กก.สรรหากกต. เคาะมติเลือก 5 รายชื่อ ส่งต่อสนช.คาดเข้าที่ประชุม 10 พ.ค. ตั้งกก.สอบประวัติ ด้านสายศาลยังส่ง 2 คนเดิมที่ถูกตีตก “สมชัย” ติงกระบวนสรรหา กกต.รวบรัด ได้คนไม่หลากหลาย
วานนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาเป็นประธานคณะ ได้มีมติเลือกผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. ตามมาตรา 8 (1) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จำนวน 5 คน หลังจากที่เรียกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม 24 คนแสดงวิสัยทัศน์
บุคคลที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. ทั้ง 5 ดังกล่าว เป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการสรรหาฯ 7 คน ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วย กกต. ประกอบด้วย 1.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, 2.นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 3.นายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา และกรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์, 4.นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, จ.ปทุมธานี, จ.ระนอง, จ.ชุมพร และ จ.นครศรีธรรมราช และ 5.นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ขณะที่ บุคคลซึ่งได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จำนวน 2 คน ได้แก่ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และนายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นบุคคลรายเดิมที่สนช. เคยลงมติไม่ให้ความเห็นชอบในการเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. รอบที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หลังจากที่คณะกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอชื่อทั้งหมดต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. แล้ว จะต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม เบื้องต้นคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระประชุม สนช.วันที่ 10 พ.ค.นี้ และเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมแล้วจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ก่อนจะนำกลับมาให้ที่ประชุม สนช. ลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ต่อไป
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. กล่าวแสดงความยินดีต่อผู้ได้รับการคัดเลือกจากกรรมการสรรหาเป็น กกต.ทั้ง จำนวน 5 คน เชื่อว่าทุกท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ว่าที่ กกต.ชุดนี้ขาดความหลากหลาย และ กลายเป็นที่อยู่ของผู้เกษียณอายุจากราชการ นอกจากนี้เห็นว่า กระบวนการในการคัดเลือก ให้บุคคลที่ผ่านคุณสมบัติจำนวนทั้งหมด 24 คน จาก 33 คน มีการให้เข้าแนะนำตัวคนละ 5 นาที และ ตอบคำถามคนละ 5 นาที รวม 10 นาทีต่อคน เริ่มประชุมตอนเช้า สัมภาษณ์เสร็จประมาณ 14.15 น. หลังจากนั้นลงคะแนนเลือกให้ได้คะแนน 2 ใน 3 คือ 5 เสียงขึ้นไป ประกาศผลเป็นเอกสารออกมาในเวลาประมาณ 16.30 น. จึงน่าจะเป็นการใช้การวินิจฉัยของกรรมการสรรหาที่ค่อนข้างรวบรัดไม่เหมาะสมกับการคัดเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญของบ้านเมือง.
วานนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาเป็นประธานคณะ ได้มีมติเลือกผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. ตามมาตรา 8 (1) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จำนวน 5 คน หลังจากที่เรียกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม 24 คนแสดงวิสัยทัศน์
บุคคลที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. ทั้ง 5 ดังกล่าว เป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการสรรหาฯ 7 คน ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วย กกต. ประกอบด้วย 1.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, 2.นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 3.นายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา และกรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์, 4.นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, จ.ปทุมธานี, จ.ระนอง, จ.ชุมพร และ จ.นครศรีธรรมราช และ 5.นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ขณะที่ บุคคลซึ่งได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จำนวน 2 คน ได้แก่ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และนายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นบุคคลรายเดิมที่สนช. เคยลงมติไม่ให้ความเห็นชอบในการเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. รอบที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หลังจากที่คณะกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอชื่อทั้งหมดต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. แล้ว จะต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม เบื้องต้นคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระประชุม สนช.วันที่ 10 พ.ค.นี้ และเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมแล้วจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ก่อนจะนำกลับมาให้ที่ประชุม สนช. ลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ต่อไป
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. กล่าวแสดงความยินดีต่อผู้ได้รับการคัดเลือกจากกรรมการสรรหาเป็น กกต.ทั้ง จำนวน 5 คน เชื่อว่าทุกท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ว่าที่ กกต.ชุดนี้ขาดความหลากหลาย และ กลายเป็นที่อยู่ของผู้เกษียณอายุจากราชการ นอกจากนี้เห็นว่า กระบวนการในการคัดเลือก ให้บุคคลที่ผ่านคุณสมบัติจำนวนทั้งหมด 24 คน จาก 33 คน มีการให้เข้าแนะนำตัวคนละ 5 นาที และ ตอบคำถามคนละ 5 นาที รวม 10 นาทีต่อคน เริ่มประชุมตอนเช้า สัมภาษณ์เสร็จประมาณ 14.15 น. หลังจากนั้นลงคะแนนเลือกให้ได้คะแนน 2 ใน 3 คือ 5 เสียงขึ้นไป ประกาศผลเป็นเอกสารออกมาในเวลาประมาณ 16.30 น. จึงน่าจะเป็นการใช้การวินิจฉัยของกรรมการสรรหาที่ค่อนข้างรวบรัดไม่เหมาะสมกับการคัดเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญของบ้านเมือง.