ตร.ออกหมายเรียก "หมอบอนด์- น้ำผึ้ง Take me out-หญิงย้วย" ให้ปากคำ กรณี รีวิวสินค้าเมจิกสกิน 11 พ.ค.นี้ พร้อมเตือนห้ามรับประทาน ห้ามจำหน่าย ยาลดความอ้วน "ลีน" มีส่วนผสมอันตราย ถึงตาย เผยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
วานนี้ ( 29 เม.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมพนักงานสอบสวน คดีเมจิกสกิน หลังออกหมายเรียกให้เหล่าดารา มาให้ปากคำแล้ว 12 คน ว่า จากการสอบสวนขยายผล ได้ความคืบหน้า และเตรียมออกหมายเรียก ผู้ที่เกี่ยวข้องในการรีวิวสินค้าเพิ่ม โดยมี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามร่วมรีวิวสินค้าด้วย คือ นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษณ์ หรือ "หมอบอนด์" ที่รีวิวสินค้าคลีโอ ร่วมกับ น.ส.ปวีณา นามสงคราม หรือ "น้ำผึ้ง Take me out" ภรรยา และนาย กสิทย์ วรชิงตัน หรือ "หญิงย้วย" โดยคลิปการรีวิวดังกล่าว หมอบอนด์ ได้ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความปลอดภัย และเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นสารที่บำรุงสมองให้สดชื่น และมีการนัดแนะเปิดตัวสินค้าดังกล่าว ในหลายสถานที่ เพื่อยืนยันผลิตภัณฑ์คลีโอ ใช้แล้วได้ผลจริง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกทั้ง 3 คนมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ เมื่อได้ข้อเท็จจริงจะส่งให้ทางแพทย์สภา ซึ่งเป็นองค์กรด้านวิชาชีพตรวจสอบด้วย ส่วนคดีอาญาก็ดำเนินไปคนละส่วน
พล.ต.อ.วิระชัย ยังกล่าวถึง กรณีที่มีผู้บริโภค ได้รับประทานผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ยี่ห้อลีน (Lyn)เสียชีวิต จากการตรวจสอบ พบว่าคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้ออกมาเตือนถึง ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อดังกล่าวว่า เป็นยาอันตรายถึงชีวิต และจากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 4 ราย
รายที่ 1 คือ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี เสียชีวิต เมื่อ 28 มี.ค.61 พื้นที่ สภ.กาญจนบุรี ทานยาเวลา 30 วัน แพทย์ให้ความเห็นเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ขณะนี้ได้ส่งศพพิสูจน์ ที่ รพ.ราชบุรี พร้อมยาลดความอ้วนยี่ห้อลีน กล่องสีขาว และสีดำ
รายที่ 2. นายณัฐพนธ์ บุญเทียม อายุ 33 ปี เสียชีวิตเมื่อ 6 เม.ย.61 ทานยา 10 วัน พบว่าไขมันเส้นเลือดอุดตัน และช็อกหมดสติ ซึ่งสารที่พบ เป็นผลข้างเคียงของตัวยาที่พบในอาหารเสริมลีน
รายที่ 3. เสียชีวิต เมื่อ27 เม.ย. พื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี คือ นายประภัสร ลำใย อายุ 48 ปี แพทย์ให้ความเห็น หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต ทานยามา 1 เดือนเศษ
รายที่ 4. เสียชีวิตวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อ สถานที่ เนื่องจากทราบทางโซเชียล
เมื่อนำเหตุการณ์ทั้ง 4 ราย มาประกอบวิเคราะห์ถึงเหตุที่เกิดขึ้น พบว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในวัยทำงาน ร่างกายแข็งแรง บางคนเป็นนักกีฬาแบตมินตัน ไม่เคยเข้ารพ.รักษาโรคใดมาก่อน เราจึงสังเกตุว่า ผู้ที่เสียชีวิตจะทานยาลดความอ้วนลีน กล่องขาวและกล่องดำ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทั้ง 3 คน จะมีอาการแน่นหน้าอก หมดสติ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของ สารอาหารไชบูทรามีน จากกล่องสีขาว และ สารบิชาโคดิล จากกล่องสีดำ จึงอยากฝากถึงประชาชน ว่า ขณะนี้ใครที่มียาดังกล่าว ให้หยุดบริโภค และถ้าใครจำหน่ายจะมีความผิด โทษจำคุก 2 ปี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา อย.