะครับ ทีมสนับสนุนทีมมนุษย์กบที่กำลังทำงานอยู่ในตอนนี้ที่ ถ้ำหลวง จ.เชียงราย ผมทีมงานสนามบินสุวรรณภูมิ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด มาช่วยในการสนับสนุนครั้งนี้ มีทีมแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำของกองทัพเรือ ร่วมเดินทางไปด้วยกัน มีนักดำน้ำจากบริษัทซีเวิลด์ ไดฟ์วิง ร่วมเดินทางด้วย สนับสนุนอุปกรณ์ชุดใหญ่เพื่อใช้ในการทำงาน เดี๋ยวเย็นนี้เจอกันที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย ขอให้โชคดีอยู่กับเรา พาน้องๆกลับบ้าน”

นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผอ.ใหญ่ ทอท. หน่วยงานต้นสังกัดของจ่าแซมเปิดแถลงข่าวแสดงความเสียใจต่อการจากไปโดยระบุว่า จ่าแซมเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง เพราะได้ใช้วันลาส่วนตัว มาร่วมปฎิบัติภารกิจกับหน่วยซีลตั้งแต่วันแรก เมื่อบริษัทฯ ทราบเรื่องจึงได้ส่งพนักงานที่เคยผ่านการฝึกอบรมนักทำลายใต้น้ำจู่โจมอีก 70 นาย

ทั้งนี้ การเสียชีวิตของจ่าแซมได้นำมาซึ่งความเศร้าสลดสุดประมาณ ม่านหมอกแห่งความสูญเสียปกคลุมไปแทบจะทุกอณูบนผืนโลก ซึ่งนอกจากชาวไทยจะรับรู้ถึงความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แล้ว บุคคลสำคัญจากต่างชาติก็รับรู้ถึงการเสียสละเยี่ยงวีรบุรุษของอดีตหน่วยซีลรายนี้เช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐได้เผยแพร่ สารแสดงความเสียใจของนายกลิน ที. เดวีส์ ต่อการจากไปของจ่าแซม โดยสารแสดงความเสียใจดังกล่าว ระบุว่า “กระผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ จ.อ.สมาน กุนัน (นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ) อดีตหน่วยซีล ซึ่งอาสาร่วมในภารกิจการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอน 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ในนามของประชาชนชาวอเมริกัน ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขอสดุดีและเชิดชูเกียรติในวีรกรรมความกล้าหาญและความเสียสละในการปฎิบัติภารกิจเพื่อชาติ”

หรือ อิเคร์ กาซิยาส ตำนานนายทวารของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด โพสต์ภาพและข้อความลงในทวีตเตอร์ของตัวเองสดุดี “จ่าแซม” โดยโพสต์รูปภาพของจ่าแซม รวมถึงข้อความด้วยว่า “สมาน กุนัน คุณคือวีรบุรุษที่แท้จริง เขาหมดสถิติตอนที่เขากำลังออกจากถ้ำหลวง เขาช่วยเหลือเด็กๆ ไปสู่สุคติ #ทีมกู้ภัยไทยแลนด์”

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Jaroensook Limbanchongkit Pone” ได้โพสต์รูปภาพของศิลปินผู้ปั้นทราย จากประเทศอินเดีย ที่ได้สร้างผลงานศิลปะจากทรายเพื่อเชิดชูความดีของจ่าแซม โดยโพสต์เนื้อหาว่า “จงไปสู่สุคติเถอะ จ่าแซม จ.อ.สมาน กุนัน True Hero” คุณ Sudarsan Pattnaik ศิลปินผู้ปั้นทรายแห่ง International Sand Artist & Padma Shri Awardee ที่อินเดีย ได้ทวีตรูปปั้น “จ่าแซม” ฮีโร่ผู้สละชีพจากภารกิจพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง ที่บนหาดทรายที่อินเดีย เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ ThaiCaveRescue: I pay tribute to diver Saman Kunan who died during the difficult cave rescue operations. My SandArt at #Puribeach in India with message RIP...True Hero"