ได้ประกาศเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลีน กล่องดำ (ลีน บล็อค เบิร์น เบรค บิวท์) และ กล่องขาว (ลีน เอฟเอส-ทรี) ถูกระบุว่า เป็นอาหารเสริม แต่ตรวจพบยาแผนปัจจุบัน ที่ทำมาจากสารไชบูทรามีน ที่กล่องสีขาว และ สารบิชาโคดิล ก่องสีดำ ซึ่งเป็นยาระบายที่กระตุ้นให้มีการขับถ่ายจำนวนมาก ทำให้เกิดการเสียน้ำ และเกลือแร่ ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ส่วนกล่องสีขาว จะออกฤทธิ์กดสมองไม่ให้อยากรับประทานอาหาร จึงทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร และเกิดช็อก หมดสติ โดยสารไชบูทรามีน ที่ต่างประเทศได้เลิกผลิตแล้ว และที่ไทย อย.ได้ประกาศเลิกผลิต เมื่อ11 ต.ค 53 แต่จากการสืบสวนพบว่า มีโรงงานผลิตในไทย ซึ่งหากพบ จะมีความผิดทั้งผู้ผลิต และผู้ขาย ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 จึงเป็นสิ่งมีที่อันตรายต่อสุขภาพ เข้าข่าย ม .26 (1) 25 (1) ตาม พ.ร.บ.อาหาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผลิตภันฑ์ลีน ผลิตที่ บ.ฟู้ด ชายน์ ซัฟพลาย เซอร์วิส อยู่ที่ อ.สามโคก จ.ปทุทธานี และผู้จัดจำหน่ายได้แก่ บ.เอกอัครินทร์ จำกัด ซึ่งมี น.ส.พิลภัทร เอกอัครินทร์ อายุ 40 ปี มีบ้านพักอยู่ที่ จ.ชลบุรี จึงขอเตือนไปยังประชาชนว่า ถ้ามีผลิตภัณฑ์ลีน ทั้งกล่องดำ และขาว ให้หยุดทานทันที ส่วนผู้ที่เคยรับประทานแล้วเกิดผลกระทบ หรือเสียชีวิต ให้แจ้งเบาะแสมาที่ตนได้ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุ หยุดยั้งไม่ให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการออกหมายเรียกเจ้าของผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวหรือยัง พล.ต.อ.วิระชัย ตอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วน อย.ได้ตรวจอายัดสินค้า ซึ่งตนจะตามไปสืบสวน ขยายผลต่อไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมคนงานจำนวน 7 คน จากการเข้าตรวจสอบของ อย. ส่วนที่เหลือ อยู่ระหว่างการขยายผล ได้ดำเนินคดี ข้อหา ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารไม่ตรงกับสลาก เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ และร่วมกันตั้งโรงงานจำหน่วยอาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอม ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี ปรับตังแต่ 5,000 บาท ถึง 100,000 บาท ส่วนเจ้าของบริษัทถ้าหากแพทย์มีความเห็นว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง
4 ราย เสียชีวิตเพราะอาหารเสริมดังกล่าว จะมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยเป็นเหตการณ์ต่างกรรม ต่างวาระซึ่งขณะเจ้าหน้าที่รอผลพิสูจน์อยู่
ทั้งนี้ พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีการจำหน่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจค้นแหล่งจำหน่าย ส่วนจะจำหน่ายมานานหรือยัง อยู่ระหว่างตรวจค้น ที่ จ.ชลบุรี ทางการข่าวทราบว่า มีการนำเลข อย.ของผลิตภัณฑ์อื่นมาสวม ทราบว่าเป็นผลิตภัณฑ์น้ำปลา ส่วนมูลค่ากิจการ หรือความเสียหายขอตรวจสอบอีกครั้ง
" ผลิตภัณฑ์ ลีน มีการจำหน่ายทั้งขายตรงและออนไลน์ มีจำนวนมากในโชเชียล และมีคนรีวิว จำนวนมากไม่แพ้ เมจิกสกิน และ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีดารารับจ้างรีวิวสินค้าด้วย และคาดว่าจะมีหลายคนด้วย และทราบอีกว่าธุรกิจนี้ มีกำไรดีมาก ราคา จะมีหลากหลาย มีโปรโมชั่นลด แลก แจกแถม จึงเป็นไปได้แน่นอนว่า มีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ส่วนที่จะแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วยหรือไม่ เรายังไม่สามารถสรุปได้ เพราะผลแพทย์ยังไม่ออกมา ซึ่งอาจจะเป็นการกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือเจตนาก็เป็นได้ จะต้องสอบสวนพฤติการณ์เพิ่มขึ้นอีก ซึ่ง อัตราโทษแต่ละข้อหา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป แพทย์ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์อย่างละเอียด" รอง ผบ.ตร. กล่าว
วานนี้ ( 29 เม.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมพนักงานสอบสวน คดีเมจิกสกิน หลังออกหมายเรียกให้เหล่าดารา มาให้ปากคำแล้ว 12 คน ว่า จากการสอบสวนขยายผล ได้ความคืบหน้า และเตรียมออกหมายเรียก ผู้ที่เกี่ยวข้องในการรีวิวสินค้าเพิ่ม โดยมี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามร่วมรีวิวสินค้าด้วย คือ นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษณ์ หรือ "หมอบอนด์" ที่รีวิวสินค้าคลีโอ ร่วมกับ น.ส.ปวีณา นามสงคราม หรือ "น้ำผึ้ง Take me out" ภรรยา และนาย กสิทย์ วรชิงตัน หรือ "หญิงย้วย" โดยคลิปการรีวิวดังกล่าว หมอบอนด์ ได้ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความปลอดภัย และเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นสารที่บำรุงสมองให้สดชื่น และมีการนัดแนะเปิดตัวสินค้าดังกล่าว ในหลายสถานที่ เพื่อยืนยันผลิตภัณฑ์คลีโอ ใช้แล้วได้ผลจริง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกทั้ง 3 คนมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ เมื่อได้ข้อเท็จจริงจะส่งให้ทางแพทย์สภา ซึ่งเป็นองค์กรด้านวิชาชีพตรวจสอบด้วย ส่วนคดีอาญาก็ดำเนินไปคนละส่วน
พล.ต.อ.วิระชัย ยังกล่าวถึง กรณีที่มีผู้บริโภค ได้รับประทานผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ยี่ห้อลีน (Lyn)เสียชีวิต จากการตรวจสอบ พบว่าคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้ออกมาเตือนถึง ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อดังกล่าวว่า เป็นยาอันตรายถึงชีวิต และจากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 4 ราย
รายที่ 1 คือ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี เสียชีวิต เมื่อ 28 มี.ค.61 พื้นที่ สภ.กาญจนบุรี ทานยาเวลา 30 วัน แพทย์ให้ความเห็นเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ขณะนี้ได้ส่งศพพิสูจน์ ที่ รพ.ราชบุรี พร้อมยาลดความอ้วนยี่ห้อลีน กล่องสีขาว และสีดำ
รายที่ 2. นายณัฐพนธ์ บุญเทียม อายุ 33 ปี เสียชีวิตเมื่อ 6 เม.ย.61 ทานยา 10 วัน พบว่าไขมันเส้นเลือดอุดตัน และช็อกหมดสติ ซึ่งสารที่พบ เป็นผลข้างเคียงของตัวยาที่พบในอาหารเสริมลีน
รายที่ 3. เสียชีวิต เมื่อ27 เม.ย. พื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี คือ นายประภัสร ลำใย อายุ 48 ปี แพทย์ให้ความเห็น หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต ทานยามา 1 เดือนเศษ
รายที่ 4. เสียชีวิตวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อ สถานที่ เนื่องจากทราบทางโซเชียล
เมื่อนำเหตุการณ์ทั้ง 4 ราย มาประกอบวิเคราะห์ถึงเหตุที่เกิดขึ้น พบว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในวัยทำงาน ร่างกายแข็งแรง บางคนเป็นนักกีฬาแบตมินตัน ไม่เคยเข้ารพ.รักษาโรคใดมาก่อน เราจึงสังเกตุว่า ผู้ที่เสียชีวิตจะทานยาลดความอ้วนลีน กล่องขาวและกล่องดำ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทั้ง 3 คน จะมีอาการแน่นหน้าอก หมดสติ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของ สารอาหารไชบูทรามีน จากกล่องสีขาว และ สารบิชาโคดิล จากกล่องสีดำ จึงอยากฝากถึงประชาชน ว่า ขณะนี้ใครที่มียาดังกล่าว ให้หยุดบริโภค และถ้าใครจำหน่ายจะมีความผิด โทษจำคุก 2 ปี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา อย.