ไม่เพียงแต่จ่าแซมเท่านั้น “ครอบครัวของจ่าแซม” ก็ล้วนแล้วแต่มี “จิตใจอันประเสริฐ” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องหรือ “ภรรยา” ของเขา

นางสำราญ กุนัน แม่ของจ่าแซมกล่าวทั้งน้ำตาว่า “แม้จะเสียใจก็รู้สึกภูมิใจ ที่ลูกชายจากไปในขณะปฏิบัติตามหน้าที่ ชายที่พึงกระทำต่อประเทศชาติในการช่วยเหลือผู้คน ซึ่งลูกชายทำมาตลอดทั้งชีวิต”

ในวันที่ภารกิจช่วยเหลือ 13 หมูป่าประสบความสำเร็จ นางวลีพร กุนัน ภรรยาจ่าแซม มีสีหน้าเบิกบานและยิ้มแย้มแจ่มใสกล่าวว่า “ดีใจสุดๆ” ก่อนเดินไปสะกิดที่หีบศพกระซิบบอกสามีว่า” วันนี้ภารกิจของพี่ที่ตั้งใจไว้ สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายแล้วนะ ขอให้ดวงวิญญาณของพี่กลับออกจากถ้ำ มาอยู่ ณ สถานที่นี้ ซึ่งญาติพี่น้อง และประชาชนทุกคนกำลังร่วมกันประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อพี่อยู่”

“ขอให้น้องๆทุกคนพักฟื้นร่างกายอย่างเต็มที่ และให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถออกไปเตะฟุตบอลได้เหมือนเดิม และถ้ามีโอกาสพวกเราคงได้พบกัน ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พี่แซม วีรบุรุษของเราต่อไป”

โลกขอน้อมคารวะหัวใจอันยิ่งใหญ่ของครอบครัวกุนันอย่างหมดหัวใจ

ด้านทีมผู้ปกครองและญาติของทีมหมูป่าต่างก็เศร้าสลดกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นสุดหัวใจ โดยหลังจากที่น้องๆ ปลอดภัย พวกเขาได้วาดภาพจ่าแซม วีรบุรษถ้ำหลวง เป็นภาพสีขาวดำ ในชุดเครื่องแบบที่ปฏิบัติงานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เข้มแข็ง พร้อมกับร่วมเขียนคำขอบคุณที่ได้ช่วยให้ลูกๆได้รับความปลอดภัย ลงในพื้นที่ข้างๆ รูปด้วยทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เตรียมใส่กรอบนำไปมอบให้ครอบครัวของจ่าแซมที่ ต.เมืองหงษ์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ดด้วย

สำหรับข้อความที่ครอบครัวหมูป่าเขียนถึงจ่าแซมนั้น อาทิ พ่อแม่น้องไตตั้น เขียนว่า จ่าแซมคือผู้ที่มีพระคุณของครอบครัวของเราตลอดไป เราจะไม่มีวันลืม หลับให้สบายนะครับจ่าแซม #วีรบุรุษผู้กล้าถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

พ่อแม่น้องมิกซ์ ระบุว่า จ่าแซมคือผู้มีพระคุณอย่างยิ่ง พวกเราจะไม่มีวันลืมท่าน ขอให้ท่านู่สุคตินะคะ วีรบุรุษผู้กล้าหาญ

ครอบครัวน้องดอม ระบุว่า คำว่าขอบคุณมันยังน้อยไป ครอบครัวเราจะระลึกถึงพี่แซมตลอดไป ว่ามีพระคุณกับครอบครัวเราเหลือคณานับ

ครอบครัวโค้ชเอก ระบุว่า ขอขอบคุณพี่แซมที่เป็นผู้เสียสละ เพราะช่วยเหลือน้องๆ เราทุกคนจะมีพี่แซมอย่ในใจของเราตลอดไป

พ่อแม่ของน้องอดุลย์ ระบุว่า Thank You So Much for your help. Hope to see in Heaven. We will remember you in our heart forever. We also will pray for your family to be a strength and Healthy in good health. Res is Peace.

พ่อแม่น้องตี๋ ระบุว่า จ่าแซมคือวีรบุรุษและเป็นฮีโร่ของเด็กๆ พวกเราจะไม่ลืมพระคุณในครั้งนี้ จะอยู่ในใจพวกเราตลอดไป #ขอให้ท่านไปสู่สวรรค์

ครอบครัวของน้องมาร์ค ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวพี่แซมเป็นอย่างมาก และขอเป็นกำลังใจค่ะ ครอบครัวพี่แซม พวกเราทุกคนจะระลึกถึงพี่แซมวีรบุรุษถ้ำหลวงตลอดไป

ขณะที่ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ประกาศชัดเจนว่า จะสร้างอนุสาวรีย์ให้กับจ่าแซม เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของความเสียสละแก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งในสังคมไทยยุคปัจจุบัน

หลังการเสียชีวิตของจ่าแซม ได้มีการลำเลียงศพจากจังหวัดเชียงรายเพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนายัง วัดสัตหีบ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโทภักดี แสงชูโต รองราชเลขานุการในพระองค์ อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพ พร้อม พวงมาลาหลวง พระราชทาน พวงมาลาพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ พระราชทานให้กับ จ่าเอก สมาน กุนัน โดยทรงรับศพไว้ในพระราชานุเคราะห์ ทั้ง 7 วัน และรับสั่งให้ประกอบพิธีศพประกอบพิธีหลวง อย่างสมเกียรติ

จากนั้นได้มีการเคลื่อนย้ายศพ จ่าเอกสมาน ไปยัง วัดบ้านหนองคู หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองหงส์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา โดยประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเคารพศพจ่าแซมวีรบุรุษถ้ำหลวง และให้กำลังใจแก่ครอบครัวจ่าแซมอย่างไม่ขาดสาย ก่อนที่จะมีพีธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 14 กรกฎาคม 2561

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยขอบคุณผ่านผู้ที่ร่วมดำเนินภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมเยาวชนหมูป่า อคาเดมี่ และผู้ช่วยโค้ช จำนวน 13 คน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ในนามของรัฐบาลไทยถึงจ่าแซมเอาไว้ว่า “ความเสียสละของ จ.อ.สมาน จะเป็นต้นแบบแห่งความกล้าหาญและจะประทับในจิตใจของพวกเราตลอดไป”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2561ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ เรื่องพระราชทานยศทหารและเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นกรณีพิเศษ แก่จ่าแซม ความว่า

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพพยาวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า จ่าเอกสมาน กุนัน ทหารกองหนุนประเภทที่1 ชั้น3 สังกัดกองเรือยุทธการเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดีและได้อุทิศความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จนกระทั่งตนเองเสียชีวิตและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนองค์กรและนานาประเทศ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา9 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา5 และมาตรา6 แห่งพระราชบัญญัติยศทหารพุทธศักราช 2479 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศ “นาวาตรี” เป็นกรณีพิเศษแก่ “จ่าเอก สมานกุนัน” และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก เป็นกรณีพิเศษ

วันนี้ ภารกิจพาน้องๆ กลับบ้านตามเจตนารมณ์ของจ่าแซมสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีท่ามกลางความดีใจขอคนทั้งโลก และเชื่อเหลือเกินว่า ทุกคนจะจดจำชื่อ “จ่าแซม วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง” และคุณงามความดี ตลอดจนจิตอันเป็นกุศลของเขาตลอดไป

#คนไทยจะไม่มีวันลืมจ่าแซมตราบนิรันดร์
Hooyah Hooyah Hooyah...