ได้ประกาศเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลีน กล่องดำ (ลีน บล็อค เบิร์น เบรค บิวท์) และ กล่องขาว (ลีน เอฟเอส-ทรี) ถูกระบุว่า เป็นอาหารเสริม แต่ตรวจพบยาแผนปัจจุบัน ที่ทำมาจากสารไชบูทรามีน ที่กล่องสีขาว และ สารบิชาโคดิล ก่องสีดำ ซึ่งเป็นยาระบายที่กระตุ้นให้มีการขับถ่ายจำนวนมาก ทำให้เกิดการเสียน้ำ และเกลือแร่ ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ส่วนกล่องสีขาว จะออกฤทธิ์กดสมองไม่ให้อยากรับประทานอาหาร จึงทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร และเกิดช็อก หมดสติ โดยสารไชบูทรามีน ที่ต่างประเทศได้เลิกผลิตแล้ว และที่ไทย อย.ได้ประกาศเลิกผลิต เมื่อ11 ต.ค 53 แต่จากการสืบสวนพบว่า มีโรงงานผลิตในไทย ซึ่งหากพบ จะมีความผิดทั้งผู้ผลิต และผู้ขาย ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 จึงเป็นสิ่งมีที่อันตรายต่อสุขภาพ เข้าข่าย ม .26 (1) 25 (1) ตาม พ.ร.บ.อาหาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผลิตภันฑ์ลีน ผลิตที่ บ.ฟู้ด ชายน์ ซัฟพลาย เซอร์วิส อยู่ที่ อ.สามโคก จ.ปทุทธานี และผู้จัดจำหน่ายได้แก่ บ.เอกอัครินทร์ จำกัด ซึ่งมี น.ส.พิลภัทร เอกอัครินทร์ อายุ 40 ปี มีบ้านพักอยู่ที่ จ.ชลบุรี จึงขอเตือนไปยังประชาชนว่า ถ้ามีผลิตภัณฑ์ลีน ทั้งกล่องดำ และขาว ให้หยุดทานทันที ส่วนผู้ที่เคยรับประทานแล้วเกิดผลกระทบ หรือเสียชีวิต ให้แจ้งเบาะแสมาที่ตนได้ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุ หยุดยั้งไม่ให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการออกหมายเรียกเจ้าของผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวหรือยัง พล.ต.อ.วิระชัย ตอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วน อย.ได้ตรวจอายัดสินค้า ซึ่งตนจะตามไปสืบสวน ขยายผลต่อไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมคนงานจำนวน 7 คน จากการเข้าตรวจสอบของ อย. ส่วนที่เหลือ อยู่ระหว่างการขยายผล ได้ดำเนินคดี ข้อหา ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารไม่ตรงกับสลาก เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ และร่วมกันตั้งโรงงานจำหน่วยอาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอม ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี ปรับตังแต่ 5,000 บาท ถึง 100,000 บาท ส่วนเจ้าของบริษัทถ้าหากแพทย์มีความเห็นว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง
4 ราย เสียชีวิตเพราะอาหารเสริมดังกล่าว จะมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยเป็นเหตการณ์ต่างกรรม ต่างวาระซึ่งขณะเจ้าหน้าที่รอผลพิสูจน์อยู่
ทั้งนี้ พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีการจำหน่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจค้นแหล่งจำหน่าย ส่วนจะจำหน่ายมานานหรือยัง อยู่ระหว่างตรวจค้น ที่ จ.ชลบุรี ทางการข่าวทราบว่า มีการนำเลข อย.ของผลิตภัณฑ์อื่นมาสวม ทราบว่าเป็นผลิตภัณฑ์น้ำปลา ส่วนมูลค่ากิจการ หรือความเสียหายขอตรวจสอบอีกครั้ง
" ผลิตภัณฑ์ ลีน มีการจำหน่ายทั้งขายตรงและออนไลน์ มีจำนวนมากในโชเชียล และมีคนรีวิว จำนวนมากไม่แพ้ เมจิกสกิน และ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีดารารับจ้างรีวิวสินค้าด้วย และคาดว่าจะมีหลายคนด้วย และทราบอีกว่าธุรกิจนี้ มีกำไรดีมาก ราคา จะมีหลากหลาย มีโปรโมชั่นลด แลก แจกแถม จึงเป็นไปได้แน่นอนว่า มีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ส่วนที่จะแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วยหรือไม่ เรายังไม่สามารถสรุปได้ เพราะผลแพทย์ยังไม่ออกมา ซึ่งอาจจะเป็นการกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือเจตนาก็เป็นได้ จะต้องสอบสวนพฤติการณ์เพิ่มขึ้นอีก ซึ่ง อัตราโทษแต่ละข้อหา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป แพทย์ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์อย่างละเอียด" รอง ผบ.ตร. กล่าว